“เอสเอ็มอีแบงก์” ประกาศยุทธศาสตร์ครึ่งปีหลัง เน้นรักษาอัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุดในระบบสถาบันการเงิน ระบุอย่างน้อยถึงสิ้น Q3 ช่วยผู้ประกอบการลดผลกระทบ ศก.โลกชะลอตัว ควบคู่กับเสริมขีดความสามารถธุรกิจ พร้อมปรับโฉมสาขากรุงเก่าให้บริการครบวงจร
นายโสฬส สาครวิศว กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) กล่าวว่า ปัญหาสำคัญของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในช่วงครึ่งปีหลัง เกิดจากเศรษฐกิจโลกผันผวน และชะลอตัว ทำให้การส่งออกลดลง ต้นทุนธุรกิจสูงขึ้น รวมถึง เกิดภาวะเงินเฟ้อทำให้อัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้น ยุทธศาสตร์ของเอสเอ็มอีแบงก์ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ข้อสำคัญจะเน้นรักษาอัตราดอกเบี้ยของธนาคารที่ปัจจุบันต่ำที่สุดในระบบสินเชื่อเอสเอ็มอีของทุกสถาบันการเงิน โดยอยู่ที่ MLR=7% อย่างน้อยจะคงอัตราดังกล่าวไว้จนสิ้นไตรมาสที่ 3 เพื่อให้ผู้ประกอบการรายย่อยยังมีแหล่งสินเชื่อต้นทุนไม่สูงเกินไป ช่วยแบ่งเบาผลกระทบภายนอก อย่างไรก็ตาม หากอนาคตอัตราดอกเบี้ยนโยบายปรับขึ้นอีก คงจะต้องพิจารณานโยบายดอกเบี้ยของเอสเอ็มอีแบงก์อีกครั้ง
นอกจากด้านดอกเบี้ยแล้ว ทางเอสเอ็มอีแบงก์จะพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการควบคู่ไปด้วย เช่น จัดอบรมสัมมนากลุ่มใหญ่ และส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าช่วยเหลือแนะนำธุรกิจเฉพาะราย เป็นต้น ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาระยะยาว เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถผลิตสินค้าหรือบริการที่มีมูลค่าสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้ปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยลบภายนอกได้ดียิ่งขึ้น
กก.ผจก.เอสเอ็มอีแบงก์ เผยอีกว่า ในเช้าวันที่ 11 ส.ค. ที่ผ่านมานี้ เอสเอ็มอีแบงก์ ได้เปิดที่ทำการสาขาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในรูปลักษณ์ใหม่เป็นแห่งแรก ซึ่งมีระบบบริการที่ทันสมัย ครบวงจร เพื่อให้ผู้ประกอบการในท้องถิ่นและจังหวัดใกล้เคียงเข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำได้สะดวกขึ้น โดยสาขานี้จะมีบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ร่วมให้บริการอยู่ด้วย ซึ่งจะมีส่วนช่วยแนะนำการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ให้แก่ผู้ประกอบการที่สนใจด้วย