xs
xsm
sm
md
lg

TUNTEX เจรจาผ่อนหนี้กว่า1หมื่นล้าน ชี้ไม่สามารถชำระตามกำหนดตั้งแต่ปี 50

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

TUNTEX เผยไม่จ่ายหนี้ตามกำหนดตั้งแต่ มิ.ย.ปี50ถึงปัจจุบัน ส่งผลให้ แบงก์คิดดอกเบี้ยผิดนัดชำระ 15% ส่งผลให้มียอดเงินต้น428,043,120 บาท และดอกเบี้ยค้างชำระ 606,150,103.15 บาท รวมทั้งสิ้นกว่า 10,034.19 ล้านบาท ขณะที่บริษัทฯ ได้ขอผ่อนผันต่อเจ้าหนี้กลุ่ม 1 เพื่อขอเลื่อนกำหนดการชำระหนี้ออกไปจนถึงสิ้นเดือนมิ.ย.นี้ และอยู่ระหว่างเจ้าหนี้พิจารณา

นายหลิน จุง สง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทุนเท็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ( TUNTEX ) ในฐานะผู้บริหารแผนของบริษัท ทุนเท็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แจ้งคืบหน้าการดำเนินงานตามแผนสำหรับช่วง 1 เม.ย.51 ถึง 15 มิ.ย.51 โดย ตามแผนฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ข้อ 5.2.1 (ฌ) ในวันทำการสุดท้ายของแต่ละเดือน บริษัทฯ ต้องชำระดอกเบี้ยให้แก่เจ้าหนี้กลุ่ม 1 เป็นรายเดือนในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี และชำระคืนเงินต้นรายหกเดือนตามสัดส่วนที่ระบุไว้ในแผนฯ โดยเริ่มชำระงวดแรกในวันทำการสุดท้ายของเดือนมิ.ย.50 แต่บริษัทฯ ไม่สามารถชำระทั้งดอกเบี้ยเงินกู้และต้นเงินกู้ในเวลาที่กำหนด ธนาคารจึงคิดดอกเบี้ยอัตราดอกเบี้ยผิดนัดอัตราร้อยละ 15 ทำให้บริษัทฯ มีภาระคงค้างชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยแก่ธนาคาร ณ วันที่ 31 พ.ค.51 ดังนี้

1. ยอดเงินต้นที่ถึงกำหนดชำระ ในวันทำการสุดท้ายของเดือน มิ.ย.50 และเดือนธ.ค.50 เป็นรายงวด ๆ ละ214,021,560 บาท รวมเงินต้นสองงวดที่ค้างชำระเป็นเงิน 428,043,120 บาท

2. ยอดดอกเบี้ยค้างชำระในอัตราปกติร้อยละ 7.50 ต่อปี ตั้งแต่ช่วงวันที่ 31 มี.ค.50 ถึงวันที่ 30 เม.ย.50 เป็น22,721,466.99 บาท และดอกเบี้ยผิดนัดชำระในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ตั้งแต่ช่วงวันที่ 1 พ.ค.50 ถึงวันที่ 31 พ.ค.51 เป็นเงิน 583,428,636.16 บาท รวมดอกเบี้ยคงค้างทั้งสิ้น 606,150,103.15 บาท

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้ขอผ่อนผันต่อเจ้าหนี้กลุ่ม 1 เพื่อขอเลื่อนกำหนดการชำระหนี้ดอกเบี้ยทั้งจำนวนและเงินต้นทั้งสองงวดที่ถึงกำหนดเวลาชำระออกไปจนถึงวันที่ 30 มิ.ย.51 ซึ่งเจ้าหนี้กลุ่ม 1 กำลังพิจารณาคำขอของบริษัทฯ อยู่

อนึ่ง ตามเงื่อนไขในสัญญาเงินกู้ระยะยาวกับเจ้าหนี้กลุ่ม 1 หากลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้คงค้างให้แก่เจ้าหนี้ เจ้าหนี้สามารถเรียกคืนหนี้ตามสัญญาเงินกู้ระยะยาวทั้งจำนวนจากลูกหนี้ทันที

สำหรับความคืบหน้าของคำร้องที่ขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการที่ผู้บริหารแผน ได้ยื่นต่อศาลฯ และศาลฯ นัดฟังคำสั่งในวันที่ 5 มิ.ย.51นั้น ศาลฯ ได้มีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนฯ ที่ผู้บริหารแผนได้ยื่นขอแก้ไขแผน ดังนั้นขั้นตอนต่อไปจึงเป็นหน้าที่ของผู้บริหารแผน (บริษัทฯ) และผู้ลงทุนรายใหม่ ตลอดจนเจ้าหนี้ที่เกี่ยวข้องและผูกพันในการให้สินเชื่อเพิ่มเติม ต้องจัดทำรายการต่างๆให้ครบถ้วนตามที่ระบุไว้ในแผนฯ

โดยบริษัทยกเลิกหุ้นกู้แปลงสภาพที่บริษัทออกให้เจ้าหนี้ตามแผน และลงนามกับคู่สัญญาทุกฝ่ายในสัญญาปรับหนี้กับเจ้าหนี้กลุ่ม 1 ซึ่งบริษัทฯ นักลงทุน และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินการลงนาม ในสัญญาซื้อขายหุ้น พร้อมทำการโอนหุ้นของบมจ. ทีพีที ปิโตรเคมิคอลล์ ที่บริษัทฯ ถืออยู่ให้แก่นักลงทุน เพื่อนำเงินที่ได้ไปชำระหนี้ของบริษัทฯ ให้แก่ธนาคารกรุงไทย และทำการหักกลบลบหนี้ทั้งหมดกับแบงก์ดังกล่าว รวมทั้งลงนามสัญญาจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท ขณะที่เข้าทำสัญญาจ้างผลิตระหว่างบริษัทและคู่สัญญา เพื่อจัดหาวัตถุดิบใช้ในการผลิตที่ระบุในแผน ตลอดจนการให้เจ้าหนี้กลุ่ม 1 และนักลงทุนรับการผ่อนผันจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)โดยไม่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ รวมทั้งลดก่อนเพิ่มทุนจดทะเบียน ตามที่ระบุในแผน

ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าวข้างต้นทั้งหมดจะต้องไม่เกิน 6 เดือน นับจากวันที่ศาลฯ มีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผน
กำลังโหลดความคิดเห็น