เล็งตั้งกองทุนข้าวอาเซียน 3 ล้านตัน “พาณิชย์” เตรียมใช้เวที “อาเซียนซัมมิต” ขอมติสมาชิกหนุน ส่วนการรักษาสตอกข้าวทั้งหมด จะเก็บในประเทศไทย ซึ่งหากโครงการได้รับเห็นชอบจากสมาชิก รัฐบาลก็จะมีการสร้างไซโลเพื่อเก็บรักษาข้าวไว้โดยตรง
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า รัฐบาลเตรียมนำเสนอการก่อตั้งกองทุนข้าวอาเซียน ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน (อาเซียน ซัมมิต) ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ วันที่ 27 กุมพาพันธ์ ถึงวันที่ 1 มีนาคม 2552 นี้ โดยจะให้แต่ละประเทศสมาชิกอาเซียนร่วมลงเงินเพื่อซื้อข้าวสารไทย 3 ล้านตัน จัดตั้งเป็นกองทุนสำรองข้าวกลางแก่ประเทศสมาชิก และเมื่อประเทศใดที่เกิดวิกฤตขาดแคลน หรือต้องการนำข้าวไปใช้ ก็สามารถถอนข้าวออกไปใช้ได้
รายงานข่าวระบุว่า นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานพาณิชย์อาเซียน เตรียมนำเสนอเรื่องนี้เป็นวาระหลัก เพราะจะช่วยประกันให้แต่ละประเทศมีสต๊อกข้าวบริโภคได้แน่นอน ไม่ต้องกลัวที่จะเกิดวิกฤตขาดแคลนอาหาร เหมือนอดีต ซึ่งพอข้าวแพงมาก ซึ่งมีวิธีเหมือนเป็นการประกันความเสี่ยงล่วงหน้าให้กับประเทศ ขณะเดียวกัน ยังส่งผลดีต่อไทยให้สามารถระบายข้าวสารได้เพิ่มอีก 3 ล้านตัน และในอนาคตหากข้าวในกองทุนถูกนำออกไปใช้ ไทยก็ยังส่งออกเข้าไปสนับสนุนกองทุนได้ต่อเนื่อง
สำหรับการเสนอราคาข้าวในการจัดตั้งกองทุนเบื้องต้นอาจเสนอไม่ต่ำกว่าตันละ 600-700 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นราคาที่ช่วยยกระดับราคาข้าวในประเทศ และช่วยชาวนาให้มีกำไรเลี้ยงตัวเองได้ เพราะขณะนี้ต้นทุนการปลูกและบริหารจัดการข้าวเปลือกของชาวนาอยู่ที่ตันละ 10,000 บาท ควรขายได้กำไร 20% หรือขั้นต่ำ 12,000 บาท ถึงจะช่วยให้อยู่ได้
อย่างไรก็ตาม เรื่องราคาข้าวจะต้องเจรจาอีกครั้ง แต่จะไม่ต่ำกว่าราคาท้องตลาดปัจจุบัน ส่วนการรักษาสตอกข้าวอาเซียนทั้ง 3 ล้านตัน จะเก็บในประเทศไทย ซึ่งหากโครงการได้รับเห็นชอบจากสมาชิกรัฐบาลจะมีการสร้างไซโลเพื่อเก็บรักษาข้าวไว้โดยตรง
ทั้งนี้ เชื่อว่า กองทุนข้าวอาเซียน น่าจะส่งผลดีต่อการบริหารข้าวสต๊อกของไทย เพราะทำให้ไทยมีช่องทางระบายข้าวเพิ่มคล้ายวิธีรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) ซึ่งส่งผลดีต่อราคาข้าวในตลาดโลกให้มีสิทธิเพิ่มได้และชาวนาได้ประโยชน์ ไม่ถูกเอกชนกดราคารับซื้อเหมือนที่ผ่านมา เพราะรัฐบาลมีนโยบายไม่เปิดประมูลข้าวสต๊อกรัฐบาลราคาถูกให้เอกชนอีก