xs
xsm
sm
md
lg

บล.กสิกรไทย ลั่นปี 52 โตก้าวกระโดด ใช้แบงก์แม่หนุนดึงลูกค้าเทรดหุ้นเพิ่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บล.กสิกรไทย ลั่นแม้ภาวะตลาดไม่เอื้อธุรกิจหลักทรัพย์แย่ ตั้งเป้ารายได้-มาร์เกตแชร์โต 100% หวังใช้เครือข่ายแบงก์แม่หนุน พึ่งลูกค้าเงินฝากแบงก์แสนรายเทรดหุ้นเพิ่มจากปัจจุบันมีลูกค้า 8-9 พันบัญชี ผลเศรษฐกิจถดถอยส่งผลงานควบรวมกิจการพุ่ง พร้อมกระตุ้นลูกค้าอินเทอร์เน็ตเทรดหุ้นเพิ่ม หวังใน 3 ปี ขึ้นแท่นอันดับ 1

นางสาวณัฐรินทร์ ตาลทอง กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เกตแชร์) ปี 2552 จะเพิ่มขึ้น 100% หรือ 4% จากสิ้นปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 2% เนื่องจากบริษัทมีแผนที่จะดึงลูกค้าของธนาคารกสิกรไทยเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะมีโอกาสสามารถชวนเข้ามาลงทุนได้ในปีหน้าประมาณ 1 แสนคน มูลค่าการลงทุนประมาณ 1 แสนล้านบาท จากปัจจุบันที่บริษัทมีลูกค้าเปิดบัญชีจำนวน 8-9 พันบัญชี

“แผนปีหน้าบริษัทตั้งเป้าจะเติบโตแบบก้าวกระโดดทั้งในส่วนมาร์เกตแชร์ และรายได้ ทุกๆ 6 เดือน ส่วนแผนการดำเนินงานนั้นอยู่ระหว่างการสรุปแผน แต่คร่าวๆ นั้นก็จะมีการใช้เครือข่ายของบริษัทแม่ในการสนับสนุนทั้งในส่วนของบริษัทที่เป็นลูกค้าของแบงก์ และฐานผู้ฝากเงินกับแบงก์เข้ามาเป็นลูกค้าของ บล.กสิกรไทย” นางสาวณัฐรินทร์ กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทจะออกสินค้าใหม่ๆ อย่างน้อย 2 สินค้า ซึ่งจะเริ่มทยอยออกมาในไตรมาส 2/52 เพื่อให้นักลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนมากขึ้นและตรงต่อความต้องการของลูกค้า แต่ภาวะตลาดหุ้นปีหน้าถือว่าจะยังไม่ดี คาดว่ามูลค่าการซื้อขาย (วอลุ่ม) เฉลี่ยจะใกล้เคียงปีนี้ที่ 16,000 ล้านบาทต่อวัน แต่เชื่อว่า จะมีธุรกรรมที่นักลงทุนสามารถเข้ามาลงทุนและได้รับผลตอบแทนดีในบางช่วงจังหวะที่เหมาะสมและจากอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับตัวลดลง

นอกจากนี้ รวมถึงการที่จะมีสถาบันประกันเงินฝาก ทำให้ผู้ฝากเงินต้องหันนำเงินไปลงทุนแหล่งอื่นบริษัทจึงจะเข้าไปแนะนำลูกค้าเงินฝากของธนาคารกสิกรไทยที่ยังไม่มีการลงทุนในหุ้นให้เริ่มทยอยลงทุนเพื่อจะได้รับผลตอบแทนดีในระยะกลางและยาวและจากตลาดอนุพันธ์ จะเพิ่มสินค้าใหม่ๆ ในปีหน้าก็จะเข้ามาเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงและจัดพอร์ตให้นักลงทุนเพื่อจะให้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนจะตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งมาร์เกตแชร์ในส่วนการซื้อขายหุ้นทางด้านอินเตอร์เน็ต ให้ติดอันดับ 1 ใน 10 จากปัจจุบันที่อยู่อันดับที่ 24-26 มีมาร์เกตแชร์ 1% จากลูกค้าที่เปิดบัญชี 1 พันบัญชี โดยการที่บริษัทจะให้เจ้าหน้าที่การตลาด (มาร์เกตติ้ง) เข้าดูแลลูกค้าเพื่อให้นักลงทุนมีการซื้อขายสม่ำเสนอมากขึ้นจากปัจจุบันที่ไม่ค่อยมีการซื้อขาย และบริษัทตั้งเป้าภายใน 3 ปี จะมีมาร์เกตแชร์อันดับ 1

“ปีหน้าการที่ให้มาร์เกตติ้งมีการดูแลให้ลูกค้าของบริษัทเทรดมากขึ้นนั้น บริษัทเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาที่กระตุ้นนักลงทุนแล้วทำให้เกิดความเสียหายหวังได้รับอินเซ็นทีฟ เพราะ บริษัทให้เงินเดือนประจำแก่เจ้าหน้าที่การตลาด และในช่วงเวลา 1 ปีนั้น จะมีรอบที่นักลงทุนทำกำไรได้จากภาวะตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นช่วงนั้นเราก็จะเน้นให้เทรดมากขึ้นเพื่อทำกำไรช่วงนั้น และภาวะไม่มีเราก็จะไม่กระตุ้นให้นักลงทุนเทรด” นางสาวณัฐรินทร์ กล่าว

สำหรับธุรกิจทางด้านที่ปรึกษาทางการเงินนั้น จากภาวะตลาดหุ้นซบเศรษฐกิจไม่ดีนั้น ทำให้บริษัทมีปัญหาทางด้านสภาพคล่องทางการเงิน เพราะมีงานการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินควบรวมกิจการ (M&A) มากขึ้น โดยขณะนี้มีงานประมาณ 8-9 บริษัท ซึ่งเป็นบริษัทที่ยังไม่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยซึ่งเป็นฐานลูกค้าของธนาคารกสิกรไทย

ทั้งนี้ งานด้านการเป็นที่ปรึกษานำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นั้น ขณะนี้มีอยู่จำนวน 2 บริษัท ซึ่งมีมูลค่าการระดมทุนประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อบริษัท ซึ่งจะเข้าจดทะเบียนในปีหน้า โดยขณะนี้บริษัทที่เตรียมจะเข้านั้นรอจังหวะช่วงภาวะตลาดดี

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้จากภาวะตลาดหุ้นมีการปรับตัวลดลงมากนั้นบริษัทไม่ได้รับความเสียหายจากการปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (มาร์จินโลน) เนื่องจากบริษัทมีการคัดเลือกหุ้นที่จะมีการปล่อยมาร์จินที่ดี และจะปล่อยให้กับหุ้นที่มีอยู่ในเกรด A-B เท่านั้น และมีการเลือกลูกค้าในการปล่อยมาร์จินโดยปัจจุบันมีการปล่อยมาร์จิ้นอยู่ที่ 300 ล้านบาท จากวงเงินที่ใช้ในการปล่อย 800 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น