ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติเผยส่งกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อที่ใช้ดำเนินนโยบายการเงินปีหน้าให้ รมว.คลังแล้ว ใช้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเป็นไปเป้าต่อไปก่อนอีกปี หรือจนกว่ารัฐบาลจะปรับโครงสร้างราคาพลังงานเสร็จ แล้วอาจเปลี่ยนใช้กรอบเงินเฟ้อทั่วไป ระบุปีหน้าต้องจับตาราคาพลังงาน กับค่าแรง 300 บาท
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท.ได้ส่งกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อซึ่งจะนำไปใช้ในปี 2556 ไปให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รมว.คลังพิจารณา เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา หลัง รมว.คลัง พิจารณา และเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ จะสามารถเปิดเผยตัวเลขเป้าหมาย โดยในปีหน้าเป้าหมายเงินเฟ้อของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะใช้ในการพิจารณาอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังคงเป็นอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานต่อไปก่อน เพราะในขณะนี้ รัฐบาลยังอยู่ในระหว่างการปรับปรุงโครงสร้างราคาพลังงานของประเทศ
“การปรับไปใช้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเป็นเป้าหมาย ในขณะที่การปรับปรุงโครงสร้างพลังงานของประเทศยังไม่แล้วเสร็จ หากมีการปรับโครงสร้างในระหว่างนั้นจะทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปกระโดดขึ้นได้ ซึ่งทำให้ขณะนี้ยังไม่เหมาะสมในการใช้อัตราเงินเฟ้อทั่วไป เป็นเป้าหมายนโยบายการเงินของประเทศ” นายประสารกล่าวและว่า หากในระยะต่อไปหากรัฐบาลมีการปรับโครงสร้างราคาพลังงานของประเทศเสร็จสิ้นแล้ว ก็มีโอกาสที่ กนง.จะปรับไปใช้เป้าหมายนโยบายการเงิน โดยใช้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปแทนได้ แต่ในขณะนี้ กนง.สามารถใช้ได้ทั้งเงินเฟ้อพื้นฐาน หรือเงินเฟ้อทั่วไป เพราะในการประชุมพิจารณานโยบายดอกเบี้ยทุกครั้ง เราจะดูทิศทางพร้อมกันทั้ง 2 ตัว
สำหรับทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระยะต่อไป ต้องมองไปข้างหน้าทั้งภาคเศรษฐกิจ และการเงิน แต่สำหรับแรงกดดันอัตราเงินเฟ้อนั้น ในช่วงต่อไปก็มีไม่มากนัก แต่ต้องจับตาผลกระทบ และการปรับตัวของระบบเศรษฐกิจไทย และอัตราเงินเฟ้อของปีหน้าใน 2 ด้านคือ ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการปรับโครงสร้างราคาพลังงานของประเทศ และการปรับค่าแรงเป็น 300 บาททั่วประเทศว่า ภาคธุรกิจจะปรับตัวได้มากแค่ไหน และอย่างไร