xs
xsm
sm
md
lg

เผยสัญญาณ ศก.ฟื้น แบงก์กำไรโต คาดประชุม กนง.นัดแรกคง ดบ.นโยบาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คาด กนง.นัดแรกปีนี้ 9 ม.ค. คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.75% หลังสัญญาณ ศก. เริ่มฟื้นตัว พร้อมติดตามผลกระทบนอกประเทศ โบรกเกอร์คาดไตรมาสสุดท้ายของปี 2555 กลุ่ม 10 แบงก์กำไรโต 90%

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) นัดแรกของปีนี้ ในวันที่ 9 ม.ค.56 ซึ่งมี นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธปท. เป็นประธาน มีโอกาสที่ กนง.จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.75% เพื่อรักษาแรงส่งของการขยายตัวทางเศรษฐกิจ จากเหตุผลที่สำคัญ 4 ประการ ประกอบไปด้วย

ปัจจัยที่ 1 บรรยากาศเศรษฐกิจโลกปรับตัวไปในทิศทางเชิงบวกมากขึ้น โดยตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2555 ที่ผ่านมา เศรษฐกิจประเทศแกนหลักของโลกเริ่มปรากฏสัญญาณในเชิงบวกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นประเทศจีน และสหรัฐฯ ซึ่งภาคอสังหาริมทรัพย์ของทั้งสองประเทศ มีสัญญาณฟื้นตัวอย่างชัดเจน ขณะที่สหรัฐฯ มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเฉลี่ยเดือนละ 150,000 ตำแหน่ง รวมถึงเมื่อเร็วๆ นี้ ฝ่ายนิติบัญญัติก็ผ่านร่างกฎหมายเพื่อเลี่ยงภาวะ Fiscal Cliff โดยสภาคองเกรสของสหรัฐฯ น่าจะช่วยลดความเสี่ยงที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งปัจจัยบวกนี้น่าจะช่วยผ่อนคลายความกังวลต่อแนวโน้มการส่งออกไทยในช่วงเดือนอันใกล้นี้ได้

ปัจจัยที่ 2 พัฒนาการของเศรษฐกิจไทยมีการขยายตัวที่ดีขึ้นตามลำดับ และเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับที่ไม่น่ากังวล เมื่อมองไปในไตรมาสแรกของปี 56 มีความเป็นไปได้ที่ภาคการส่งออกไทยน่าจะทยอยฟื้นตัวชัดเจนขึ้น สอดคล้องกับสัญญาณบวกของเศรษฐกิจต่างประเทศ และแรงส่งจากทิศทางราคาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรบางตัวที่เริ่มผงกหัวชัดเจนขึ้น ซึ่งเมื่อผนวกกับความต่อเนื่องของการใช้จ่ายในประเทศ ตามแรงหนุนจากนโยบายกระตุ้นการบริโภคจากภาครัฐที่ยังคงประสิทธิผลอยู่ ก็น่าจะช่วยหนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจของทั้งไตรมาสแรกของปี 56 ยังคงภาพของการฟื้นตัวไว้ได้

ปัจจัยที่ 3 สถานการณ์ทั้งใน และนอกประเทศที่ประคองตัวได้ดังกล่าว น่าจะทำให้ ธปท.สามารถตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในรอบนี้ เพื่อรอความชัดเจนทางเศรษฐกิจเพิ่มเติม ก่อนเลือกทิศทางนโยบายดอกเบี้ยที่เหมาะสมต่อไป โดยปัจจัยติดตามที่สำคัญในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้านี้ยังพุ่งเป้าหมายไปที่สหรัฐฯ

สุดท้าย ผลต่ออัตราดอกเบี้ยธนาคารพาณิชย์ไทย คาดว่าความเป็นไปได้ที่อาจมีการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ผนวกกับเงินฝากที่ไหลเข้าสู่ระบบธนาคารพาณิชย์มากในช่วงปลายปี 55 น่าจะทำให้การแข่งขันด้านราคาของเงินฝากพิเศษค่อนข้างนิ่งในช่วง 1-2 เดือนนี้

ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซียพลัส เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยได้ประมาณการกำไรงวดไตรมาสที่ 4 ของปี 2555 พบว่า ธนาคารพาณิชย์ 10 แห่ง มีกำไรสุทธิเติบโต 90% โดยมีกำไรสุทธิรวม 4.02 หมื่นล้านบาท แต่ลดลง 9.4% หากเทียบกับงวดไตรมาส 3 ของปี 2555 ดีกว่าที่ฝ่ายวิจัยประเมินไว้เดิมว่าจะหดตัว 14.9% และเติบโต 78.9% หากเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน

ธนาคารที่คาดว่าเติบโตของกำไรสุทธิที่โดดเด่นสุด 3 อันดับแรกในงวดนี้ ได้แก่ ธนาคารเกียรตินาคิน (KK) จากรายได้ค่าธรรมเนียมของการทำดีลหุ้น ปตท. (PTTEP) และเทสโก้ฯ ธนาคารทหารไทย (TMB) จากสินเชื่อผลตอบแทนสูงเติบโตโดดเด่น พร้อมรายได้ส่วนต่างดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และธนาคารกรุงเทพ (BBL) จากรายได้ค่าธรรมเนียมฯ หนุน พร้อมอัตราภาษีเงินได้ที่ต่ำผิดปกติในงวดนี้

ยกเว้นเพียงธนาคารกรุงไทย (KTB) ต้องสำรองเพิ่มหนัก ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ต้นทุนเพิ่ม (Cost to income ratio) และสำรองเพิ่มสูง และธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ต้องสำรองเพิ่ม ที่คาดจะแสดงการลดลงของกำไรสุทธิงวดนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น