TTW มั่นใจกวาดรายได้ปีนี้ ไม่ต่ำกว่า 3.6 พันลบ.จากปีก่อน 3.2 พันลบ. หลังปริมาณขายน้ำเพิ่ม-ดบ.จ่ายลด หารือ กปภ. เพิ่มกำลังการผลิต 1 - 1.2 แสน ลบ.ม./วัน คาดสรุปได้สิ้นปีนี้ เตรียมเจรจาเจ้าหนี้ ขอยืดเวลาชำระหนี้ 1 หมื่นกว่าลบ. หรือเล็งออกหุ้นกู้แทน หากเจ้าหนี้ไม่อนุมัติ หวังขยายกำลังการผลิต คาดสรุป Q3/51
วันนี้ (14 ส.ค.) นายสมโพธิ์ ศรีภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TTW เปิดเผยว่า บริษัทฯ มั่นใจว่ารายได้ในปี 2551 จะไม่ต่ำกว่า 3.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 3.2 พันล้านบาท เนื่องจากปริมาณรับซื้อน้ำประปาขั้นต่ำเพิ่มขึ้นจากในส่วนของบริษัทฯ และบริษัทประปาปทุมธานี จำกัด อีก 100,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน ขณะเดียวกันภาระดอกเบี้ยจ่ายลดลงเนื่องจากบริษัทฯ ได้ชำระหุ้นกู้จำนวน 3 พันล้านบาท เมื่อปลายเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาทำให้บริษัทฯ สามารถลดภาระดอกเบี้ยได้ประมาณ 16 ล้านบาท/เดือน
อย่างไรก็ดี บริษัทฯ อยู่ระหว่างปรึกษาหารือกับการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอีก 1-1.2 แสนลูกบาศก์เมตร/วัน เป็น 4.4 แสนลูกบาศก์เมตร/วัน โดยคาดว่าจะสามารถสรุปได้ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 3.2 แสนลูกบาศก์เมตร/วัน แต่ได้ใช้กำลังการผลิต 3 แสนลูกบาศก์เมตร/วัน ทำให้เหลือกำลังการผลิตเพียง 2 หมื่นลูกบาศก์เมตร/วัน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบให้ปริมาณการใช้น้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการขณะที่บริษัทประปาปทุมธานีมีกำลังการผลิตที่ 3.88 แสนลูกบาศก์เมตร/วัน รวมกำลังการผลิตของบริษัทและบริษัทย่อยเป็น 7.08 แสนลูกบาศก์เมตร/วันทั้งนี้ คาดว่าจะใช้งบลงทุนในโครงการดังกล่าวประมาณ 1.3-1.4 พันล้านบาท โดยเงินดังกล่าวจะนำมาจากการกู้เงินบางส่วนและกระแสเงินสดของบริษัทฯ ซึ่งปัจจุบันมีเงินทุนหมุนเวียนอยู่ที่ 1.4 พันล้านบาทนอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างเจรจากับสถาบันการเงิน เนื่องจากมีหนี้กู้ยืมระยะยาวจำนวน 10,040 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้ของ TTW ประมาณ 6.5 พันล้านบาท และหนี้ของบริษัท ประปาปทุมธานี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัมย่อย ประมาณ 3.5 พันล้านบาท เพื่อขอยืดระยะเวลาในการชำระหนี้และลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ดังกล่าว ซึ่งปัจจุบัน TTW มีอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ MLR-1 ขณะที่บริษัทประปาปทุมธานี มีอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ MLR-0.5 ซึ่งคาดว่าจะสามารถได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 3 ปีนี้ทั้งนี้ในปีนี้คาดว่าบริษัทมีภาระจ่ายดอกเบี้ย 5-6 ล้านบาท ซึ่ง TTW มีเจ้าหนี้หลัก 3 ราย ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารทหารไทย ส่วน PTW มีเจ้าหนี้ 2 ราย แบ่งเป็นธนาคารกรุงไทยและธนาคารทหารไทย อย่างไรก็ตาม หากผลการเจรจาไม่เป็นที่พอใจของบริษัทฯ หรือเจ้าหนี้ไม่อนุมัติ บริษัทฯก็มีแผนในการออกหุ้นกู้ ซึ่งเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่ง โดยปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้อยู่ที่ประมาณ 5%'มีโอกาสเป็นไปได้ทั้ง 2 ทาง แต่อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับต้นทุนประเภทไหที่ถูกที่สุดบริษัทฯ ก็จะเลือกทางนั้น' นายสมโพธิ์ กล่าว
นอกจากนี้ ในช่วงเดือนม.ค. 52 บริษัท ประปาปทุมธานี จำกัด หรือ PTW ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เตรียมจะปรับราคาค่าน้ำประปาขึ้นอีก 9.2% เป็น 11.48 บาท/ ลบ.ม.จากปัจจุบันที่มีราคาอยู่ที่ 10.52 บาท/ ลบ.ม. โดยเป็นการปรับราคาเพิ่มขึ้นตามดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนก.ค.ซึ่งอยู่ที่ 9.2%อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ TTW จะพิจารณาปรับอัตราค่าน้ำตามดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนธ.ค. ซึ่งปัจจุบัน TTW มีอัตราค่าน้ำอยู่ที่ 22.75 บาท/ ลบ.ม. ส่วนผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 874.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 509.39 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรอยู่ที่ 310.09 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.09 บาท เพิ่มขึ้น 34.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรอยู่ที่ 229.92 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.07 บาท ทั้งนี้ในครึ่งปีแรกบริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,733.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 989.36 ล้านบาท มีกำไรรวม 615.61 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 และครึ่งปีแรกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการใช้น้ำประปาในภาคอุตสาหกรรมและครัวเรือนในพื้นที่จ่ายน้ำประปาทั้งในจังหวัดนครปฐม สมุทรสาคร และปทุมธานี เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการลดใช้น้ำบาดาลในท้องที่จ่ายน้ำของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ และบริษัทย่อยมียอดการจ่ายน้ำประปารวมในไตรมาส 2 อยู่ที่ 55.2 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมียอดจ่ายน้ำอยู่ที่ 22.6 ล้านลูกบาศก์เมตร (ไม่รวม PTW) ส่วนครึ่งปีแรกมียอดจ่ายน้ำรวม 109.2 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดจ่ายน้ำประปา 44.1 ล้านลูกบาศก์เมตร (ไม่รวม PTW)
วันนี้ (14 ส.ค.) นายสมโพธิ์ ศรีภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TTW เปิดเผยว่า บริษัทฯ มั่นใจว่ารายได้ในปี 2551 จะไม่ต่ำกว่า 3.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 3.2 พันล้านบาท เนื่องจากปริมาณรับซื้อน้ำประปาขั้นต่ำเพิ่มขึ้นจากในส่วนของบริษัทฯ และบริษัทประปาปทุมธานี จำกัด อีก 100,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน ขณะเดียวกันภาระดอกเบี้ยจ่ายลดลงเนื่องจากบริษัทฯ ได้ชำระหุ้นกู้จำนวน 3 พันล้านบาท เมื่อปลายเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาทำให้บริษัทฯ สามารถลดภาระดอกเบี้ยได้ประมาณ 16 ล้านบาท/เดือน
อย่างไรก็ดี บริษัทฯ อยู่ระหว่างปรึกษาหารือกับการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอีก 1-1.2 แสนลูกบาศก์เมตร/วัน เป็น 4.4 แสนลูกบาศก์เมตร/วัน โดยคาดว่าจะสามารถสรุปได้ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 3.2 แสนลูกบาศก์เมตร/วัน แต่ได้ใช้กำลังการผลิต 3 แสนลูกบาศก์เมตร/วัน ทำให้เหลือกำลังการผลิตเพียง 2 หมื่นลูกบาศก์เมตร/วัน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบให้ปริมาณการใช้น้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการขณะที่บริษัทประปาปทุมธานีมีกำลังการผลิตที่ 3.88 แสนลูกบาศก์เมตร/วัน รวมกำลังการผลิตของบริษัทและบริษัทย่อยเป็น 7.08 แสนลูกบาศก์เมตร/วันทั้งนี้ คาดว่าจะใช้งบลงทุนในโครงการดังกล่าวประมาณ 1.3-1.4 พันล้านบาท โดยเงินดังกล่าวจะนำมาจากการกู้เงินบางส่วนและกระแสเงินสดของบริษัทฯ ซึ่งปัจจุบันมีเงินทุนหมุนเวียนอยู่ที่ 1.4 พันล้านบาทนอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างเจรจากับสถาบันการเงิน เนื่องจากมีหนี้กู้ยืมระยะยาวจำนวน 10,040 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้ของ TTW ประมาณ 6.5 พันล้านบาท และหนี้ของบริษัท ประปาปทุมธานี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัมย่อย ประมาณ 3.5 พันล้านบาท เพื่อขอยืดระยะเวลาในการชำระหนี้และลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ดังกล่าว ซึ่งปัจจุบัน TTW มีอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ MLR-1 ขณะที่บริษัทประปาปทุมธานี มีอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ MLR-0.5 ซึ่งคาดว่าจะสามารถได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 3 ปีนี้ทั้งนี้ในปีนี้คาดว่าบริษัทมีภาระจ่ายดอกเบี้ย 5-6 ล้านบาท ซึ่ง TTW มีเจ้าหนี้หลัก 3 ราย ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารทหารไทย ส่วน PTW มีเจ้าหนี้ 2 ราย แบ่งเป็นธนาคารกรุงไทยและธนาคารทหารไทย อย่างไรก็ตาม หากผลการเจรจาไม่เป็นที่พอใจของบริษัทฯ หรือเจ้าหนี้ไม่อนุมัติ บริษัทฯก็มีแผนในการออกหุ้นกู้ ซึ่งเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่ง โดยปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้อยู่ที่ประมาณ 5%'มีโอกาสเป็นไปได้ทั้ง 2 ทาง แต่อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับต้นทุนประเภทไหที่ถูกที่สุดบริษัทฯ ก็จะเลือกทางนั้น' นายสมโพธิ์ กล่าว
นอกจากนี้ ในช่วงเดือนม.ค. 52 บริษัท ประปาปทุมธานี จำกัด หรือ PTW ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เตรียมจะปรับราคาค่าน้ำประปาขึ้นอีก 9.2% เป็น 11.48 บาท/ ลบ.ม.จากปัจจุบันที่มีราคาอยู่ที่ 10.52 บาท/ ลบ.ม. โดยเป็นการปรับราคาเพิ่มขึ้นตามดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนก.ค.ซึ่งอยู่ที่ 9.2%อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ TTW จะพิจารณาปรับอัตราค่าน้ำตามดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนธ.ค. ซึ่งปัจจุบัน TTW มีอัตราค่าน้ำอยู่ที่ 22.75 บาท/ ลบ.ม. ส่วนผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 874.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 509.39 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรอยู่ที่ 310.09 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.09 บาท เพิ่มขึ้น 34.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรอยู่ที่ 229.92 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.07 บาท ทั้งนี้ในครึ่งปีแรกบริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,733.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 989.36 ล้านบาท มีกำไรรวม 615.61 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 และครึ่งปีแรกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการใช้น้ำประปาในภาคอุตสาหกรรมและครัวเรือนในพื้นที่จ่ายน้ำประปาทั้งในจังหวัดนครปฐม สมุทรสาคร และปทุมธานี เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการลดใช้น้ำบาดาลในท้องที่จ่ายน้ำของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ และบริษัทย่อยมียอดการจ่ายน้ำประปารวมในไตรมาส 2 อยู่ที่ 55.2 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมียอดจ่ายน้ำอยู่ที่ 22.6 ล้านลูกบาศก์เมตร (ไม่รวม PTW) ส่วนครึ่งปีแรกมียอดจ่ายน้ำรวม 109.2 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดจ่ายน้ำประปา 44.1 ล้านลูกบาศก์เมตร (ไม่รวม PTW)
