xs
xsm
sm
md
lg

นักลงทุนทิ้งหุ้นใหญ่กดดัชนีรูด ลุ้นประชุมเฟด-แก้รัฐธรรมนูญ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นักลงทุนแห่ทิ้งหุ้นขนาดใหญ่ทั้งพลังงาน-เหมืองแร่ ฉุด "บ้านปู" รูดแรงถึง 38 บาท กดดันดัชนีตลาดหุ้นไทยดิ่งต่ออีกเกือบ 8 จุด โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิอีก 2.2 พันล้านบาท โบรกเกอร์ คาดการณ์ตลาดหุ้นผันผวน ลุ้นผลการประชุมเฟดและตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมถึงการประกาศเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้งที่รุนแรง

ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ ( 5 ส.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยได้ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง หลังจากนักลงทุนกระหน่ำทิ้งหุ้นในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มโภคภัณฑ์ โดยปรับลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 661.02 จุด สูงสุดที่ระดับ 673.73 จุด ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 667.12 จุด ลดลงจากวันก่อน 7.55 จุด คิดเป็น 1.12% มูลค่าการซื้อขายรวม 14,130.95 ล้านบาท

ทั้งนี้ นักลงทุนต่างประเทศได้เทขายหุ้นออกมาอย่างหนัก คือ มียอดขายสุทธิรวม 2,253.78 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 12.70 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 2,266.50 ล้านบาท
สำหรับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ บมจ.ปตท. (PTT) ราคาปิดที่ 236 บาท ลดลงจากวันก่อน 10 บาท หรือ 4.07% มูลค่าการซื้อขาย 2,001.46 ล้านบาท บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ปิดที่ 142 บาท ลดลง 8 บาท หรือ 5.33% มูลค่า 1,861.97 ล้านบาท และบมจ.บ้านปู (BANPU) ปิด 378 บาท ลดลง 38 บาท หรือ 9.13% มูลค่า 1,822.47 ล้านบาท

นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) นครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วานนี้ปรับลดลงแรงมาก เป็นผลจากราคาสินค้าในกลุ่มเกษตร ถ่านหิน น้ำมันและเหล็ก ปรับลดลง ซึ่งเป็นไปทั่วโลกไม่เพียงแต่ในไทยเท่านั้น และเชื่อว่าแนวโน้มคงจะปรับลดลงต่อเนื่องอีก ส่งผลให้ราคาหุ้นในกลุ่มดังกล่าวปรับลง เห็นได้จากหุ้นขนาดใหญ่หลาย ๆ ตัวราคาร่วงลง ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลดลงเช่นกัน

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นวันนี้ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ น่าจะปรับลดลงอีก โดยให้แนวรับที่ 660-665 จุด และให้จับตาหุ้นในกลุ่มที่จะได้รับอานิสงส์อย่าง กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และวัสดุก่อสร้าง เป็นต้น

นางสาวจิตรา อมรธรรม ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไซรัส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วานนี้รูดลงต่อเนื่องแต่ช่วงเช้า เป็นผลจากราคาน้ำมันและกลุ่มคอมมูนิตี้ที่ปรับตัวลดลงกดดันให้ราคาหุ้น BANPU , PTT และ PTTEP ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่วันนี้จะต้องติดตามผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด ที่หารือเพื่อปรับอัตราดอกเบี้ย คงไม่มีอะไรผิดคาด เพราะเป็นที่คาดการณ์ว่าน่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ 2% ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจของสหรัฐ เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าอ่อนแอลงมาก

สำหรับ ปัจจัยต่างประเทศคงไม่มีแรงกระทบต่อตลาดหุ้นไทยแล้ว แต่จะต้องรอลุ้นกันอีกหลังจากที่มีการ 18 กรกฎาคมนี้ ที่จะมีการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมทั้งคดีใบแดงของนายยงยุทธ ติยะไพรัช และอีกหลายๆ คดีที่ต้องดำเนินการ ซึ่งจะมีผลต่อตลาดหุ้นคงเป็นหลังกลางเดือนนี้เป็นต้นไป

ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ประเมินว่า ราคาสินค้าคอมมูนิตี้ในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงส่งผลกดดันต่อตลาดหุ้นไทย ทำให้มีแรงขายออกมาในหุ้นกลุ่มพลังงาน และเหมืองแร่ แต่ยังคงมีแรงซื้อเก็งกำไรในกลุ่มหุ้นขนาดกลาง - ขนาดเล็กอยู่ เพราะเป็นเรื่องเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 2 ซึ่งเป็นหุ้นที่มีมูลค่าตามราคาตลาด (มาร์เกตแคป) น้อยจึงไม่สามารถชดเชยแรงขายในหุ้นขนาดใหญ่ได้
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยจะยังคงผันผวน นักลงทุนต้องติดตามผลการประชุมเฟดและแถลงการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ว่าจะมีแนวโน้มหรือทิศทางใด ขณะที่ปัจจัยในประเทศนั้นจะต้องติดตามนโยบายเศรษฐกิจ หลังจากที่รัฐบาลได้ปรับคณะรัฐมนตรีและทีมที่ปรึกษาเศรษฐกิจใหม่ รวมถึงการพิจารณาคดีทางการเมืองต่างๆ โดยมีแนวรับสำคัญที่ 650-600 จุด
กำลังโหลดความคิดเห็น