บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ให้กลยุทธ์การลงทุนตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้ว่า “Trading ระหว่างวัน” แนวโน้มตลาด “เคลื่อนไหวในกรอบ”
โดยประเมินว่า แรงขายของ SETI เริ่มเห็นการชะลอตัวเมื่อวาน ก่อนข่าวเตือนภัยสึนามิใน 6 จังหวัดชายฝั่งอันดามันของไทยหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว 8.7 ริกเตอร์ที่อินโดนีเซีย ทำให้นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทยสูงถึง 3.48 พันล้านบาท และเนื่องจากสถานการณ์ไม่ได้แย่ดังคาด ทำให้คาดเห็นการรีบาวนด์ระยะสั้นได้ในวันนี้ สนับสนุนโดยการปรับขึ้นของตลาดหุ้นต่างประเทศ หากคงไปไม่ได้ไกล เนื่องจาก เป็นวันทำการสุดท้ายก่อนหยุดยาว ทั้งนี้ คาดเห็น SETI มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ
ดั้งนั้น กลยุทธ์การลงทุน: สำหรับการลงทุนระยะสั้นให้เพียง Trading ระหว่างวัน ขณะยังคงพอร์ตไว้ที่ 25% เพื่อลดความเสี่ยงช่วงวันหยุดยาว แนวต้าน1,159, 1,165 แนวรับ 1,149, 1,144
วิเคราะห์รายวัน :
TMB : ทยอยซื้อ คาดหมายกำไร 1Q55 ปรับขึ้น q-q, y-y
กำไรสุทธิ 1Q55 คาดอยู่ที่ 1.25 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.6% q-q จากค่าใช้จ่ายที่ปรับลง ขณะเทียบ y-y จะปรับขึ้น 13.6% หลังปลัดคลังเผยกลุ่ม ING ไม่มีแนวคิขายหุ้น TMB ขณะในส่วนของคลังเองนั้นจะไม่ขายในราคาขาดทุน แนะนำ “ทยอยซื้อ” โดยมีราคาพื้นฐานปี 2555 อยู่ที่ 1.90 บาท/หุ้น
SCC : ทยอยซื้อ งบ 1Q55 อ่อนจากธุรกิจปิโตรเคมี
คาดกำไรสุทธิ 1Q55 อ่อนลงจากส่วนต่างปิโตรเคมีที่อ่อนมาก แม้ Spread ปิโตรเคมียุบมากช่วง 1Q55 แต่ล่าสุดดีขึ้นแล้ว พอมีหวังในการกลับมาใน 2H55 จึงลดประมาณการกำไรปีนี้แค่ 5% แนวโน้มระยะยาวยังดี และแผนลงทุนในภูมิภาคเกื้อหนุนการเติบโตในระยะยาว แต่ขาดปัจจัยเร่งในระยะสั้น ส่วนระยะยาวยังดี คงคำแนะนำ “ทยอยซื้อ”
Market News :
BANPU ไม่มีผลกระทบจากแผ่นดินไหวในอินโดฯ 8.6 ริกเตอร์ (ที่มา:PST)
แผ่นดินไหวอินโดฯ 8.6 ริกเตอร์ ภาคใต้-กทม.ตึกสูงสั่นไหว 6 จังหวัดฝั่งอันดามันอพยพวุ่น ผวาสึนามิ ด้านนายกฯ เรียกประชุมด่วน ครม.ฉุกเฉินก่อนประกาศเลิกเตือนภัยเหมืองทุกเหมืองของ BANPU ในอินโดนีเซียมีพื้นที่อยู่ที่ จ.กาลิมันตัน ซึ่งอยู่บนเกาะกาลิมันตัน ซึ่งห่างกับเกาะสุมาตราค่อนข้างมาก ดังนั้น จึงไม่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวที่รุนแรงเมื่อวานนี้
สำหรับผลประกอบการใน 1Q55 อาจจะได้รับผลกระทบบางส่วนจากราคาถ่านหินที่ปรับลดลง เพราะลูกค้าบางส่วนจะมีการเลื่อนการรับถ่านหินออกไปก่อน เพราะสามารถซื้อได้ที่ราคาต่ำกว่าในตลาด Spot ปัจจุบัน (จะไป Company Visit สัปดาห์หน้า) อย่างไรก็ตาม โดยรวมทั้งปีไม่น่าจะมีผลกระทบกับประมาณการที่ทำไว้ คาดทั้งปีมีกำไรสุทธิ 15,002 ล้านบาท ราคาพื้นฐาน 840 บาทต่อหุ้น แนะนำ “ซื้อ”
GFPT : คาดงบ 1Q55 พลิกขาดทุนจากราคาเนื้อสัตว์ที่ลดลงมาก (ที่มา : ประชุมนักวิเคราะห์)
คาดงบ 1Q55 จะขาดทุนจากผลของราคาเนื้อสัตว์ในประเทศลดลง 27% และ 13% y-y และ q-q ทำให้บริษัทต้องตั้งสำรองสินค้ามูลค่าลดลงจากปัจจัยดังกล่าว อีกทั้งปริมาณขายทั้งไก่ในประเทศ, ส่งออก และอาหารสัตว์ลดลงราว 5-10% q-q ส่วนราคาขายลดลงทั้งในประเทศ และราคาส่งออก
อีกทั้งการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน คาดว่า ยังคงขาดทุนอยู่ คาดว่า GFN จะขาดทุนราว 100 ล้านบาท คาดว่าผลการดำเนินงาน 1Q55 GFPT จะขาดทุน 32 ล้านบาท ลดลง 113% และ 115% y-y และ q-q
โดยข่าวการอนุญาตส่งออกไก่แช่แข็งของไทยไปอียูที่จะมีผลตั้งแต่ 1 ก.ค. เป็นต้นไป คาดว่า จะช่วยพยุงราคาหุ้นของ GFPT ให้ปรับลงไม่มากนัก แต่ทางฝ่ายคาดว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกยังไม่ดีนัก จากปัจจัยลบทั้งราคาขายที่ไม่ดี และการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่มีผลใน 2Q ซึ่งกดดันให้ผลการดำเนินงานยังไม่ดีต่อ ทางฝ่ายปรับลดคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ขายทำกำไร” ปรับลดราคาเหมาะสมเป็น 8 บาท
โดยประเมินว่า แรงขายของ SETI เริ่มเห็นการชะลอตัวเมื่อวาน ก่อนข่าวเตือนภัยสึนามิใน 6 จังหวัดชายฝั่งอันดามันของไทยหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว 8.7 ริกเตอร์ที่อินโดนีเซีย ทำให้นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทยสูงถึง 3.48 พันล้านบาท และเนื่องจากสถานการณ์ไม่ได้แย่ดังคาด ทำให้คาดเห็นการรีบาวนด์ระยะสั้นได้ในวันนี้ สนับสนุนโดยการปรับขึ้นของตลาดหุ้นต่างประเทศ หากคงไปไม่ได้ไกล เนื่องจาก เป็นวันทำการสุดท้ายก่อนหยุดยาว ทั้งนี้ คาดเห็น SETI มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ
ดั้งนั้น กลยุทธ์การลงทุน: สำหรับการลงทุนระยะสั้นให้เพียง Trading ระหว่างวัน ขณะยังคงพอร์ตไว้ที่ 25% เพื่อลดความเสี่ยงช่วงวันหยุดยาว แนวต้าน1,159, 1,165 แนวรับ 1,149, 1,144
วิเคราะห์รายวัน :
TMB : ทยอยซื้อ คาดหมายกำไร 1Q55 ปรับขึ้น q-q, y-y
กำไรสุทธิ 1Q55 คาดอยู่ที่ 1.25 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.6% q-q จากค่าใช้จ่ายที่ปรับลง ขณะเทียบ y-y จะปรับขึ้น 13.6% หลังปลัดคลังเผยกลุ่ม ING ไม่มีแนวคิขายหุ้น TMB ขณะในส่วนของคลังเองนั้นจะไม่ขายในราคาขาดทุน แนะนำ “ทยอยซื้อ” โดยมีราคาพื้นฐานปี 2555 อยู่ที่ 1.90 บาท/หุ้น
SCC : ทยอยซื้อ งบ 1Q55 อ่อนจากธุรกิจปิโตรเคมี
คาดกำไรสุทธิ 1Q55 อ่อนลงจากส่วนต่างปิโตรเคมีที่อ่อนมาก แม้ Spread ปิโตรเคมียุบมากช่วง 1Q55 แต่ล่าสุดดีขึ้นแล้ว พอมีหวังในการกลับมาใน 2H55 จึงลดประมาณการกำไรปีนี้แค่ 5% แนวโน้มระยะยาวยังดี และแผนลงทุนในภูมิภาคเกื้อหนุนการเติบโตในระยะยาว แต่ขาดปัจจัยเร่งในระยะสั้น ส่วนระยะยาวยังดี คงคำแนะนำ “ทยอยซื้อ”
Market News :
BANPU ไม่มีผลกระทบจากแผ่นดินไหวในอินโดฯ 8.6 ริกเตอร์ (ที่มา:PST)
แผ่นดินไหวอินโดฯ 8.6 ริกเตอร์ ภาคใต้-กทม.ตึกสูงสั่นไหว 6 จังหวัดฝั่งอันดามันอพยพวุ่น ผวาสึนามิ ด้านนายกฯ เรียกประชุมด่วน ครม.ฉุกเฉินก่อนประกาศเลิกเตือนภัยเหมืองทุกเหมืองของ BANPU ในอินโดนีเซียมีพื้นที่อยู่ที่ จ.กาลิมันตัน ซึ่งอยู่บนเกาะกาลิมันตัน ซึ่งห่างกับเกาะสุมาตราค่อนข้างมาก ดังนั้น จึงไม่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวที่รุนแรงเมื่อวานนี้
สำหรับผลประกอบการใน 1Q55 อาจจะได้รับผลกระทบบางส่วนจากราคาถ่านหินที่ปรับลดลง เพราะลูกค้าบางส่วนจะมีการเลื่อนการรับถ่านหินออกไปก่อน เพราะสามารถซื้อได้ที่ราคาต่ำกว่าในตลาด Spot ปัจจุบัน (จะไป Company Visit สัปดาห์หน้า) อย่างไรก็ตาม โดยรวมทั้งปีไม่น่าจะมีผลกระทบกับประมาณการที่ทำไว้ คาดทั้งปีมีกำไรสุทธิ 15,002 ล้านบาท ราคาพื้นฐาน 840 บาทต่อหุ้น แนะนำ “ซื้อ”
GFPT : คาดงบ 1Q55 พลิกขาดทุนจากราคาเนื้อสัตว์ที่ลดลงมาก (ที่มา : ประชุมนักวิเคราะห์)
คาดงบ 1Q55 จะขาดทุนจากผลของราคาเนื้อสัตว์ในประเทศลดลง 27% และ 13% y-y และ q-q ทำให้บริษัทต้องตั้งสำรองสินค้ามูลค่าลดลงจากปัจจัยดังกล่าว อีกทั้งปริมาณขายทั้งไก่ในประเทศ, ส่งออก และอาหารสัตว์ลดลงราว 5-10% q-q ส่วนราคาขายลดลงทั้งในประเทศ และราคาส่งออก
อีกทั้งการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน คาดว่า ยังคงขาดทุนอยู่ คาดว่า GFN จะขาดทุนราว 100 ล้านบาท คาดว่าผลการดำเนินงาน 1Q55 GFPT จะขาดทุน 32 ล้านบาท ลดลง 113% และ 115% y-y และ q-q
โดยข่าวการอนุญาตส่งออกไก่แช่แข็งของไทยไปอียูที่จะมีผลตั้งแต่ 1 ก.ค. เป็นต้นไป คาดว่า จะช่วยพยุงราคาหุ้นของ GFPT ให้ปรับลงไม่มากนัก แต่ทางฝ่ายคาดว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกยังไม่ดีนัก จากปัจจัยลบทั้งราคาขายที่ไม่ดี และการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่มีผลใน 2Q ซึ่งกดดันให้ผลการดำเนินงานยังไม่ดีต่อ ทางฝ่ายปรับลดคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ขายทำกำไร” ปรับลดราคาเหมาะสมเป็น 8 บาท
