xs
xsm
sm
md
lg

กองสำรองฯเจ๋ง เงินเพิ่มสวนศก. ส.ค.โต1.3หมื่นล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เม็ดเงินลงทุนผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพขยายตัวต่อเนื่อง เดือนสิงหาคมกวาดเข้าระบบอีก 1.3 หมื่นล้านบาท ดันยอดรวมพุ่งเป็น 4.67 แสนล้าน "บลจ.ทิสโก้" ครองแชมป์ด้วยสินทรัพย์กว่า 6.63 หมื่นล้านบาท ขณะที่ "กรุงไทย" ตามมาติดๆ ด้านบลจ.ไทยพาณิชย์ไม่ยอมน้อยหน้า ตั้งเป้าสิ้นปีโพรวิเดนส์ฟันด์แตะ 5.3 หมื่นล้าน รับอานิสงส์ฐานลูกค้าเก่าพร้อมขยายลูกค้าใหม่

รายงานข่าวจากการสำรวจของ "ผู้จัดการรายวัน" พบว่า เดือนสิงหาคมที่ผ่านมาธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (โพวิเดนส์ฟันด์) มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลจากสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) ระบุว่าเดือนสิงหาคม 2551 ธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพทั้งระบบมีจำนวนเงินทั้งสิ้น 4.67 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 13,368.25 ล้านบาท หรือ 2.94% จากจำนวนเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพทั้งระบบในเดือนกรกฎาคม 2551 ที่มีจำนวนเงิน 4.54 แสนล้านบาท และคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 25,865.19 ล้านบาท หรือ 5.86% จากช่วงต้นปีที่ธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมีจำนวนเงินกองทุนทั้งสิ้น 4.41 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ 10 อันดับบริษัทจัดการที่มีจำนวนเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพสูงที่สุดได้แก่ อันดับ 1 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ จำกัด ที่มีเงินกองทุนในการบริหารจัดการจำนวน 66,336.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,712.55 ล้านบาท หรือ 2.65% จากเดือนก่อนหน้าที่มีจำนวนเงิน 64,624.35 ล้านบาท , อันดับ 2 บลจ.กรุงไทย มีเงินกองทุนในการบริหารจัดการประจำเดือนสิงหาคม 64,001.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,828.51 ล้านบาท หรือ 2.94% จากเดือนกรกฎาคมที่มีเงินกองทุน 62,172.52 ล้านบาท , อันดับ 3 บลจ. เอ็มเอฟซี มีเงินกองทุน 55,102.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,091.89 ล้านบาท หรือ 2.02% จากเดือนก่อนหน้าที่มีจำนวนเงิน 54,010.32 ล้านบาท

ขณะที่อันดับ 4 คือ บลจ. ไทยพาณิชย์ ซึ่งเดือนสิงหาคมมีจำนวนเงินกองทุน 52,651.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,671.84 ล้านบาท หรือ 14.51% จากเดือนกรกฎาคมที่มีจำนวนเงิน 45,979.89 ล้านบาท , อันดับ 5 บลจ. กสิกรไทย โดยมีเงินกองทุน 52,314.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,239.18 ล้านบาท หรือ 2.43% จากเดือนก่อนหน้าที่มีจำนวนเงิน 51,075.64 ล้านบาท , อันดับ 6 บลจ. ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) มีจำนวนเงินกองทุน 46,039.74 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 3,851.51 ล้านบาท หรือ 9.13% จากก่อนหน้าที่บลจ.มีจำนวนเงินกองทุนในการบริหารจัดการ ณ เดือนกรกฎาคมที่ 42,188.23 ล้านบาท , อันดับ 7 ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) มีเงินกองทุนในการบริหารจัดการประจำเดือนสิงหาคม 40,946.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 786.05 ล้านบาท หรือ 1.96% จากเดือนก่อนหน้าที่มีเงินกองทุน 40,160.04 ล้านบาท

ด้านอันดับ 8 ได้แก่ บลจ.บีที ซึ่งเดือนที่ผ่านมามีจำนวนเงินกองทุน 17,916.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 222.50 ล้านบาท หรือ 1.26% จาก ณ เดือนกรกฎาคมที่มีจำนวนเงิน 17,694.42 ล้านบาท , อันดับ 9 คือ บริษัท อเมริกันอินเตอร์เนชั่นแนลแอสชัวรันส์ จำกัด (AIA) มีเงินกองทุนในการบริหารจัดการประจำเดือนสิงหาคม 16,538.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 459.91 ล้านบาท หรือ 2.86% จากเดือนก่อนหน้าที่มีเงินกองทุน 16,079.06 ล้านบาท และอันดับ 10 บลจ.ฟินันซ่า ซึ่งมีจำนวนเงินในการบริหารจัดการ 13,480.59 ล้านบาท ลดลง 5366.83 ล้านบาท หรือ 28.48% จากเดือนก่อนหน้าที่มีจำนวนเงินกองทุน 18,847.42 ล้านบาท

**SCBAMมั่นใจสิ้นปีทะลุ5.3หมื่นล.**

นางสาวพัชรินทร์ เตชะเคหะกิจ รองกรรมการผู้อำนวยการ บลจ.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า สาเหตุที่จำนวนเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของบลจ.ไทยพาณิชย์ในเดือนสิงหาคมสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 6,000 ล้านบาทนั้น เนื่องมาจากบลจ.ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้บริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพสำหรับลูกจ้างประจำของส่วนราชการ (กสจ.) โดยตั้งเป้าหมายว่าปลายปีนี้ บลจ.จะมีจำนวนเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในการบริหารจัดการประมาณ 5.3 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันที่มีจำนวนเงินกองทุนทั้งสิ้น 5.2 หมื่นล้านบาท

"การเติบโตจะมาจากทั้งในส่วนของการรักษาฐานลูกค้าเก่าและเพิ่มลูกค้าใหม่ ซึ่งในการขยายนั้น บริษัทจะเน้นทั้งกองทุนสำรองฯของรัฐวิสาหกิจที่จะมีการเปิดประมูลกันในช่วงปลายปี และกองทุนสำรองฯ ของบริษัทเอกชนทั่วไป ซึ่งช่วงที่ผ่านมาบริษัทก็ได้มีการเข้าไปให้ข้อมูลอย่างต่อเนื่อง" นางสาวพัชรินทร์ กล่าว

สำหรับผลตอบแทนของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพภายใต้การบริษัทจัดการของบลจ.ไทยพาณิชย์นั้น นางสาวพัชรินทร์ กล่าวว่า ณ สิ้นเดือนกันยายน กองทุนขนาดใหญ่ภายใต้การจัดการส่วนใหญ่ยังคงสามารถให้ผลตอบแทนเป็นบวกได้ โดยบลจ.ได้ใช้กลยุตย์การบริหารแบบจับจังหวะการลงทุนให้มีความเหมาะสมตามสถานการณ์

ส่วนภาพรวมอุตสาหกรรมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของไทยนั้น ช่วงที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าลูกจ้างให้ความสนใจกับการลงทุนผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่าปลายปีนี้อุตสาหกรรมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจะสามารถเติบโตและมีจำนวนเงินกองทุนรวมประมาณ 4.7 แสนล้านบาท จากตอนนี้ที่มีจำนวนเงินกองทุน 4.67 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตามตอนนี้ปัญหาภาวะวิกฤตที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อดัชนีตลาดหุ้นไทย และปัจจัยดังกล่าวก็ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของอุตสาหกรรมสำรองเลี้ยงชีพเช่นเดียวกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น