“ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์” ลูกเขยทักษิณ ประกาศ 5 ยุทธศาสตร์ ดัน SC สู้คู่แข่ง วางเป้ารายได้แตะ 14,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี เผยแผนลงทุนปี 56 เปิด 13 โครงการใหม่ มูลค่า 20,000 ล้านบาท พร้อมบุกตลาดพัทยาเป็นครั้งแรก ตั้งเป้ายอดขายทั้งปี 15,000 ล้านบาท
นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC เปิดเผยแผนการดำเนินงานของเอสซีในปี 2556 ว่า ในปีนี้เปิด 13 โครงการใหม่ มูลค่า 20,000 ล้านบาท โดยแบ่งสัดส่วนการพัฒนาเป็นแนวราบ 70% และอีก 30% เป็นโครงการแนวสูง เพื่อรักษาระดับการรับรู้รายได้ให้มีความสม่ำเสมอ ประกอบด้วย โครงการบ้านเดี่ยว และทาวน์โฮม 9 โครงการ และคอนโดมิเนียม 4 โครงการ ในจำนวนนี้เป็นโครงการในทำเลหัวเมืองท่องเที่ยว 2 โครงการ ที่หัวหิน และพัทยา ตั้งเป้ารายได้ 10,000 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดขายเติบโตมากกว่า 20% หรือ 15,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในโอกาสที่ปีนี้ครบรอบ 10 ปีในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยของบริษัท จึงได้กำหนดทิศทางการดำเนินงานด้วยการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยั่งยืน โดยตั้งเป้าภายใน 3 ปีหลังจากนี้จะต้องมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่าปีละ 15% มีรายได้มากกว่า 10,000 ล้านบาท/ปี และในปีที่ 3 หรือปี 2558 จะมีรายได้ไม่น้อยกว่า 14,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทได้กำหนด 5 ยุทธศาสตร์เชิงรุกการเติบโตอย่างยั่งยืน ได้แก่ 1.การสื่อสารในเชิงรุก เน้นการสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ และแตกต่างในแบบของเอสซี ในทุกๆ Touch Point ที่สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย 2.การยกระดับการรักษามาตรฐานคุณภาพของสินค้า และบริการหลังการขาย 3.การนำเทคโนโลยีพรีคาสต์ (Precast) เข้ามาใช้ในระบบการก่อสร้าง เพื่อรองรับปัญหาการขาดแคลนแรงงาน และลดระยะเวลาในการก่อสร้าง
4.เตรียมความพร้อมรองรับ AEC จะมีการขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ในต่างจังหวัด โดยเริ่มจากหัวเมืองท่องเที่ยว และเพื่อให้เอสซีฯ เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ จะมีการจัดโรดโชว์ที่ต่างประเทศทั้งในแง่ของอีเวนต์แนะนำโครงการ และอีเวนต์สำหรับนักลงทุน และนักวิเคราะห์ เช่น จีน สิงคโปร์ และฮ่องกง และ 5.นโยบายทาง CSR จะถูกดำเนินควบคู่ไปกับการเติบโตของธุรกิจอย่างจริงจัง
ด้านนายกรี เดชชัย ประธานเจ้าหน้าที่ด้านปฏิบัติการ บริษัท เอสซีฯ กล่าวว่า สำหรับ 13 โครงการที่จะเปิดใหม่ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 9 โครงการ ซึ่งยังคงพัฒนาตามแนวคิดบ้านระดับพรีเมียม และจะมีการกระจายทำเลมากขึ้น โดยขยายไปยังโซนใหม่ เช่น บริเวณชุมชนย่านรังสิต โดยไตรมาสแรกเปิดตัวบ้านเดี่ยว “โครงการไลฟ์ บางกอก บูเลอวาร์ด รังสิต” มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท ราคาเริ่มต้นที่ 4 ล้านบาทขึ้นไป และยังมีการขยายโครงการไปยังหัวเมืองต่างจังหวัดที่หัวหิน และพัทยา รวมถึงการเข้าไปศึกษาตลาดต่างจังหวัด เช่น อุดรธานี และภูเก็ต ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป
ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมใหม่อีก 4 โครงการ ภายใต้แบรนด์ “เซ็นทริค” 3 โครงการ ตั้งอยู่บริเวณแนวรถไฟฟ้าซึ่งเป็นทำเลที่มีศักยภาพ ได้แก่ สถานีอารีย์ และสถานีรัชดา-ห้วยขวาง และอีกหนึ่งโครงการเซ็นทริคจะเปิดที่เมืองพัทยา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทำเลศักยภาพเนื่องจากเป็นหัวเมืองชายทะเลท่องเที่ยว และไม่ไกลจากกรุงเทพฯ
นอกจากนี้ บริษัทได้มีการปล่อยแบรนด์คอนโดมิเนียมใหม่ล่าสุดออกสู่ตลาด คือ “โครงการแชมเบอร์ส (CHAMBERS) รามอินทรา” คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ อารมณ์บ้าน เมื่อรวมโครงการที่เปิดใหม่ และโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย จะทำให้ในปีนี้เอสซีฯ จะมีโครงการที่เปิดขายทั้งสิ้น 37 โครงการ มูลค่ารวม กว่า 36,000 ล้านบาท ในขณะที่ ณ สิ้นปีที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ 7,000 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้ตั้งแต่ปีนี้ไปจนถึงปี 2558 ซึ่งในปีนี้ จะสามารถรับรู้รายได้ประมาณ 20%
สำหรับโครงการอาคารสำนักงานแห่งใหม่ คาดว่าจะเปิดเพิ่มอีก 1 โครงการ บริเวณใกล้กับธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ (บริเวณดังกล่าวมีอาคารชินวัตร ทาวเวอร์ 1) โดยดำเนินการบนที่ดิน 2 ไร่ ขนาดพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร มูลค่าการลงทุนประมาณ 700 ล้านบาท
“เชื่อว่าปีนี้เอสซี แอสเสท จะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายยอดขายและรายได้ที่ตั้งไว้ นอกจากนี้ ยังเตรียมงบประมาณ 4,000 ล้านบาท เพื่อซื้อที่ดินรองรับการพัฒนาโครงการในอนาคต”
สำหรับการดำเนินงานในปี 2555 ที่ผ่านมาถือว่าดีกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยบริษัทฯ เปิดโครงการใหม่ทั้งสิ้น 14 โครงการ รวมมูลค่า 16,700 ล้านบาท สามารถสร้างยอดขายได้ 12,000 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายยอดขายที่ตั้งไว้ที่ 10,000 ล้านบาท และทำรายได้รวมทั้งปีได้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้อยู่ที่ 8,000 ล้านบาท