"อีรี่ส์" คาดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 52 ส่งผลดีต่อประเทศผู้ส่งออกข้าว เพราะผู้บริโภคทั่วโลกจะหันมาซื้ออาหารราคาถูก ขณะที่ปริมมาณการผลิตยังมีไม่เพียงพอ และยังมีความเสี่ยงด้านดิฟ้าอากาศ ส่งผลให้ราคาข้าวมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น "อีรี่ส์" คาดแนวโน้มราคาข้าวอาจพุ่งสูงสุดในรอบ 10 ปี ขณะที่สมาคมโรงสี แนะรัฐชะลอขายข้าวในสตอก 1.5 ล้านตัน
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า สถาบันวิจัยข้าวระหว่างประเทศ (อีรี่ส์) ในประเทศฟิลิปปินส์ เปิดเผยสถานการณ์ราคาข้าวในตลาดโลกปี 2552 โดยคาดการณ์ว่า ราคากำลังมีแนวโน้มที่จะปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง พร้อมระบุสาเหตุของการปรับขึ้น เนื่องจากผลกระทบภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทำให้เกิดความต้องการข้าวในประเทศกำลัง พัฒนาเพิ่มมากขึ้น และทำให้ประชากรโลกในประเทศยากจนเน้นการบริโภคอาหารที่ถูก โดยเฉพาะข้าวมากขึ้น
สถาบันวิจัยฯ อีรี่ส์ ยังเชื่อว่า สถานการณ์ราคาข้าวขณะนี้ อยู่ในสภาพที่เปราะบางที่สุด ท่ามกลางผลผลิตทั่วโลกที่ยังไม่แน่นอน แต่ความต้องการข้าวในตลาดโลกจะเพิ่มมากขึ้น จะส่งผลให้ราคาปรับสูงขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ หากปริมาณผลผลิตข้าวยังคงไม่ดีขึ้น คาดว่าราคาข้าวจะแพงขึ้นต่อไป และจะแพงขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าที่ทั่วโลกเคยได้เห็นมานับตั้งแต่ปี 2543
ทั้งนี้ รัฐบาลของแต่ละประเทศ ควรเพิ่มปริมาณการลงทุนเพื่อการ วิจัยข้าว และพัฒนาโครงสร้างทางการเกษตรเพื่อช่วยเหลือให้เกษตรกรใช้วิทยาการใหม่ๆ เข้าช่วยเพื่อเพิ่มปริมาณผลผลิตให้ได้ มากขึ้น
ก่อนหน้านี้ สมาคมโรงสีข้าวไทยได้เสนอให้กระทรวงพาณิชย์ชะลอการขายข้าวในสตอกที่เหลืออยู่ประมาณ 1.5 ล้านตัน และข้าวที่ได้ จากโครงการรับจำนำนาปี ฤดูกาล 2551/2552 ออกไป เนื่องจากเกรงว่าราคาในตลาดจะตกต่ำลงต่อ พร้อมกับเสนอให้ใช้ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแทนการประมูล
รายงานข่าวระบุว่า สมาคมฯ เตรียมเสนอแนวทางดังกล่าวต่อนางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในการประชุมเชิงปฏิบัติการสินค้าเกษตร ในวันจันทร์ที่ 12 มกราคม 2552 นี้ โดยจะเสนอให้กระทรวงพาณิชย์ชะลอการระบายข้าวที่เหลืออยู่ในสต๊อกประมาณ 1.5 ล้านตัน ในขณะนี้มียอดข้าวเปลือก เข้าโครงการรับจำนำแล้ว 3-4 ล้านตัน ซึ่งหากมีการระบายข้าวในช่วงนี้ อาจส่งผลให้ราคาข้าวในตลาด ตกต่ำลงมาอีก