TMB คาดปี 52 สินเชื่อหดตัวถึง 10%,ตั้งเป้าปี 53 ผลักดันโต 2 เท่าของ GDP ซึ่งเชื่อกันว่าจะโตได้ 3-4%
นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB กล่าวถึงภาพรวมสินเชื่อของธนาคารในปี 2552 โดยระบุว่า อาจหดตัวไปถึง 10% มากกว่าเดิมที่คาดว่าจะหดตัวประมาณ 6-8% ซึ่งเป็นผลมาจากการชะลอตัวอย่างรุนแรงของเศรษฐกิจ ประกอบกับ ธนาคารได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ในช่วงต้นปี ทำให้มีเวลาในการออกเยี่ยมลูกค้าและออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพียง 4-5 เดือนเท่านั้น
ขณะที่ยอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ยังทรงตัว และปรับลดลงบ้างแล้วเล็กน้อย ทำให้คาดว่า ณ สิ้นปี 52 NPL จะทรงตัวอยู่ในระดับ 12-13% และยังไม่มีสัญญาณการผิดนัดชำระหนี้ของลูกค้าอย่างผิดปกติ
"ตอนนี้ NPL ของเราอยู่ที่ 6.5 หมื่นล้านบาท คาดว่าสิ้นปี น่าจะจบที่ 5.5 หมื่นล้านบาท เพราะจากสินเชื่อที่ลดลง ทำให้ NPL ต่อสินเชื่อทรงตัวที่ 12-13%"
อย่างไรก็ตาม แม้การปล่อยสินเชื่อของธนาคารจะหดตัวมากว่าที่คาดไว้ แต่เชื่อว่าความสามารถในการทำกำไรยังเป็นไปตามประมาณการ โดยช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมาการทำกำไรของธนาคารอยู่ที่ 1.35 พันล้านบาท ในขณะที่แผนการล้างขาดทุนสะสมของธนาคารน่าจะเป็นไปตามที่คาดว่าจะล้างขาดทุนได้หมดภายในปี 2553
นายบุญทักษ์ กล่าวว่า ในปี 53 ธนาคารตั้งเป้าหมายว่าจะสามารผลักดันสินเชื่อให้ขยายตัวได้เป็น 2 เท่าของอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ(จีดีพี) จากที่คาดการณ์ว่าจีดีพีของไทยในปีหน้าจะเติบโต 3-4% แม้จะคาดว่าธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบคงจะขยายสินเชื่อ 1-1.5 เท่าของจีดีพี แต่ธนาคารทหารไทยได้มีการปรับฐานในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา น่าจะช่วยสนับสนุนให้ปล่อยสินเชื่อได้สูงกว่า
สำหรับกลุ่มธุรกิจที่ธนาคารจะเน้นปล่อยสินเชื่อมีความหลากหลาย โดยเน้นธุรกิจที่ไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจทีชะลอตัว ขณะที่การปล่อยสินเชื่อภาครรัฐยังเป็นกลุ่มเป้าหมาย
นายบุญทักษ์ ยังกล่าวถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยในปี 2553 โดยระบุว่า แม้ขณะนี้ภาวะเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว แต่เศรษฐกิจยังมีความเปราะบาง ดังนั้น มองว่าความต้องการเงินลงทุนในภาคธุรกิจยังคงมีไม่มาก แต่หากเศรษฐกิจยังขยายตัวได้ต่อเนื่องตามที่คาดการณ์ไว้ ก็คาดว่าอัตราดอกเบี้ยในตลาดน่าจะเริ่มปรับขึ้นในช่วงไตรมาส 2 ปี 2553 แต่ไม่สามารถระบุว่าจะปรับขึ้นในอัตราเท่าไร
นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB กล่าวถึงภาพรวมสินเชื่อของธนาคารในปี 2552 โดยระบุว่า อาจหดตัวไปถึง 10% มากกว่าเดิมที่คาดว่าจะหดตัวประมาณ 6-8% ซึ่งเป็นผลมาจากการชะลอตัวอย่างรุนแรงของเศรษฐกิจ ประกอบกับ ธนาคารได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ในช่วงต้นปี ทำให้มีเวลาในการออกเยี่ยมลูกค้าและออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพียง 4-5 เดือนเท่านั้น
ขณะที่ยอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ยังทรงตัว และปรับลดลงบ้างแล้วเล็กน้อย ทำให้คาดว่า ณ สิ้นปี 52 NPL จะทรงตัวอยู่ในระดับ 12-13% และยังไม่มีสัญญาณการผิดนัดชำระหนี้ของลูกค้าอย่างผิดปกติ
"ตอนนี้ NPL ของเราอยู่ที่ 6.5 หมื่นล้านบาท คาดว่าสิ้นปี น่าจะจบที่ 5.5 หมื่นล้านบาท เพราะจากสินเชื่อที่ลดลง ทำให้ NPL ต่อสินเชื่อทรงตัวที่ 12-13%"
อย่างไรก็ตาม แม้การปล่อยสินเชื่อของธนาคารจะหดตัวมากว่าที่คาดไว้ แต่เชื่อว่าความสามารถในการทำกำไรยังเป็นไปตามประมาณการ โดยช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมาการทำกำไรของธนาคารอยู่ที่ 1.35 พันล้านบาท ในขณะที่แผนการล้างขาดทุนสะสมของธนาคารน่าจะเป็นไปตามที่คาดว่าจะล้างขาดทุนได้หมดภายในปี 2553
นายบุญทักษ์ กล่าวว่า ในปี 53 ธนาคารตั้งเป้าหมายว่าจะสามารผลักดันสินเชื่อให้ขยายตัวได้เป็น 2 เท่าของอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ(จีดีพี) จากที่คาดการณ์ว่าจีดีพีของไทยในปีหน้าจะเติบโต 3-4% แม้จะคาดว่าธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบคงจะขยายสินเชื่อ 1-1.5 เท่าของจีดีพี แต่ธนาคารทหารไทยได้มีการปรับฐานในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา น่าจะช่วยสนับสนุนให้ปล่อยสินเชื่อได้สูงกว่า
สำหรับกลุ่มธุรกิจที่ธนาคารจะเน้นปล่อยสินเชื่อมีความหลากหลาย โดยเน้นธุรกิจที่ไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจทีชะลอตัว ขณะที่การปล่อยสินเชื่อภาครรัฐยังเป็นกลุ่มเป้าหมาย
นายบุญทักษ์ ยังกล่าวถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยในปี 2553 โดยระบุว่า แม้ขณะนี้ภาวะเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว แต่เศรษฐกิจยังมีความเปราะบาง ดังนั้น มองว่าความต้องการเงินลงทุนในภาคธุรกิจยังคงมีไม่มาก แต่หากเศรษฐกิจยังขยายตัวได้ต่อเนื่องตามที่คาดการณ์ไว้ ก็คาดว่าอัตราดอกเบี้ยในตลาดน่าจะเริ่มปรับขึ้นในช่วงไตรมาส 2 ปี 2553 แต่ไม่สามารถระบุว่าจะปรับขึ้นในอัตราเท่าไร
