ASTVผู้จัดการรายวัน - SC โชว์ยอดขาย 10 เดือนแตะหมื่นล้านบาท เดือน พ.ย. นี้เปิด 5 โครงการรวด คาดทั้งปีโกย 1.1 หมื่นล้านบาท เผยปีหน้าเปิดโครงการใหม่มูลค่าไม่น้อยกว่า 20,000 ล้านบาท พร้อมยอมรับอัตรากำไรสุทธิลด เหตุทุ่มงบการตลาดเพิ่ม
นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ (ลูกเขยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ) รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC กล่าวว่า ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาบริษัทสามารถทำยอดขายได้ถึง 10,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเป้ามหายยอดขายทั้งปี 55 และสูงกว่ายอดขายรวมปี 54 ดังนั้นถึงสิ้นปีคาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ไม่น้อยกว่า 11,000 ล้านบาท สูงกว้าเป้าหมาย 10% ส่วนรายได้ในปีนี้คาดว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่ 8,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันมี backlog ที่ 7,000-8,000 ล้านบาทที่จะทยอยรับรู้รายได้ใน 3 ปี อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า อัตรากำไรสุทธิ (net profit margin) ปีนี้คงต่ำกว่าปีก่อน แม้ว่าจะมียอดรับรู้รายได้สูงขึ้น เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการทำกิจกรรมทางการตลาดสูงขึ้น ประกอบกับต้นทุนก่อสร้างเพิ่มขึ้น
สำหรับไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งถือว่าเป็นช่วงที่ดีของตลาดอสังหาริมทรัพย์ แม้จะมีปัจจัยลบจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกทั้งสหรัฐและยุโรป รวมทั้งมีปัญหาการขาดแคลนแรงงานและการบังคับใช้กฎหมายที่ดินใหม่ แต่อสังหาฯยังมีปัจจัยหนุนทั้งในเรื่องของอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศยังไปได้ดี มีก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ระบบสาธารณูปโภคของรัฐ ไม่เกิดปัญหาน้ำท่วมเหมือนปีก่อนทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นมากขึ้น นอกจากนี้อัตราดอกเบี้ยที่ปรับลดลง ยังช่วยจูงใจให้ผู้บริโภคหันมาซื้ออสังหาฯมากขึ้น
ดังนั้นเพื่อรองรับกำลังซื้อที่มีอยู่ในตลาด บริษัทจึงเตรียมเปิด 5 โครงการใหม่พร้อมกันในเดือนพฤศจิกายนนี้ มูลค่าโครงการรวม 7.55 พันล้านบาท โดยในวันที่ 11 พ.ย.บริษัทจะจัดกิจกรรมการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายโค้งสุดท้ายของปี ส่วนปี 56 บริษัทตั้งเป้ารายได้แตะ 1 หมื่นล้านบาท พร้อมทั้งมีแผนเปิดโครงการใหม่มูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านบาท จากปี 55 ที่เปิดโครงการใหม่มูลค่ารวม 17,000 – 18,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะเป็นการเปิดโครงการแนวราบ 70% และคอนโดมิเนียม 30% เน้นโครงการในกทม.และจังหวัดหัวเมืองท่องเที่ยว เช่น พัทยา และชะอำ และคาดรายได้ช่วง 3 ปีจะเติบโตต่อเนื่องอย่างน้อยปีละ 10%
นอกจากนี้ บริษัทตั้งงบจัดซื้อที่ดินในปีหน้าไว้ประมาณ 3-4 พันล้านบาท น้อยกว่าปีนี้ที่มีงบจัดซื้อที่ดิน 5 พันล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีที่ดินในมือเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ได้ถึง 3 ปี และในโอกาสที่บริษัทดำเนินงานครบ 10 ปี ในปี 56 บริษัทได้มีนโยบายเชิงรุกในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รับรู้และเข้าถึงผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น มีการจัดกิจกรรมทางการตลาดที่ทันสมัยชัดเจน รวมถึงกิจกรรมช่วยเหลือสังคม ซึ่งจะสื่อสารภาพลักษณ์ใหม่ในต้นปี 56 นี้ โดยจะใช้งบการตลาดเพิ่มมากขึ้นจากเดิมที่ใช้ประมาณ 5% ของรายได้.
นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ (ลูกเขยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ) รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC กล่าวว่า ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาบริษัทสามารถทำยอดขายได้ถึง 10,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเป้ามหายยอดขายทั้งปี 55 และสูงกว่ายอดขายรวมปี 54 ดังนั้นถึงสิ้นปีคาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ไม่น้อยกว่า 11,000 ล้านบาท สูงกว้าเป้าหมาย 10% ส่วนรายได้ในปีนี้คาดว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่ 8,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันมี backlog ที่ 7,000-8,000 ล้านบาทที่จะทยอยรับรู้รายได้ใน 3 ปี อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า อัตรากำไรสุทธิ (net profit margin) ปีนี้คงต่ำกว่าปีก่อน แม้ว่าจะมียอดรับรู้รายได้สูงขึ้น เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการทำกิจกรรมทางการตลาดสูงขึ้น ประกอบกับต้นทุนก่อสร้างเพิ่มขึ้น
สำหรับไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งถือว่าเป็นช่วงที่ดีของตลาดอสังหาริมทรัพย์ แม้จะมีปัจจัยลบจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกทั้งสหรัฐและยุโรป รวมทั้งมีปัญหาการขาดแคลนแรงงานและการบังคับใช้กฎหมายที่ดินใหม่ แต่อสังหาฯยังมีปัจจัยหนุนทั้งในเรื่องของอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศยังไปได้ดี มีก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ระบบสาธารณูปโภคของรัฐ ไม่เกิดปัญหาน้ำท่วมเหมือนปีก่อนทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นมากขึ้น นอกจากนี้อัตราดอกเบี้ยที่ปรับลดลง ยังช่วยจูงใจให้ผู้บริโภคหันมาซื้ออสังหาฯมากขึ้น
ดังนั้นเพื่อรองรับกำลังซื้อที่มีอยู่ในตลาด บริษัทจึงเตรียมเปิด 5 โครงการใหม่พร้อมกันในเดือนพฤศจิกายนนี้ มูลค่าโครงการรวม 7.55 พันล้านบาท โดยในวันที่ 11 พ.ย.บริษัทจะจัดกิจกรรมการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายโค้งสุดท้ายของปี ส่วนปี 56 บริษัทตั้งเป้ารายได้แตะ 1 หมื่นล้านบาท พร้อมทั้งมีแผนเปิดโครงการใหม่มูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านบาท จากปี 55 ที่เปิดโครงการใหม่มูลค่ารวม 17,000 – 18,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะเป็นการเปิดโครงการแนวราบ 70% และคอนโดมิเนียม 30% เน้นโครงการในกทม.และจังหวัดหัวเมืองท่องเที่ยว เช่น พัทยา และชะอำ และคาดรายได้ช่วง 3 ปีจะเติบโตต่อเนื่องอย่างน้อยปีละ 10%
นอกจากนี้ บริษัทตั้งงบจัดซื้อที่ดินในปีหน้าไว้ประมาณ 3-4 พันล้านบาท น้อยกว่าปีนี้ที่มีงบจัดซื้อที่ดิน 5 พันล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีที่ดินในมือเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ได้ถึง 3 ปี และในโอกาสที่บริษัทดำเนินงานครบ 10 ปี ในปี 56 บริษัทได้มีนโยบายเชิงรุกในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รับรู้และเข้าถึงผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น มีการจัดกิจกรรมทางการตลาดที่ทันสมัยชัดเจน รวมถึงกิจกรรมช่วยเหลือสังคม ซึ่งจะสื่อสารภาพลักษณ์ใหม่ในต้นปี 56 นี้ โดยจะใช้งบการตลาดเพิ่มมากขึ้นจากเดิมที่ใช้ประมาณ 5% ของรายได้.