เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ ลั่นปีหน้ารักษาอัตรากำไรสุทธิโต 2 หลัก ขณะไตรมาส 3/55 อยู่ที่ 11.7% เน้นขายสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง พร้อมบุกตลาดใหม่อาเซียนหนุนการเติบโต “ผู้บริหาร” คาดรายได้ปีนี้โต 5% จากปีก่อนที่มี 2.6 หมื่นล้านบาท
นายอนุสรณ์ มุทราอิศ กรรมการ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าปีหน้าจะมีอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิ (net profit marginระดับ 2 ) ขณะสิ้นไตรมาส 3/55 อยู่ที่ 11.7% เนื่องจากบริษัทจะเน้นการขายสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูง (มาร์จิ้น) ซึ่งคาดว่าปีหน้าจะไม่ต่ำกว่าปีนี้ และไตรมาส 3/55 เฉลี่ยอยู่ที่ 27.5% บริษัทจะเจาะตลาดใหม่ในกลุ่มประเทศในกลุ่มอาเซียน ซึ่งในช่วงแรกนั้นจะส่งสินค้าไปจำหน่ายก่อน เพื่อศึกษาตลาด และมองความคุ้มค่าในการลงทุนก่อน เพราะบริษัทยังคงเน้นตลาดนิวซีแลนด์ และออสเตรเลียอยู่ เพื่อที่จะทำให้ผลประกอบการของบริษัทมีการเติบโตต่อเนื่อง จากตลาดยุโรป และสหรัฐอเมริกาที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ บริษัทเพิ่งอนุมัติแผนในการลดต้นทุนการผลิตสินค้าในยุโรป และสหรัฐอเมริกา เพราะต้นทุนการผลิตในประเทศดังกล่าวสูงกว่าในไทย 2-3 เท่า ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษาว่าต้นทุนจะเป็นอย่างไร เพราะแม้ต้นทุนจะแพงกว่าแต่ราคาขายก็สูงกว่าเช่นกัน อีกทั้งจะพยายามรักษากำไรก่อนหักภาษี และค่าเสื่อม (อิบิด้า) ประมาณ 9,000-10,000 ล้านบาท ซึ่ง ณ ไตรมาส 3/55 อยู่ที่ 13,000 ล้านบาท โดยปีนี้ DELTA คาดรายได้ปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 5% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ทำไว้ 26,842 ล้านบาท
นายอนุสรณ์ มุทราอิศ กรรมการ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าปีหน้าจะมีอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิ (net profit marginระดับ 2 ) ขณะสิ้นไตรมาส 3/55 อยู่ที่ 11.7% เนื่องจากบริษัทจะเน้นการขายสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูง (มาร์จิ้น) ซึ่งคาดว่าปีหน้าจะไม่ต่ำกว่าปีนี้ และไตรมาส 3/55 เฉลี่ยอยู่ที่ 27.5% บริษัทจะเจาะตลาดใหม่ในกลุ่มประเทศในกลุ่มอาเซียน ซึ่งในช่วงแรกนั้นจะส่งสินค้าไปจำหน่ายก่อน เพื่อศึกษาตลาด และมองความคุ้มค่าในการลงทุนก่อน เพราะบริษัทยังคงเน้นตลาดนิวซีแลนด์ และออสเตรเลียอยู่ เพื่อที่จะทำให้ผลประกอบการของบริษัทมีการเติบโตต่อเนื่อง จากตลาดยุโรป และสหรัฐอเมริกาที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ บริษัทเพิ่งอนุมัติแผนในการลดต้นทุนการผลิตสินค้าในยุโรป และสหรัฐอเมริกา เพราะต้นทุนการผลิตในประเทศดังกล่าวสูงกว่าในไทย 2-3 เท่า ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษาว่าต้นทุนจะเป็นอย่างไร เพราะแม้ต้นทุนจะแพงกว่าแต่ราคาขายก็สูงกว่าเช่นกัน อีกทั้งจะพยายามรักษากำไรก่อนหักภาษี และค่าเสื่อม (อิบิด้า) ประมาณ 9,000-10,000 ล้านบาท ซึ่ง ณ ไตรมาส 3/55 อยู่ที่ 13,000 ล้านบาท โดยปีนี้ DELTA คาดรายได้ปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 5% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ทำไว้ 26,842 ล้านบาท