ตลาดหุ้นไทยวันนี้ ยังซึมต่อเนื่อง นักลงทุนรอดูแผนฟื้นฟูวิกฤตการเงินในสหรัฐฯ ขณะที่ ปธน.บุช เตรียมแถลงแผนกู้วิกฤต 7.8 แสนล้านดอลลาร์ เย็นวันนี้ ก่อนส่งให้วุฒิสภาลงมติรับรอง 1 ต.ค.นี้
วันนี้ (29 ก.ย.) นายถนอมศักดิ์ สหรัตนชัย ผู้บังคับบัญชา สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวออกด้านข้างรอแผนกู้วิกฤตสถาบันการเงินสหรัฐฯ คืนนี้ ว่า ลงมติแล้วจะเป็นอย่างไร แผนฟื้นฟูจะผ่านหรือไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือเปล่า ตอนนี้ wait and see เป็นส่วนใหญ่ รวมทั้งจับตาดาวโจนส์ฟิวเจอร์สด้วย
“ทุกคนยังมองประเมินในเรื่องเดิมๆ อยู่ ส่วนหุ้นที่ลงเป็นหุ้นที่ไปเกี่ยวข้องกับพวก commodity เพราะคิดว่าดีมานด์อาจจะชะลอตัว อย่างอื่นรอทิศทางชัดเจน”
แนวโน้มช่วงบ่าย คล้ายช่วงเช้าทุกคนก็ต้องรอดูว่าประกาศออกมาแล้วจะมีผลอย่างไร ถ้าเปลี่ยนแปลงไปมากก็มีผล จึงรอผลลงมติก่อน อีกทั้งช่วงกลางสัปดาห์ตลาดหุ้นส่วนใหญ่จะปิดทั้งเอเชีย จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ นักลงทุนจึงยังไม่ทำอะไร แนวรับ 613 จุด แนวต้าน 623 จุด
นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.พัฒนสิน กล่าวถึงภาพรวมตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นมีการเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบจำกัด เนื่องจากความกังวลในปัญหาสถาบันการเงินของสหรัฐฯ เริ่มคลี่คลายลงหลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ และผู้นำในสภาคองเกรสได้มีมติ และข้อตกลงเบื้องต้นเกี่ยวกับแผนฟื้นฟูภาคการเงินมูลค่า 7 แสนดอลลาร์แล้ว โดยคาดว่าสภาคองเกรสอนุมัติแผนดังกล่าวอย่างเป็นทางการในวันนี้ และส่งให้วุฒิสภาลงมติรับรองในวันที่ 1 ต.ค.นี้
ทั้งนี้ หากแผนการดังกล่าวผ่านการอนุมัติอย่างเป็นทางการ สภาคองเกรสและวุฒิสภาจะทำให้คณะทำงานของประธานาธิบดีบุช นำเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ ไปใช้ตามแผนฟื้นฟูภาคการเงิน รวมถึงการเข้าซื้อหนี้เสียของสถาบันการเงินที่ประสบวิกฤตสินเชื่อที่อยู่อาศัย ที่เหลือนำไปซื้อหนี้เสียของธนาคารอื่นๆ เพื่อให้ตลาดการเงินมีสภาพคล่องมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ดัชนีที่ยังปรับตัวอยู่ในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนส่วนหนึ่งยังคงกังวลเกี่ยวกับแผนการกอบกู้ฟื้นฟูภาคการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ ว่า อาจมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการกอบกู้ดังกล่าว ทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นและยังชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์ดังกล่าว
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยช่วงบ่าย คาดว่า ดัชนีจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบจำกัดที่ 610-627 จุด เนื่องจากนักลงทุนยังคงรอดูการอนุมัติและข้อสรุปเกี่ยวกับแผนการฟื้นฟูภาคการเงิน 7 แสนล้านดอลลาร์ ที่จะมีมติและบทสรุปอย่างเป็นทางการวันนี้ ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์ดังกล่าว
ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ การอนุมัติแผนการฟื้นฟูวิกฤตการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ และสภาคองเกรสว่าจะอนุมัติเงินจำนวนดังกล่าวได้หรือไม่ และจะมีความเปลี่ยนแปลงในรายละเอียดเกี่ยวกับงบประมาณมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงรอดูเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวตามบทสรุปดังกล่าวได้
นางสาวสุภากร สุจิรัตนวิมล รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคทีบี กล่าวว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ช่วงเช้าที่ผ่านมาปรับตัวลดลง เพราะเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งนักลงทุนยังคงวิตกกังวลกับแผนกอบกู้วิกฤตสถาบันการเงินสหรัฐมูลค่า 7 แสนดอลลาร์ ที่แม้ว่าสภาครองเกรสได้ข้อสรุปเบื้องต้นแผนกอบกู้เศรษฐกิจสหรัฐ มูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ โดยเชื่อว่า ขั้นแรกจะจัดสรรเงินช่วยเหลืองวดแรก 250,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อซื้อหนี้เสียทันที และคาดว่าวันนี้สภาครองเกรสจะเตรียมลงมติ หลังจากนั้นจะส่งให้วุฒิสภาลงมติรับรองในวันพุธที่ 1 ต.ค.นี้
อย่างไรก็ดี ประเด็นนี้อาจมีน้ำหนักไม่มากนักเพราะอยู่ในความคาดหมายของตลาดฯ อยู่แล้วโดยในรายละเอียดเบื้องต้นเม็ดเงินจำนวน 2.5 ล้านดอลลาร์ จะถูกอัดฉีดเข้ามาในระบบ อีก 1 แสนล้านดอลล่าร์จะอยู่ในอำนาจของประธานาธิบดี ส่วนที่เหลืออีก 3.5 ล้านดอลลาร์ จะอยู่ในดุลพินิจของสภาคองเกรส ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวยังถือเป็นความเสี่ยงต่อการถูกปรับลดหรือเปลี่ยนแปลงวงเงินช่วยเหลือจึงทำให้เกิดแรงขายออกมาจนกว่าแผนดังกล่าวจะมีความชัดเจนสมบูรณ์
สำหรับแนวโน้มในช่วงบ่าย คาดว่า บรรยากาศการซื้อขายจะซบเซา โดยดัชนีตลาดหลักทรัพย์ น่าจะแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบๆ และมูลค่าการซื้อขายเบาบางเพราะ นักลงทุนส่วนใหญ่ยังชะลอการลงทุนเพื่อติดตามประเด็นการขออนุมัติแผนช่วยเหลือสถาบันการเงินของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ยังคงรอข้อสรุปที่แน่ชัด
อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงของการอนุมัติมาตรการยังคงมีอยู่ หลังจากสมาชิกสภาคองเกรสสังกัดพรรครีพับลิกันได้ยื่นข้อเสนออื่น นอกจากการเข้าช่วยเหลือโดยใช้ภาษีของประชาชนสหรัฐฯ นอกจากนี้ เงินในส่วนที่เหลือจากวงเงินก้อนอีกจำนวน 350,000 ล้านดอลลาร์ อาจถูกลดทอนวงเงินลงอีก ทำให้เกิดความกังวลว่าจะไม่เพียงพอต่อการฟื้นฟูความเสียหายมูลค่ามหาศาลของระบบสถาบันการเงินได้ การขายของนักลงทุนต่างชาติเพื่อสำรองเงินสดจึงยังมีออกมาถ่วงดัชนีต่อไป
**ปธน.บุช เตรียมเปิดแถลงแผนฯ เย็นนี้
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ของสหรัฐฯ กล่าวว่า แผนฟื้นฟูของรัฐบาลมูลค่า 7.00 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งจะได้รับการพิจารณาขั้นสุดท้าย จากสภาคองเกรสนั้น จะจัดหาเครื่องมือและเม็ดเงิน เพื่อปกป้องเศรษฐกิจของสหรัฐให้รอดพ้นจากการล่มสลายของระบบโดยรวม พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่า สภาคองเกรสจะมีการอนุมัติแผนดังกล่าวอย่างรวดเร็ว โดยแผนนี้จะส่งสัญญาณที่แข็งแกร่งต่อตลาดทั่วโลก ว่า สหรัฐฯมีความจริงจังในการฟื้นความเชื่อมั่นและความมีเสถียรภาพของระบบการเงินของเรา ซึ่งหากไม่มีแผนนี้ ความเสียหายต่อเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะรุนแรงมาก
อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวเปิดเผยในวันนี้ ว่า ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ของสหรัฐฯ จะกล่าวแถลงการณ์ในเวลา 18.35 น.ตามเวลาในไทยวันนี้ เกี่ยวกับแผนฟื้นฟูมูลค่า 7.8 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการหนุนระบบการเงินของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 615.59 จุด ลดลง 3.38 จุด เปลี่ยนแปลง -0.55% มูลค่าการซื้อขาย 3,189 ล้านบาท
โดยเมื่อเวลา 15.28 น.ดัชนีอยู่ที่ระดับ 606.54 จุด ลดลง 12.43 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6,033.86 ล้านบาท