ASTVผู้จัดการรายวัน - ประธานบอร์ดทหารไทยลั่นปีนี้เดินหน้าลุยธุรกิจทุกด้าน หลังปรับโครงสร้างองค์กร-ธุรกิจเสร็จ ตั้งเป้ากำไร 2.5 พันล้าน จากปีนี้ที่ประมาณ 1.8 พันล้าน พร้อมเตรียมเสนอลดพาร์ล้างขาดทุนสะสม
นางเสาวนีย์ กมลบุตร รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) (TMB) เปิดเผยถึงการดำเนินงานของธนาคารในปีนี้ว่า ธนาคารตั้งเป้าหมายที่จะสร้างผลกำไรประมาณ 2,400-2,500 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาที่คาดว่าจะมีผลกำไรประมาณ 1,800 ล้านบาท ซึ่งก็ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แม้ในช่วงครึ่งปีแรกสินเชื่อของธนาคารจะหดตัวค่อนข้างมาก แต่ในไตรมาสสุดท้ายของปีการดำเนินงานของธนาคารปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากการปล่อยสินเชื่อได้เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา สินเชื่อของธนาคารต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ เนื่องจากเป็นปีที่ธนาคารอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างองค์กรและวางแผนการบริหารสินเชื่อ หลังจากกลุ่มไอเอ็นจีเข้ามาถือหุ้นใหญ่ ซึ่งทำให้การปล่อยสินเชื่อของธนาคารเป็นไปอย่างมีคุณภาพ ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวลงส่งผลกระทบต่อการปล่อยสินเชื่อของธนาคาร
ขณะที่ในปี 2553 ธนาคารมีความพร้อมในการปล่อยสินเชื่อ รวมถึงดำเนินธุรกรรมทางการเงินอื่นๆอย่างเต็มที่แล้ว โดยจะเน้นการปล่อยสินเชื่อทั้งธุรกิจขนาดกลางและย่อม(เอสเอ็มอี) ลูกค้ารายย่อย และลูกค้ารายใหญ่ โดยจะเน้นที่คุณภาพของสินเชื่อมากกว่าการสร้างผลตอบแทนที่สูงเท่านั้น รวมทั้ง ธนาคารยังมีแผนที่จะลดราคาพาร์เพื่อล้างขาดทุนสะสมของธนาคารที่มีอยู่ประมาณแสนล้านบาทด้วย
ด้านการให้บริการของธนาคารนั้น จากการหลักปฏิบัติที่คำนึงถึงความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และจากการปรับภาพลักษณ์ของธนาคาร ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น และจะเป็นผลดีต่อการดำเนินงานของธนาคาร รวมถึงส่งผลต่อราคาหุ้นปรับดีขึ้นด้วย
"ตอนนี้เรากำลังดีขึ้น หลังการปรับโครงสร้างการบริหารงาน มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อรองรับลูกค้าในทุกกลุ่ม จากการทำสำรวจภาพลักษณ์ตอนนี้ของเรากำลังดีขึ้น จากเดิมที่มองว่าเป็นแบงก์ราชการ แต่ตอนนี้มีมุมมองที่ดีขึ้น"
ก่อนหน้านี้ นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า ธนาคารตั้งเป้าหมายเติบโตสินเชื่อไว้ที่ 8-10% ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่มากกว่าอัตราการเติบโตของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบที่คาดว่าจะเติบโตประมาณ 6-8% เนื่องจากความพร้อมที่ธนาคารวางแผนและเตรียมไว้ในปีนี้จะทำให้บริการของธนาคารสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นการเติบโตจากทุกกลุ่มลูกค้าทั้งสินเชื่อรายใหญ่และสินเชื่อเอสเอ็มอี ขณะที่ยอดการปล่อยสินเชื่อรวมของธนาคารในสิ้นปี 52 น่าจะอยู่ที่ติดลบประมาณ 10%
ส่วนการล้างขาดทุนสะสมนั้น มั่นใจว่าในปี 2553 ธนาคารจะสามารถล้างขาดทุนสะสมประมาณ 1 แสนล้านบาทได้ ซึ่งในขั้นตอนต้องเจรจากับกระทรวงการคลังในการแปลงหุ้นบุริมสิทธิ์เป็นหุ้นสามัญ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จได้ราวประมาณไตรมาส 3 ปีนี้ .
นางเสาวนีย์ กมลบุตร รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) (TMB) เปิดเผยถึงการดำเนินงานของธนาคารในปีนี้ว่า ธนาคารตั้งเป้าหมายที่จะสร้างผลกำไรประมาณ 2,400-2,500 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาที่คาดว่าจะมีผลกำไรประมาณ 1,800 ล้านบาท ซึ่งก็ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แม้ในช่วงครึ่งปีแรกสินเชื่อของธนาคารจะหดตัวค่อนข้างมาก แต่ในไตรมาสสุดท้ายของปีการดำเนินงานของธนาคารปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากการปล่อยสินเชื่อได้เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา สินเชื่อของธนาคารต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ เนื่องจากเป็นปีที่ธนาคารอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างองค์กรและวางแผนการบริหารสินเชื่อ หลังจากกลุ่มไอเอ็นจีเข้ามาถือหุ้นใหญ่ ซึ่งทำให้การปล่อยสินเชื่อของธนาคารเป็นไปอย่างมีคุณภาพ ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวลงส่งผลกระทบต่อการปล่อยสินเชื่อของธนาคาร
ขณะที่ในปี 2553 ธนาคารมีความพร้อมในการปล่อยสินเชื่อ รวมถึงดำเนินธุรกรรมทางการเงินอื่นๆอย่างเต็มที่แล้ว โดยจะเน้นการปล่อยสินเชื่อทั้งธุรกิจขนาดกลางและย่อม(เอสเอ็มอี) ลูกค้ารายย่อย และลูกค้ารายใหญ่ โดยจะเน้นที่คุณภาพของสินเชื่อมากกว่าการสร้างผลตอบแทนที่สูงเท่านั้น รวมทั้ง ธนาคารยังมีแผนที่จะลดราคาพาร์เพื่อล้างขาดทุนสะสมของธนาคารที่มีอยู่ประมาณแสนล้านบาทด้วย
ด้านการให้บริการของธนาคารนั้น จากการหลักปฏิบัติที่คำนึงถึงความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และจากการปรับภาพลักษณ์ของธนาคาร ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น และจะเป็นผลดีต่อการดำเนินงานของธนาคาร รวมถึงส่งผลต่อราคาหุ้นปรับดีขึ้นด้วย
"ตอนนี้เรากำลังดีขึ้น หลังการปรับโครงสร้างการบริหารงาน มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อรองรับลูกค้าในทุกกลุ่ม จากการทำสำรวจภาพลักษณ์ตอนนี้ของเรากำลังดีขึ้น จากเดิมที่มองว่าเป็นแบงก์ราชการ แต่ตอนนี้มีมุมมองที่ดีขึ้น"
ก่อนหน้านี้ นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า ธนาคารตั้งเป้าหมายเติบโตสินเชื่อไว้ที่ 8-10% ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่มากกว่าอัตราการเติบโตของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบที่คาดว่าจะเติบโตประมาณ 6-8% เนื่องจากความพร้อมที่ธนาคารวางแผนและเตรียมไว้ในปีนี้จะทำให้บริการของธนาคารสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นการเติบโตจากทุกกลุ่มลูกค้าทั้งสินเชื่อรายใหญ่และสินเชื่อเอสเอ็มอี ขณะที่ยอดการปล่อยสินเชื่อรวมของธนาคารในสิ้นปี 52 น่าจะอยู่ที่ติดลบประมาณ 10%
ส่วนการล้างขาดทุนสะสมนั้น มั่นใจว่าในปี 2553 ธนาคารจะสามารถล้างขาดทุนสะสมประมาณ 1 แสนล้านบาทได้ ซึ่งในขั้นตอนต้องเจรจากับกระทรวงการคลังในการแปลงหุ้นบุริมสิทธิ์เป็นหุ้นสามัญ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จได้ราวประมาณไตรมาส 3 ปีนี้ .