ตลาดหุ้นไทยผันผวนหนัก ดัชนีดิ่งทันควันหลังพรรคร่วมรัฐแถลงจุดยืนหนุนพรรคพลังประชาชนเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พร้อมชู "สมัคร" รั้งตำแหน่งนายกฯ คนใหม่อีกครั้ง นักลงทุนผวาการเมืองเจอทางตันอีกรอบและรุนแรงกว่าเดิม กระหน่ำขายหุ้นทิ้ง กดดัชนีร่วงกว่า 8 จุด
ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (11 ก.ย) ดัชนีตลาดหุ้นค่อนข้างผันผวน จากช่วงเช้าที่เคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวก แม้จะมีปริมาณการซื้อขายเข้ามาไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศต่างเฝ้ารอดูท่าทีของพรรคพลังประชาชนและพรรครัฐบาลถึงสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้น รวมถึงการสรรหาบุคคลที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทนนายสมัคร สุนทรเวช หลังจากถูกศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ขณะที่ช่วงบ่ายพรรคร่วมรัฐบาลได้ออกมาแถลงยืนยันที่จะสนับสนุนให้พรรคพลังประชาชนป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงสรรหาบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ขณะเดียวกันพรรคพลังประชาชนเองได้มีมติสนับสนุนให้นายสมัคร กลับเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ขณะเดียวกันยังได้รับการยืนยันจากนายสมัครเรียบร้อยแล้ว
จากปัจจัยดังกล่าวได้ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นในช่วงบ่ายปรับตัวลดลงทันที เพราะนักลงทุนต่างวิตกกับสถานการณ์ทางการเมืองที่จะปะทุขึ้นมารอบใหม่ และส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และขยายวงกว้างสู่ตลาดหุ้นไทยด้วย โดยดัชนีตลาดหุ้นไทยแตะระดับสูงสุดที่ 658.78 จุด ก่อนจะปิดที่ระดับต่ำสุด 646.80 จุด ลดลงจากวันก่อนหน้า 8.74 จุด คิดเป็น 1.33% มูลค่าการซื้อขายรวม 9,173.01 ล้านบาท
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างประเทศยังคงเทขายหุ้นไทยออกมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่รัฐบาลประกาศใช้พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยมียอดขายสุทธิ 1,757.45 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 336.83 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 1,420.62 ล้านบาท
นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) นครหลวงไทย จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นในช่วงบ่ายปรับตัวลดลงอย่างมาก หลังจากรับทราบข่าวที่นายสมัคร ออกมายืนยันจะรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อ หลังจากที่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคพลังประชาชน และพรรคร่วมรัฐบาลอีก 5 พรรค ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาของนักลงทุน และเทขายหุ้นออกมากดดันให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง
"ช่วงระยะสั้นปัจจัยทางการเมืองยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อตลาดหุ้นในระดับสูง หากนายสมัคร กลับเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี จะทำให้สถานการณ์การเมืองกลับไปสู่รูปแบบเดิมๆ ดังนั้นตลาดหุ้นจะต้องติดตามเหตุการณ์ของทุกฝ่ายวันต่อวัน ทั้งฝ่ายรัฐบาล และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยมีแนวรับที่ 650 จุด และแนวต้าน 658 จุด" นายสุกิจ กล่าว
นางสาวปองรัตน์ รัตนะตวณานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า วานนี้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ค่อนข้างผันผวน โดยเปิดตลาดช่วงเช้าปรับตัวเพิ่มขึ้นไปบวกถึง 4 จุด ก่อนจะรูดลงมาปิดบวก 0.99 จุดในช่วงเช้า แต่ช่วงบ่ายดัชนีปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงและปิดที่ระดับต่ำสุดที่ 646.80 จุด
โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ตลาดปรับตัวลดลง คือ ปัญหาการเมืองภายในประเทศ ภายหลังจากที่ 6 พรรคร่วมรัฐบาลแถลงจุดยืนที่จะสนับสนุนให้พรรคพลังประชาชนเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งพรรคพลังประชาชนได้เสนอให้นายสมัคร สุนทรเวช กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ส่งผลให้นักลงทุนต่างเทขายหุ้นออกมา เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองจะกลับไปสู่ทางตันอีกครั้ง
สำหรับแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (12 ก.ย.) คาดว่านักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงชะลอการลงทุน ภายหลังการที่พรรคพลังประชาชนเสนอชื่อ นายสมัคร สุนทรเวช กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี โดยให้แนวรับที่ 640 จุด แนวต้านที่ 650 จุด ทั้งนี้ นักลงทุนต้องติดตามผลการประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่าจะลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีวันนี้ ส่วนหุ้นที่น่าลงทุนยังคงเป็นหุ้นกลุ่มธนาคาร และอสังหาริมทรัพย์
นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์นักลงทุน บล. พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวอยู่ในแดนลบ แม้จะปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในเช้า ก่อนที่จะรูดลงอย่างรุนแรงในช่วงบ่าย เนื่องจากการแถลงร่วมของ 6 พรรคร่วมรัฐบาลที่จะให้พรรคพลังประชาชนเป็นผู้เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ขณะที่พรรคพลังประชาชนกลับเสนอชื่อ นายสมัคร สุนทรเวช มาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง
สำหรับทิศทางความเคลื่อนไหววันนี้ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงซบเซา โดยมีแนวรับที่ 635-640 จุด แนวต้านที่ 660 จุด ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าจะชะลอการลงทุน เพื่อรอดูผลการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ รวมถึงทิศทางตลาดในภูมิภาคเอเชียด้วย
ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (11 ก.ย) ดัชนีตลาดหุ้นค่อนข้างผันผวน จากช่วงเช้าที่เคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวก แม้จะมีปริมาณการซื้อขายเข้ามาไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศต่างเฝ้ารอดูท่าทีของพรรคพลังประชาชนและพรรครัฐบาลถึงสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้น รวมถึงการสรรหาบุคคลที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทนนายสมัคร สุนทรเวช หลังจากถูกศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ขณะที่ช่วงบ่ายพรรคร่วมรัฐบาลได้ออกมาแถลงยืนยันที่จะสนับสนุนให้พรรคพลังประชาชนป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงสรรหาบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ขณะเดียวกันพรรคพลังประชาชนเองได้มีมติสนับสนุนให้นายสมัคร กลับเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ขณะเดียวกันยังได้รับการยืนยันจากนายสมัครเรียบร้อยแล้ว
จากปัจจัยดังกล่าวได้ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นในช่วงบ่ายปรับตัวลดลงทันที เพราะนักลงทุนต่างวิตกกับสถานการณ์ทางการเมืองที่จะปะทุขึ้นมารอบใหม่ และส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และขยายวงกว้างสู่ตลาดหุ้นไทยด้วย โดยดัชนีตลาดหุ้นไทยแตะระดับสูงสุดที่ 658.78 จุด ก่อนจะปิดที่ระดับต่ำสุด 646.80 จุด ลดลงจากวันก่อนหน้า 8.74 จุด คิดเป็น 1.33% มูลค่าการซื้อขายรวม 9,173.01 ล้านบาท
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างประเทศยังคงเทขายหุ้นไทยออกมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่รัฐบาลประกาศใช้พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยมียอดขายสุทธิ 1,757.45 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 336.83 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 1,420.62 ล้านบาท
นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) นครหลวงไทย จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นในช่วงบ่ายปรับตัวลดลงอย่างมาก หลังจากรับทราบข่าวที่นายสมัคร ออกมายืนยันจะรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อ หลังจากที่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคพลังประชาชน และพรรคร่วมรัฐบาลอีก 5 พรรค ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาของนักลงทุน และเทขายหุ้นออกมากดดันให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง
"ช่วงระยะสั้นปัจจัยทางการเมืองยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อตลาดหุ้นในระดับสูง หากนายสมัคร กลับเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี จะทำให้สถานการณ์การเมืองกลับไปสู่รูปแบบเดิมๆ ดังนั้นตลาดหุ้นจะต้องติดตามเหตุการณ์ของทุกฝ่ายวันต่อวัน ทั้งฝ่ายรัฐบาล และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยมีแนวรับที่ 650 จุด และแนวต้าน 658 จุด" นายสุกิจ กล่าว
นางสาวปองรัตน์ รัตนะตวณานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า วานนี้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ค่อนข้างผันผวน โดยเปิดตลาดช่วงเช้าปรับตัวเพิ่มขึ้นไปบวกถึง 4 จุด ก่อนจะรูดลงมาปิดบวก 0.99 จุดในช่วงเช้า แต่ช่วงบ่ายดัชนีปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงและปิดที่ระดับต่ำสุดที่ 646.80 จุด
โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ตลาดปรับตัวลดลง คือ ปัญหาการเมืองภายในประเทศ ภายหลังจากที่ 6 พรรคร่วมรัฐบาลแถลงจุดยืนที่จะสนับสนุนให้พรรคพลังประชาชนเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งพรรคพลังประชาชนได้เสนอให้นายสมัคร สุนทรเวช กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ส่งผลให้นักลงทุนต่างเทขายหุ้นออกมา เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองจะกลับไปสู่ทางตันอีกครั้ง
สำหรับแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (12 ก.ย.) คาดว่านักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงชะลอการลงทุน ภายหลังการที่พรรคพลังประชาชนเสนอชื่อ นายสมัคร สุนทรเวช กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี โดยให้แนวรับที่ 640 จุด แนวต้านที่ 650 จุด ทั้งนี้ นักลงทุนต้องติดตามผลการประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่าจะลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีวันนี้ ส่วนหุ้นที่น่าลงทุนยังคงเป็นหุ้นกลุ่มธนาคาร และอสังหาริมทรัพย์
นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์นักลงทุน บล. พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวอยู่ในแดนลบ แม้จะปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในเช้า ก่อนที่จะรูดลงอย่างรุนแรงในช่วงบ่าย เนื่องจากการแถลงร่วมของ 6 พรรคร่วมรัฐบาลที่จะให้พรรคพลังประชาชนเป็นผู้เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ขณะที่พรรคพลังประชาชนกลับเสนอชื่อ นายสมัคร สุนทรเวช มาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง
สำหรับทิศทางความเคลื่อนไหววันนี้ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงซบเซา โดยมีแนวรับที่ 635-640 จุด แนวต้านที่ 660 จุด ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าจะชะลอการลงทุน เพื่อรอดูผลการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ รวมถึงทิศทางตลาดในภูมิภาคเอเชียด้วย
