ตลาดหุ้นเอเชียร่วงระนาว นักลงทุนกังวลปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เริ่มสะท้อนความเสียภายออกมา ทั้งภาคการเงินและการบริโภค หวั่นมาตรการแก้ปัญหาไม่เพียงพอ พร้อมจับตาสภาคองเกรส คืนนี้ ลุ้นมาตรการฟื้นความเชื่อมั่นการลงทุน
วันนี้ ( 3 ต.ค.) นายอภิสิทธิ์ ลิมป์ธำรงกุล รองผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในช่วงเช้าที่ผ่านมาปรับตัวลดลงตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศที่เผชิญแรงขายจากความวิตกกังวลปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เริ่มสะท้อนความเสียภายออกมาทั้งภาคการเงินและการบริโภค ทำให้นักลงทุนยิ่งทวีความวิตกเกี่ยวกับการลุกลามของภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในตลาดการเงิน
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ตัวเลขการสั่งซื้อสินค้าในโรงงานลดลงและอัตราการว่างงานที่สูงที่สุดในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดความไม่มั่นใจในแผนแก้ไขวิกฤติการเงินของรัฐบาลสหรัฐฯ ว่าจะยับยั้งความเสียหายได้มากน้อยแค่ไหน ขณะที่ยอดสั่งซื้อสินค้าอุตสาหกรรมเดือน ส.ค. ลดลงมากที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะชะลอตัว ทำให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียรวมถึงตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบ
ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดที่ระดับ 10,938.14 จุด ลดลง 216.62 จุด หรือ -1.94% , ดัชนีหุ้น VNI ตลาดเวียดนาม ปิดตลาดวันศุกร์ (3 ต.ค.51) ที่ระดับ 452.14 จุด ปรับลดลง -8.11 จุด เปลี่ยนแปลง -1.79% ตลาดอินเดีย , ดัชนี BSE SENSEX 30 เปิดตลาดวันศุกร์ (3 ต.ค.51) ที่ระดับ 12,851.47 ปรับลดลง -204.20 จุด เปลี่ยนแปลง -1.59%
ดัชนี ฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดตลาดเช้าที่ระดับ 17,824.80 จุด ลดลง 386.31 จุด หรือ -2.12 % , ดัชนีเวทเต็ด ตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดที่ 5,742.23 จุด เพิ่มขึ้น 38.51 จุด หรือ 0.68% เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากรัฐบาลที่ส่งคำสั่งซื้อเข้ามาในตลาด โดยเฉพาะหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ ซึ่งช่วยให้ตลาดดีดกลับขึ้นมาในแดนบวกได้ หลังจากที่เปิดตลาดร่วงลงตามตลาดหุ้นนิวยอร์ก เพราะนักลงทุนยังกังวลว่าสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอาจจะไม่อนุมัติแผนกู้วิกฤตภาคการเงินในการประชุมวันศุกร์นี้
สำหรับแนวโน้มในช่วงบ่ายคาดว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ น่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบและบรรยากาศซบเซาเพื่อรอการลงมติสภาผู้แทนราษฎรในการผ่านร่างมาตรการกอบกู้วิกฤตมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งหากแผนดังกล่าวได้รับการอนุมัติน่าจะช่วยคลายความตึงเครียดในระบการเงิน และน่าจะสามารถยับยั้บความเสียหายในวิกฤตสถาบันการเงินไม่ให้ลุกลามไปมากกว่านี้ได้
ทั้งนี้ นับว่ามีความเป็นไปได้สูงที่แผนกู้วิกฤตดังกล่าวจะได้รับความเห็นชอบเพราะทางการสหรัฐฯ ได้พยายามอย่างเต็มที่ในการแก้ไขและเพิ่มเติมประเด็นที่จะโน้มน้าวให้สภาคงเกรสพึงพอใจในหลักการ โดยทางประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ของสหรัฐฯ เรียกร้องให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติรับรองแผนกู้วิกฤตการเงินอีกครั้งในคืนวันศุกร์นี้ หลังจากไม่รับรองแผนกู้วิกฤตการเงินครั้งแรกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา พร้อมกล่าวว่า วิกฤตตลาดเงินลุกลามมากกว่าที่จะส่งผลกระทบต่อตลาดทุนและตลาดเงินสหรัฐฯ เท่านั้น ซึ่งแผนนี้จะต้องมีออกมาเพื่อเรียกความเชื่อมั่นภาคธุรกิจกลับคืนมา กลยุทธ์การลงทุน แนะนำขายลดความเสี่ยงแนวรับ 580 จุด แนวต้าน 610 จุด
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 15.12 น. ดัชนีหุ้นไทยอยู่ที่ระดับ 590.63 จุด ลดลง 7.06 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4,809.48 ล้านบาท
โดยเมื่อเวลา 16.27 น. ดัชนีอยู่ที่ระดับ 588.03 จุด ลดลง 8.66 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6,359.96 ล้านบาท
ล่าสุด ดัชนีปิดตลาดที่ 590.05 จุด ลดลง 7.64 จุด เปลี่ยนแปลง 1.28% มูลค่าซื้อขายเบาบางเพียง 7,400.28 ล้านบาท