xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นภาคเช้าร่วงเกือบ 3% ผวาตลาดหุ้นยุโรปทรุด ฉุดดัชนีร่วงต่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ ปรับลดลงแค่ 2.94% หลังสภาคองเกรสคว่ำแผน 7 แสนล. เชื่อตระหนกข่าวระยะสั้น แนวโน้มช่วงบ่าย ยังไม่น่าไว้วางใจหวั่นตลาดยุโรปทรุด ฉุดดัชนีร่วงต่อ

ภาวะการลงทุนตลาดหุ้นไทย วันนี้ (30 ก.ย.) ดัชนีปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 583.59 จุด ลดลง 17.70 จุด เปลี่นแปลง -2.94% มูลค่าการซื้อขาย 11,961 ล้านบาท นักวิเคราะห์เผยตลาดหุ้นปรับลงจากเรื่องที่แผนฟื้นฟูวิกฤตการเงินสหรัฐไม่ผ่านสภาคองเกรส แต่หุ้นไทยถือว่าไม่ได้ลงรุนแรงมาก เพราะได้มีการตอบรับไปแล้วเมื่อวาน ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศวันนี้ เปิดร่วงแรงจากนั้นก็ผ่อนคลายรีบาวน์ขึ้นได้ ต้องจับตาช่วงบ่ายตลาดยุโรปเปิดจะมีอะไรที่ตกใจหรือลงแรงๆอีกหรือเปล่า แนวรับ 570-580 จุดน่าจะอยู่ได้

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เชื่อว่า ตลาดหุ้นจะไม่เกิดการเทขายด้วยความตื่นตระหนกจนทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) ลดลงอย่างหนัก แต่ที่ปรับตัวลดลงในวันนี้เป็นการปรับตัวไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาค

"ทิศทางตลาดหุ้นก็ไม่น่าจะวิตกจนลดฮวบฮาบ แต่เป็นการซึมตัวและปรับลดลงตามตลาดต่างประเทศ"นางภัทรียา กล่าว

ปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นปรับลดลงเป็นเรื่องของความไม่มั่นใจที่ส่งผลทางจิตวิทยาต่อตลาดหุ้น แต่ไม่ได้มีปัญหาด้านปัจจัยพื้นฐาน โดยสถานการณ์ในครั้งนี้เหมือนเมื่อครั้งที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจในปี 40 เพียงแต่เหตุไม่ได้เกิดจากบ้านเราแต่เกิดในสหรัฐ ประกอบกับ เราสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วและรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้

สถานการณ์ตลาดหุ้นในขณะนี้เป็นโอกาสดีของนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี ซึ่งการที่กระทรวงการคลังจะมีมาตรการขยายวงเงินค่าลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้กับผู้ที่ลงทุนในกองทุน LTF และ RMF ในช่วง 3 เดือนจากนี้ ก็เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ระดับหนึ่ง

นายวีระชัย ครองสามสี ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ฟาร์อีสท์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้ร่วงแรง เป็นลักษณะของการ panic ตามตลาดหุ้นสหรัฐเกี่ยวกับเรื่องแผนฟื้นฟูภาคการเงินที่ล้มเหลว ทุกคนมองว่าภาคการเงินและระบบการเงินอาจจะต้องชะงักงันจากการที่แผนฟื้นฟูต้องล้มเหลว ประกอบกับทำให้นักลงทุนประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐเองที่จะเผชิญความเสี่ยงถดถอยด้วยรวมถึงเศรษฐกิจโลกที่อาจจะต้องถดถอยเช่นกัน กระตุ้นทำให้เกิดแรงเทขายในตลาดหุ้นทั่วโลก

สำหรับตลาดหุ้นบ้านเราเองยังมีความเสี่ยงจากเรื่องที่ผ่านมาค่อนข้างอ่อนไหว เพราะการที่ดาวโจนส์ปรับตัวลงแรงๆ ก็ทำให้ตลาดหุ้นบ้านเราลงแรงเช่นกัน จะเห็นชัดเจนดาวโจนส์ร่วงเกือบ 7% บ้านเราเปิดมาก็ลดลงเกือบ 6% ตอนนี้ก็เริ่มฟื้นตัวขึ้นมา มองว่าระยะสั้นนักลงทุนตื่นตระหนกต่อภาวะ แต่ตอนนี้เอเชียหลายประเทศเริ่มมีการฟื้นตัวชัดเจน
 
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส (ASP) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับลงตามคาด เป็นสาเหตุจากเรื่องที่สภาคองเกรสคว่ำแผนฟื้นฟูวิกฤติการเงินของสหรัฐฯ 7 แสนล้านเหรียญเรื่องเดียว แต่หุ้นไทยที่ลงมาไม่ได้รุนแรงมากเพราะส่วนหนึ่งได้มีการตอบรับไปตั้งแต่เมื่อวานเพราะระหว่างเทรดดาวโจนส์ฟิวเจอร์สลงมากว่า 100 จุด เมื่อวานหุ้นไทยดูดซับไปแล้วบางส่วน

ขณะที่ตลาดต่างประเทศวันนี้ไม่ได้แรงมากเช่นกัน จะเห็นนิกเคอิลงไป 500 กว่าจุด ดีดกลับเหลือลบแค่ 390 จุด ขณะที่ฮั่งเส็งก็ผ่อนคลายจึงมองระดับ 570-580 จุดของหุ้นไทยก็น่าจะอยู่ได้ในช่วงเวลาแบบนี้ หลังจากนี้ไปเป็นช่วงที่ต้องติดตามดูความคืบหน้าของแผนต่างๆ แต่เชื่อว่า downside จากตรงนี้ไม่กว้างใหญ่มากยังสบายใจได้ PE แถว 570 กว่าจุดเป็น PE ระดับ 8 เท่า ถือว่ายังอยู่ในกรอบที่เราคาดหวังอยู่

"ทางเอเชียเปิดตลาดร่วงแรง จากนั้นก็รีบาวน์ได้ เพราะมีการตอบรับไปแล้วบางส่วนเมื่อวาน" นายเทิดศักดิ์ กล่าว

แนวโน้มช่วงบ่ายต้องดูทิศทางของตลาดยุโรปที่จะเปิดว่าจะมีอะไรที่ตกใจหรือปรับลงแรงๆ อีกหรือไม่ คงต้องติดตามดู
กำลังโหลดความคิดเห็น