xs
xsm
sm
md
lg

นายแบงก์เตือน 3 ปัจจัยเสี่ยง ศก.ปี 55 "โต้ง" ยันขึ้นค่าแรง 300 ปรับสมดุล ศก.-สังคม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"แบงก์เกอร์" เตือน 3 ปัจจัยเสี่ยง "เงินเฟ้อ-วิกฤต ศก.โลก-ทุนเคลื่อนย้ายผันผวน" อาจฉุด ศก.ไทยปี 55 พร่ามัว แต่ยังโตได้ 4-5% "กิตติรัตน์" ยันปรับค่าแรง 300 บาท เพื่อปรับสมดุลโครงสร้าง ศก.-สังคม ไม่ใช่การซื้อใจแรงงาน

นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวปาฐกถาเรื่อง “ภาพรวมเศรษฐกิจและการลงทุนของไทยปี 2555” โดยมองว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้ถูกกดดันด้วย 3 ปัจจัยสำคัญคือ 1.แรงกดดันทางด้านราคา ทั้งจากการขึ้นราคาค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน และราคาน้ำมัน ซึ่งเริ่มเห็นแล้วตั้งแต่ต้นปี

2.แรงกดดันทางการค้า เนื่องจากเศรษฐกิจประเทศหลักขยายตัวแบบชะลอตัว โดยเฉพาะการเกิดความถดถอยของเศรษฐกิจยุโรป ซึ่งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประเมินว่าปริมาณการค้าโลกในปี 2555 จะขยายตัวต่ำลงจาก 6.9% ในปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 3.8%

3.แรงกดดันจากความผันผวนของเงินทุนเคลื่อนย้าย ซึ่งจะทำให้ธุรกิจไทยที่เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยน เกิดความยากลำบากในการประเมินทิศทางของธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยปีนี้ยังคงเติบโตในระดับสูงที่ 4-5% เนื่องจากฐานปีก่อนที่ต่ำ โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 4 ปี 2554 ซึ่งเสียหายจากน้ำท่วม

“ปี 2555 เป็นปีที่ครึ้มฟ้าครึ้มฝน ไม่ได้หมายความว่าน้ำจะท่วมนะ แต่หมายถึงเกิดความมัว แปลว่าไม่ชัดเจน ทำให้ธุรกิจไทยมองไกลลำบาก ดังนั้น แน่นอนต้องใช้ความระมัดระวังมากกว่าปีก่อน”

นายศิริชัย สมบัติศิริ รองผู้จัดการใหญ่ กลุ่มลุกค้าธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) คาดว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย น่าจะยังขยายตัวอยู่ที่ 4.5 - 4.7% แต่ปัญหาวิกฤติในยุโรป จะส่งผลต่อธุรกิจส่งออก และกระทบต่อการเคลื่อนย้ายเงินทุน รวมถึงค่าเงินบาทที่มีโอกาสผันผวน ทำให้ธุรกิจในปีนี้อาจอยู่ในกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการใช้จ่ายภายในประเทศที่น่าจะได้เปรียบ ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการเร่งฟื้นฟูความเสียหายอุทกภัยในปี 2554

ส่วนการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 นั้นถือเป็นโอกาสที่ดี ซึ่งจะได้มีการเตรียมความพร้อมให้กับ SME ได้ปรับตัวและปรับเปลี่ยน เพื่อเป็นโอกาสและความท้าทาย เนื่องจาก SME ในขณะนี้ ถือเป็นภาคส่วนพื้นฐานที่สำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจของประเทศ

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงานเสวนาเรื่อง “ก้าวต่อไป...ของ SME ไทยปี 2555” จัดโดยธนาคารไทยพาณิชย์ ถึงนโยบายการปรับขึ้นค่าแรง 300 บาทต่อวัน โดยยืนยันว่า เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศให้ดีขึ้น และทำให้โครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมเดินหน้า เกิดความสมดุล ไม่ใช่นโยบายประชานิยมที่เอาใจผู้ใช้แรงงาน

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าสร้างผลกระทบให้กับผู้ประกอบการภาคธุรกิจไม่น้อย โดยเฉพาะเอสเอ็มอี เพราะค่าแรงที่เพิ่มขึ้นเป็น 40% และเมื่อหันไปมองประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว พม่า กัมพูชา และเวียดนาม ต่างก็มีค่าแรงถูกกว่าไทยมาก แต่หากมองไปทางตอนใต้ของไทย พบว่าประเทศเหล่านั้นมีค่าแรงที่สูงกว่าไทย แต่แรงงานและผู้ประกอบการเขาก็ยังมีความสุขอยู่
กำลังโหลดความคิดเห็น