xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นภาคบ่ายร่วงกว่า 10 จุด นลท.กังวลแผนกู้วิกฤตเหลว แบงก์เล็กโคมา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ดัชนีภาคบ่ายร่วงลงกว่า 10 จุด ตามทิศทางตลาดในภูมิภาค ดาวโจนส์ล่วงหน้าเป็นลบ นักลงทุนขายถือเงินสด รอความชัดเจนผลมาตรการรัฐบาลสหรัฐฯ ขณะที่สถาบันการเงินขนาดเล็กขำนวนมากมีอาการโคมา

ภาวะตลาดหุ้นไทย วันนี้ (22 ก.ย.) ดัชนีภาคบ่ายได้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 15.45 น.ดัชนีอยู่ที่ระดับ 614.79 จุด ลดลง 10.04 จุด เปลี่ยนแปลง -1.61% มูลค่าการซื้อขายกว่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามทิศทางเดียวกับตลาดในภูมิภาค โดยมีแรงขายทั้งกลุ่มพลังงาน ธนาคาร และ สื่อสาร นักวิเคราะห์คาดนักลงทุนขายถือเงินสด และต้องการรอดูความชัดเจนความชัดเจนเกี่ยวกับแผนกู้สถาบันการเงินของสหรัฐฯ ที่ต้องผ่านสภาคองเกรส

ขณะเดียวกัน ก็มีกระแสข่าวว่า สถานบันการเงินขนาดเล็กจำนวนมากในสหรัฐฯ กำลังมีปัญหาสถาพคล่อง ส่วนการเมืองในประเทศยังรอลุ้มโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่

นายคริสโตเฟอร์ วูด ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนจากบริษัท ซีแอลเอสเอ จำกัด ซึ่งได้รับการยอมรับว่า เป็นนักวิเคราะห์ระดับแนวหน้าของเอเชีย โดยผลการสำรวจความคิดเห็นของนักลงทุนสถาบัน คาดการณ์ว่า การที่ตลาดหุ้นเอเชียทะยานขึ้นขานรับมาตรการกู้วิกฤตในตลาดการเงินของสหรัฐมูลค่า 700,000 ล้านดอลลาร์นั้น จะเป็นการดีดตัวขึ้นในระยะสั้นๆ เนื่องจากเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวลง

อย่างไรก็ดี นายวูด แนะนำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงซื้อหุ้นบริษัทที่ต้องพึ่งพาอุปสงค์ในตลาดโลก และแนะนำให้เข้าซื้อหุ้นกลุ่มการเงินในตลาดเอเชีย เพราะเชื่อว่าหุ้นกลุ่มการเงินในตลาดเอเชียจะเป็นช่องทางการลงทุนที่ปลอดภัยจากวิกฤตการณ์สินเชื่อ มากกว่าหุ้นกลุ่มการเงินในตลาดสหรัฐฯและยุโรป

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส (ASP) กล่าวว่า บ่ายนี้ตลาดหุ้นไทยอ่อนตัวลงมามากกว่าตลาดภูมิภาคที่อยู่ในทิศทางที่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงเช้า แต่ส่วนใหญ่ยังอยู่แดนบวก โดยมีปัจจัยลบจากดาวโจนส์ล่วงหน้าเป็นลบ คาดว่า จะเป็นแรงขายทำกำไรของนักลงทุน ภายหลังจากที่ตลาดได้มีการรีบาวนด์ขึ้นมาในช่วงสั้นๆ

นอกจากนี้ ยังคาดว่า ตลาดไม่มีความไม่มั่นใจในมาตรการของภาครัฐฯ ที่ประกาศออกมา ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร กว่าจะเห็นผลเป็นรูปธรรม พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 614 จุด แนวต้าน 620 จุด

นายถนอมศักดิ์ สหรัตนชัย ผู้บังคับบัญชา สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับฐานหลังจากที่ได้มีการขยับขึ้นไปในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งตรงนี้มองว่านักลงทุนคงจะยังไม่ค่อยเชื่อมั่น นอกจากนี้ พอเห็นดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับตัวลงก็ยิ่งเป็นแรงสนับสนุนในการขายของนักลงทุนอีก

ภาพใหญ่คงจะต้องจับตาดูความเคลื่อนไหวในสหรัฐฯ โดยมองไปที่มาตรการที่มีการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบจำนวน 7 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้อาจเกิดการขาดดุลงบประมาณ และส่งผลต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่อาจจะอ่อนตัวลงในระยะยาวได้ ซึ่งวันนี้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯได้อ่อนตัวลงทำให้คนไม่มั่นใจ แล้วก็ขายหุ้นในกลุ่มแบงก์ออกมาด้วย นอกจากนี้ หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกก็มีโอกาสที่จะปรับตัวลงตาม และหากสถาบันการเงินต้องการเม็ดเงินเพื่อไปเสริมสภาพคล่องก็ต้องขายหุ้นออกมาอยู่ดี ดังนั้นนักลงทุนควรจะเลือกลงทุนเป็นรายตัว โดยเฉพาะหุ้นที่ปลอดภัย

สำหรับปัจจัยในประเทศในเรื่องของการเมืองคงจะต้องติดตามรอดูนโยบายของภาครัฐต่อไป แต่คาดว่าจะมีการดำเนินนโยบายต่อเนื่อง ส่วนโผ ครม.ก็คิดว่าไม่น่าจะมีอะไร เพราะคงจะเป็นระบบโควต้าอยู่แล้ว

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (23 ก.ย.) นายถนอมศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยคงจะแกว่งตัวตามกระแสข่าวที่ออกมาในแต่ละวัน พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 600-605 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 625-630 จุด โดยความเคลื่อนไหวจะมีการบวก/ลบ 10-15 จุด

ล่าสุด เวลา 16.42 น.ดัชนีปิดตลาดภาคบ่ายที่ระดับ 614.49 จุด ลดลง -10.34 จุด มูลค่าการซื้อขาย 13,183.50 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น