xs
xsm
sm
md
lg

ไทยโพลีคอนเข็น100ล้านหุ้นใหม่ ขายIPOตุลาคมนี้เข้าเทรดกลางพ.ย.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไทยโพลีคอน เตรียมขาย IPO100 ล้านหุ้น ระดมทุนในตลาดฯ mai คาดได้ราคาขายสิ้นเดือนตุลาคมนี้ ก่อนเข้าเทรดเดือนพฤศจิกายน เพื่อนำเงินใช้ขยายงาน หลังระดมทุนจะรับงานได้มากขึ้นถึง 5 พันล้านบาท โวขณะนี้มีงานในมือเพียบ เล็งประมูลงานเพิ่มและลุยลงทุนประเทศเเพื่อนบ้านปี 52

นายเจริญ จันทร์พลังศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยโพลีคอน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทมีแผนที่จะระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ mai โดยจะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนที่ออกใหม่ให้กับประชาชนครั้งแรก (IPO ) จำนวน 100 ล้านหุ้น ส่วนราคาที่จะเสนอขายนั้นอยู่ระหว่างดำเนินการ คาดได้ราคาที่แน่นอนสิ้นเดือนตุลาคมนี้ ก่อนจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai กลางเดือนพฤศจิกายนปีนี้

ปัจจุบัน บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 400 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ(พาร์) 1 บาท คิดเป็นจำนวน 400 ล้านหุ้นและชำระแล้ว 300 ล้านบาท โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนจะนำ ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน 70 % และซื้อเครื่องจักรเพื่อส่วนขายธุรกิจอีก 30 % ที่เหลือเป็นเงินทุนหมุนเวียนและหากกระดมทุนในครั้งนี้ประสบความสำเร็จ จะส่งให้ผลให้ความสามารถในการรับงานของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 5,000 ล้านบาท จากเดิมความสามารถในการรับงานอยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ปัญหาวิกฤตทางการเงินของสหรัฐฯ ปัญหาการเมืองภายในประเทศ และราคาน้ำมันที่ผันผวน แม้ว่าช่วงต้นปีราคาเหล็กปรับเพิ่มจากเดิม 100 % กล่าวคือมาอยู่ที่ 40 บาท แต่ส่งผลกระทบต่อบริษัทมากนัก เนื่องจากต้นทุนรวมเพิ่มขึ้นจากเดิมเพียง 1-2 %

สำหรับผลประกอบการช่วง 6 เดือนแรกของปี 2551 บริษัท มีรายได้รวม 716.91 ล้านบาท และกำไรสุทธิอยุ่ที่ 38.41 ล้านบาท หากเทียบกับสิ้นปี 2550 มีรายได้รวม 1,315 ล้านบาท กำไรสุทธิที่ 73.31 ล้านบาท และคาดว่ารายได้ในปี 2551 จะเพิ่มขึ้น 50 % จากเดิมที่คาดการไว้ที่ 80-90 % โดยการลงทุนส่วนใหญ่จะเป็นของโครงการจากภาครัฐและเอกชน ซึ่งเป็นงานภาครัฐ 30 % , งานภาคเอกชน 70 % ซึ่งในการเข้าประมูลแต่ละโครงการจะต้องมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ขั้นต่ำ 3 % าท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท คิดเป็นจำนวน 400 ล้านหุ้น ซึ่งเป็นทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 300 ล้านบาท คิดเป็นจำนวน 300 ล้านหุ้น

ทั้งนี้ คาดว่าสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ และการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาเริ่มมีภาวะนิ่งและมีทิศทางแนวโน้มที่จะดีขึ้น รวมถึงมองว่าไม่ว่าประธานาธิบดีของสหรัฐฯจะเป็นคนใด เมื่อเข้ารับตำแหน่งก็จะมุ่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯ เป็นหลัก

นอกจากนี้ ในไตรมาส 3 บริษัทมีงานก่อสร้างที่อยู่ระหว่างส่งมอบจำนวน 15 โครงการมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,621.76 ล้านบาท และยังมีโครงการก่อสร้างที่ประมูลได้แล้วแต่ยังไม่ดำเนินการก่อสร้างจำนวน 5 โครงการ มูลค่ารวม 763.83 ล้านบาท ซึ่งโครงการส่วนใหญ่จะดำเนินการแล้วเสร็จภายในปี 2552 ขณะที่ไตรมาส 4 ของปี 2551 บริษัทฯ มีแผนที่จะเข้าร่วมประมูลโครงการมูลค่ารวม 3,494 ล้านบาท และในปี 2552 มีแผนจะขยายงานไปยังประเทศเพื่อนบ้านเช่น ลาวและกัมพูชา แต่ต้องรอดูนโยบายของรัฐบาลและทิศทางเศรษกิจโลกก่อน

สำหรับการลงทุนสร้างโรงพยาบาลกรุงเทพ ในประเทศกัมพูชา ซึ่งมีมูลค่าโครงการ 11.5 ล้านเหรียญ คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ ในไตรมาส 3-4 ของปี 2551 โดยลักษณะการลงทุนจะไปกับบริษัทคู่ค้าที่ความสามารถอยู่แล้วในกัมพูชา เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการลงทุนระยาวในอีก 5 ปี
กำลังโหลดความคิดเห็น