ภาคการเงินชี้ แรงกดดัน “เงินเฟ้อ” เริ่มผ่อนคลาย ธปท. มีช่องลด ดบ. รับมือพายุ ศก.โลก

ธ.ไทยพาณิชย์ ชี้แรงกดดัน “เงินเฟ้อ” เริ่มผ่อนคลาย ส่งผลให้ ธปท. มีช่องทางปรับลด ดบ.นโยบาย ในช่วงที่เหลือของปีนี้ได้ หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินต้องรับมือพายุ ศก.โลก

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB EIC ออกบทวิเคราะห์ “เงินเฟ้อเดือนกรกฎาคม 2555 อยู่ที่ 2.73% เร่งขึ้นเล็กน้อยจากราคาพลังงานในประเทศ” โดยระบุว่า กระทรวงพาณิชย์ประกาศอัตราเงินเฟ้อเดือนกรกฎาคม 2012 โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 2.73% YOY (เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า) เร่งขึ้นเล็กน้อยจาก 2.57% YOY ในเดือนพฤษภาคม ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 1.87% YOY ชะลอลงจาก 1.92% YOY ในเดือนที่ผ่านมา

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเร่งขึ้นเล็กน้อยจากราคาน้ำมัน และราคาผลไม้ ราคาน้ำมันขายปลีกในเดือนกรกฎาคม 2555 เพิ่มสูงขึ้นจากเดือนที่ผ่านมา ตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นราว 10% ส่งผลให้ดัชนีราคาในหมวดพลังงานเพิ่มขึ้น 1.5% MOM (เทียบกับเดือนที่แล้ว) ในขณะที่ราคาผลไม้เพิ่มสูงถึง 8.5% MOM เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ราคาสินค้าในหมวดอาหารสดเร่งขึ้นราว 0.9% MOM

อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานทรงตัว ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (ไม่รวมราคาสินค้าหมวดพลังงาน และอาหารสด) ทรงตัวเนื่องจากราคาอาหารสำเร็จรูป ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนที่แล้ว ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการที่ภาครัฐขยายระยะเวลาการตรึงราคาก๊าซธรรมชาติ (LPG) ภาคครัวเรือน ไปจนถึงสิ้นปี 2012 จากเดิมที่จะหมดระยะเวลาการตรึงราคาในกลางเดือนสิงหาคม 2555 ทำให้ผู้ประกอบการยังไม่ทยอยปรับขึ้นราคาอาหารสำเร็จรูปในช่วงที่ผ่านมา

แรงกดดันเงินเฟ้อในระยะต่อไป ลดน้อยลงกว่าที่คาดไว้เดิม การขยายระยะเวลาการตรึงราคา LPG ภาคครัวเรือนเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้แรงกดดันเงินเฟ้อในช่วงที่เหลือของปีนี้ลดลง เนื่องจากราคา LPG ภาคครัวเรือนต่ำกว่าราคาจริงของ LPG อยู่ถึงประมาณ 40%

อัตราเงินเฟ้อเป็นปัจจัยรองสำหรับการดำเนินนโยบายการเงินในช่วงที่เหลือของปี แรงกดดันเงินเฟ้อที่ลดลง ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สามารถปรับลดดอกเบี้ยได้หากเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรปในช่วงที่เหลือของปีนี้