xs
xsm
sm
md
lg

บล.ดีบีเอสหวังภาวะตลาดฟื้น ขายหุ้นกู้อนุพันธ์อีก 500 ล้านบ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส เตรียมขายหุ้นกู้อนุพันธ์ได้อีก 500 ล้านบาท หากภาวะตลาดครึ่งปีหลังฟื้น หวังเพิ่มทางเลือกลงทุนให้นักลงทุน "ภัทธีรา" เผย ครึ่งปีหลังเตรียมขายสินค้าหลากหลาย-ให้คำแนะนำการลงทุน ด้านบล.เอเซียพลัส เตรียมปรับวอลุ่มเฉลี่ยปีนี้ลงจาก 2 หมื่นล้านบาท หากการเมืองไม่คลี่คลาย

นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทได้มีการเสนอขายหุ้นกู้อนุพันธ์จำนวน 500 ล้านบาท หลังจากที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)อนุมัติให้บริษัทเสนอขายหุ้นกู้อนุพันธ์จำนวน 1,000 ล้านบาท ให้แก่ประชาชนทั่วไปได้

ทั้งนี้ นักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาซื้อจำนวนมาก เนื่องจากให้ผลตอบแทนที่ดี เพราะเป็นสินค้าใหม่ความเสี่ยงอยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งเป็นการเพิ่มทางเลือกในการลงทุนในช่วงที่ภาวะตลาดมีความผันผวนปรับตัวเพิ่มขึ้นลงตลอดเวลา และมูลค่าการซื้อขายเบาบาง

สำหรับในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทหวังว่าจะสามารถขายหุ้นกู้อนุพันธ์ที่เหลืออีก 500 ล้านบาท หากภาวะตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เอื้อต่อการเสนอขาย เพราะการเสนอขายหุ้นกู้อนุพันธ์นั้นช่วงที่เหมาะสมจะเป็นช่วงที่ภาวะตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงขาขึ้น

นางภัทธีรา กล่าวว่า แผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังนี้บริษัทจะเน้นด้านการเสนอขายสินค้าที่มีความหลากลายมากขึ้น และให้คำแนะนำในการลงทุนที่ดีกับลูกค้า เนื่องจากบริษัทไม่ได้มีพอร์ตการลงทุนในการเทรดหุ้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เกตแชร์)ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันอยู่ที่ 2.17% โดยขณะนี้บริษัทยังไม่ได้ตั้งเป้าหมายว่าสิ้นปีนี้บริษัทจะมีมาร์เกตแชร์อยู่ที่เท่าไรเพราะขึ้นอยู่กับภาวะตลาด

ด้าน บล.เอเซีย พลัส ออกบทวิเคราะห์หุ้นกลุ่มหลักทรัพย์ ว่า จากมูลค่าการซื้อขายเริ่มเบาบางเหลือเพียง 1 หมื่นล้านบาทในช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยจากต้นปีถึงปัจจุบันอยู่ที่ 1.77 หมื่นล้านบาทต่อวัน ซึ่งหากจะให้มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยทั้งปี2551 เป็นไปตามเป้าหมายของบริษัทคาดไว้ที่ 20,000 ล้านบาทต่อวัน

ทั้งนี้ ในช่วงที่เหลือของปีนี้มูลค่าการซื้อขายจะต้องเฉลี่ยที่ 2.4 หมื่นล้านบาทต่อวัน ซึ่งหากสถานการณ์ทางการเมืองยังไม่คลี่คลาย โอกาสที่มูลค่าการซื้อขายจะเป็นไปตามสมมุติฐานจึงมีความลำบากมากขึ้น ฝ่ายวิจัยของบริษัทจึงมีแนวโน้มปรับลดมูลค่าการซื้อขายปีนี้ลง

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยยังคงได้รับแรงกดดันต่อเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวรวมถึงสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ แต่หากพิจารณาค่าP/E ตลาด ซึ่งปัจจุบันบริษัทลดลงเหลือต่ำกว่า 9 เท่าแล้ว จากที่เคยสูงสุดที่ 14 เท่า ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าราคาหุ้นได้สะท้อนปัจจัยลบต่างๆไปมากแล้ว บริษัทจึงให้น้ำหนักการลงทุนหุ้นกลุ่มหลักทรัพย์เท่ากับตลาด โดยแนะนำลงทุนในหุ้น บล.กิมเอ็ง และบล.ภัทร จากที่รักษาส่วนแบ่งการตลาดได้อย่างแข็งแกร่ง ในภาวะตลาดที่ผันผวนยังมีนโยบายปล่อยสินเชื่อในสัดส่วนที่ต่ำกว่าอุตสาหกรรม
กำลังโหลดความคิดเห็น