xs
xsm
sm
md
lg

ธุรกิจการบินปี 52 หดตัว ทอท.เตรียมลงทุนเพิ่ม 9 พันล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ธุรกิจการบินปี 52 หดตัว 3% หวั่นแผนซิงเกิล แอร์พอร์ต “ไออาต้า” รู้ใจเร่งออกรายงานหนุน ทอท.ลงทุนเพิ่มสุวรรณภูมิ เตรียมชง ครม.ไฟเขียว 9 พันล้าน ละเลงอาคารในประเทศ ฝันหวานอีก 3 ปี ธุรกิจการบินฟื้น ขณะที่ คิง เพาเวอร์ เตรียมเฮ! แผนลงทุนสร้างอาคารผู้โดยสารเพิ่มใกล้ความจริง ด้านบอร์ด “การบินไทย” เตรียมประชุม วันนี้ ถกแผนย้าย 29 มี.ค.ตามแผน รมต.ซาเล้ง หลังส่ง “พิชัย ชุณหวชิร” เดินเกม

นายชัยวัฒน์ นวราช ประธานคณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบิน (AOC) กล่าวว่า สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาต้า) รายงานว่า ในปี 2552 นี้ การเติบโตของผู้โดยสารจะติดลบถึง 3% ส่วนในปี 2553 จะเติบโต 0% อย่างไรก็ดี ธุรกิจการบินจะเริ่มฟื้นตัวในปี 2554 ดังนั้นต่อจากนี้3 ปี บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.มีเวลาในการเตรียมความพร้อมของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในการรองรับการเพิ่มขึ้นของผู้โดยสาร เมื่อภาวะเศรษฐกิจกลับสู่ปกติ โดยใช้เม็ดเงินที่มีอยู่จำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุดมากที่สุด

สำหรับแผนงานปี 2552 ของ ทอท.ที่จะเร่งก่อสร้างอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ (Domestic Terminal) ที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า เห็นด้วยเพราะเป็นการลงทุนน้อยในภาวะที่เศรษฐกิจไม่ดี และรองรับการเติบโตของธุรกิจการบินในอนาคต

นอกจากนี้ มีรายงานข่าว ระบุเพิ่มเติมว่า ทอท.ได้เตรียมแผนก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร (Low Service Terminal) โดยใช้งบประมาณ 8,000-9,000 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี ซึ่งจะรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มอีก 10-15 ล้านคนต่อปี ซึ่งอาคารดังกล่าวเป็นคนละส่วนกับการขยายสุวรรณภูมิเฟส 2 โดยแนวทางดังกล่าวจะทำให้ ทอท.สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้ทันกับการเติบโตของผู้โดยสาร เพราะหากต้องรอการลงทุนเฟส 2 จะต้องใช้เวลากว่า 7 ปี ในขณะที่หากลงทุนเฉพาะอาคารผู้โดยสารก่อนจะแล้วเสร็จในปี 2557

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม เตรียมเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 17 มีนาคม 2552 นี้ เพื่อพิจารณาเห็นชอบขยายกรอบวงเงินลงทุนโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ระยะที่ 1) ของ ทอท.เพิ่มขึ้นอีก 11,233.70 ล้านบาท จากเดิม 123,942.24 ล้านบาท เป็น 135,175.94 ล้านบาท นอกจากนี้ ขออนุมัติงบประมาณลงทุนประจำปี 2552 เพิ่มเติมอีก 5,897.21 ล้านบาท โดยใช้เงินรายได้ของ ทอท.เอง

ทอท.ยังระบุว่า การขยายกรอบวงเงินลงทุนครั้งนี้ เพื่อนำมาใช้ในการแก้ไขผลกระทบด้านเสียง ที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 1 เพื่อลดความเดือดร้อนให้กับประชาชนโดยรอบ ขณะที่ การขยายกรอบวงเงินลงทุนเป็นการของบประมาณลงทุนเพิ่มเติม เพื่อให้สอดคล้องกับการขอขยายกรอบวงเงินลงทุน

นอกจากนี้ ทอท.ยังยืนยันว่า การขอขยายกรอบวงเงินลงทุน โดยปรับแผนดำเนินงาน และเบิกจ่ายงบประมาณรายปี ให้สอดคล้องกับความเป็นจริง จากเดิมกำหนดเวลา 3 ปี (2551-2553) เป็น 2 ปี (2552-2553) ซึ่งคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.รับทราบแล้ว โดยแผนแก้ไขผลกระทบด้านเสียงตามมติ ครม.วันที่ 29 พฤษภาคม 2550 วงเงิน 7,145.24 ล้านบาท และแผนแก้ไขผลกระทบด้านเสียงสำหรับอาคารที่สำรวจเพิ่มเติมวงเงิน 4,088.45 ล้านบาท

ล่าสุด มีรายงานข่าวว่า คณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าในการประชุมบอร์ด วันนี้ จะมี นายสุรชัย ธารสิทธิ์พงษ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน โดยที่ประชุมจะมีการรับทราบแผนการย้ายเที่ยวบินในประเทศจากท่าอากาศยานดอนเมืองไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิตามแผนเดิมที่ผู้บริหารเสนอมา คือ วันที่ 29 มีนาคม 2552 นี้

“บอร์ดมีหน้าที่รับทราบเท่านั้น ไม่มีหน้าที่พิจารณา เพราะเป็นเรื่องของฝ่ายบริหารไม่ใช่เรื่องของบอร์ดแต่ที่เสนอวันนี้เป็นเพียงการรับทราบ”

ขณะที่แหล่งข่าวจาก บริษัท การบินไทย กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกับ นายพิชัย ชุณหวชิร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารแผนฟื้นฟูธุรกิจและการเงินของการบินไทย ซึ่งแต่งตั้งโดย นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมมีความเห็นตรงกันว่า การบินไทยต้องย้ายเที่ยวบินในประเทศจากท่าอากาศยานดอนเมืองไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
กำลังโหลดความคิดเห็น