xs
xsm
sm
md
lg

รื้อเป้าเงินเฟ้อ “ธีระชิน” เด้งสนอง พท.ลั่นภาษีแม้วตามกฎหมาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ธีระชิน” เตรียมถก ธปท.รื้อกรอบเงินเฟ้อใหม่ เหตุขวางการกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมขีดเส้นสั่งคลัง-สศค.ทำแผนสนองนโยบายเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ให้ออกมาเป็นรูปธรรมได้ภายใน 1 สัปดาห์ ลั่นกฎหมายภาษีต้องใช้มาตรฐานเดียว ทั้งชินคอร์ป ทักษิณ และการคืนภาษี “โอ๊ค-เอม”

วานนี้ (15 ส.ค.) เวลา 09.00 น.ที่กระทรวงการคลัง นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลัง พร้อมด้วย นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมช.คลัง และ นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.คลัง ได้เดินทางเข้ามากระทรวงการคลังเป็นวันแรก โดยหลังจากที่รับมอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีแล้ว ก็ได้เรียกประชุมร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการคลังทั้งหมด จนกระทั่งเมื่อเวลา 12.00 น.จึงได้ทำพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงการคลัง

*ยันมาตรฐานเดียว “โอ๊ค-เอม” ตาม ก.ม.

นายธีระชัย กล่าวว่า การจัดเก็บภาษีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีการขายหุ้นชินคอร์ปฯ นั้น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น แต่หากกระบวนการมีผลสรุปแล้วว่าไม่มีภาระภาษีที่ต้องจ่าย กรมสรรพากรก็ไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้

“ตามกฎหมายบอกไว้อย่างไร ทุกคนก็ต้องปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด ไม่ว่าจะมีชื่ออะไร และจะใช้มาตรฐานเดียวกัน” นายธีระชัย กล่าวและว่า นโยบายภาษีของกระทรวงการคลังจะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม จะต้องรักษามาตรฐานเป็นมาตรฐานเดียว โดยในกรณีที่กรมสรรพากรไม่ยื่นอุทธรณ์การเรียกเก็บภาษีกับนายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร โดยให้เหตุผลว่าไม่ใช่เจ้าของตัวจริง จึงไม่สามารถเรียกเก็บภาษีได้ แต่เจ้าของ คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้นั้น ฝ่ายกฎหมายยังคงต้องใช้กระบวนการตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

***เล็งทบทวนกรอบเงินเฟ้อ

นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้กระทรวงการคลัง และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ไปศึกษาแนวทางการดำเนินนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถึงกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ ว่าเป็นภาระหรือเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินนโยบายการเงินหรือไม่ เพราะขณะนี้มีสิ่งที่ท้าทายเศรษฐกิจ ทั้งจากปัจจัยภายในและนอกประเทศ พร้อมทั้งจะนัดหารือกับนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธปท. หลังแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาแล้ว

ทั้งนี้ ยอมรับว่า การดำเนินนโยบายของพรรคเพื่อไทยอาจมีส่วนทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจมีผู้ประกอบการบางรายยอมรับภาระโดยไม่ผลักภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไปให้ผู้บริโภค แต่ผู้ประกอบการบางรายอาจต้องเพิ่มราคาสินค้า ส่งผลให้เงินเฟ้อสูงขึ้น ถือเป็นเงินเฟ้อที่มาจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น (คอร์ส พุช) แต่ยังไม่รุนแรงเท่ากับเงินเฟ้อที่เกิดจากความต้องการ (ดีมานด์ พูล) ที่กำลังซื้อมีมากกว่ากำลังการผลิต ซึ่งจุดนี้จะทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้นต่อเนื่อง

“เป้าหมายเงินเฟ้อนั้น เป็นอำนาจของ ธปท.ในฐานะหน่วยงานอิสระ กระทรวงการคลังจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่สิ่งที่ต้องตกลงคือ กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ ที่ทำให้ ธปท.กังวลเรื่องดอกเบี้ยมากเกินไป และรีบขึ้นดอกเบี้ยสูง ซึ่งการทำดอกเบี้ยสูง มีผลดีต่อการคุมเงินเฟ้อ แต่ก็มีผลกับกำลังซื้อในประเทศ ดังนั้น ต้องมาคุยกัน เพราะนโยบายการเงินของ ธปท.ขณะนี้ เหมือนกับเรากำลังขับรถ ก็ต้องเหยียบคันเร่ง แต่ถ้าดึงเบรกมือไว้ด้วย มันคงไม่ไปไหน” นายธีระชัยกล่าว

นอกจากนี้ ยังให้พิจารณาแนวทางการลดภาระขาดทุนของ ธปท.ซึ่งเดิมมีข้อตกลงให้ ธปท.มีบทบาทในการเข้ามาลดภาระหนี้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน แต่ที่ผ่านมา ธปท.ยังขาดทุนมาโดยตลอด ดังนั้น การดำเนินนโยบายดอกเบี้ยสูง ทำให้ยังมีเงินไหลเข้า และการที่ ธปท.ต้องเข้าไปดูแลเงินบาทก็จะทำให้มีผลขาดทุนกลายเป็นงูกินหาง ซึ่งทีมนักวิชาการของกระทรวงการคลังต้องไปศึกษาแนวทาง เพื่อช่วยให้ ธปท.มีรายได้ในการบริหารทุนสำรองระหว่างประเทศให้คล่องตัว เพื่อให้ ธปท.มีภาระขาดทุนน้อยลง หรือมีกำไรเพื่อมาช่วยลดภาระหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ

นายธีระชัย กล่าวว่า ส่วนการจัดทำงบประมาณสมดุลในปี 58 นั้น ยังตอบไม่ได้ในขณะนี้ ว่ารัฐบาลจะยึดตามกรอบเดิมหรือไม่ ณ เวลานี้ผมยังมึนตึ๊บ แต่ยืนยันว่าจะยึดหลักความยั่งยืนทางการคลัง แต่บางช่วงรัฐบาลอาจจำเป็นต้องมีการใช้จ่าย ทั้งนี้ ระดับหนี้ต้องควบคุมไม่ให้สูงเกินไป และมีเป้าหมายที่จะให้ระดับหนี้ลดลงมาอยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งการใช้จ่ายต่างๆ ของรัฐบาลจะต้องเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เลือกโครงการที่ให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจที่ดี ดังนั้นการวางนโยบายการคลังควรมีการวางลำดับความสำคัญก่อนหลัง โดยมองในระยะข้างหน้า 3 เดือน 6 เดือน

ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ข้าราชการระดับสูงของกระทรวงการคลังเตรียมความพร้อม 5 มาตรการเร่งด่วนของกระทรวง พร้อมทั้งสั่งให้ศึกษาความเป็นไปได้ในนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่ได้หาเสียงไว้ เช่น การลดภาษีเงินได้นิติบุคคล การเพิ่มเงินกองทุนหมู่บ้าน บัตรเครดิตเกษตรกรนั้น ได้ขอให้ข้าราชการที่เกี่ยวข้องแต่ละหน่วยงานนำแต่ละนโยบายไปศึกษา และให้เสนอความคิดเห็นได้อย่างอิสระ โดยยึดหลักความยั่งยืนทางการคลัง

“การดำเนินนโยบายของพรรคเพื่อไทยนี้ ผมจะทำหน้าที่ประสานความใฝ่ฝันทางการเมือง และความเป็นไปได้ทางวิชาการ โดยกำหนดให้ศึกษาให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ เพื่อให้นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง และนายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) นำมาพิจารณาต่อ ก่อนจะรายงานให้ตนได้รับทราบต่อไป”
กำลังโหลดความคิดเห็น