บลจ.พรีมาเวสท์เข็นกองบอนด์นิวซีแลนด์ 3 เดือนจับลูกค้าเล่นสั้น ชูผลตอบแทน 5.50% ต่อปี พร้อมเปิดช่องความเสี่ยงค่าเงินขาเดียว หลังพบแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนกว่าดอลลาร์นิวซีแลนด์ หวังเพิ่มยิลด์ให้นักลงทุน พร้อมเล็งส่งกองทุนลักษณะนี้เพิ่มอีก หากนักลงทุนให้การตอบรับ
นายเพิ่มพล ประเสริฐล้ำ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) พรีมาเวสท์ เปิดเผยว่า บริษัทจะทำการเปิดจองซื้อหน่วยลงทุนกองทุนเปิดพรีมาเวสท์ โกลบอล บอนด์(PGB) ในระหว่างวันที่ 23-29 เมษายน 2551บริษัท ซึ่ง มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 3 เดือน และลงทุนขึ้นต่ำ 50,000 บาท
สำหรับกองทุนเปิดพรีมาเวสท์ โกลบอล บอนด์ เป็นกองทุนตราสารหนี้ภาครัฐต่างประเทศ ที่เน้นลงทุนในพันธบัตรที่ออกโดยรัฐบาลนิวซีแลนด์ อายุประมาณ 3 เดือน โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เข้าไปลงทุนจะสูงถึง 6-7% ต่อปี ทำให้ประมาณการอัตรารับซื้อคืนหลังหักค่าใช้จ่ายนักลงทุนจะได้รับประมาณ 5.50% ต่อปีในรูปสกุลเงินนิวซีแลนด์ดอลลาร์
“กองทุนนี้เหมาะสมกับนักลงทุนที่เริ่มลงทุนในกองทุนต่างประเทศ เพราะกองทุนดังกล่าวลงทุนในพันธบัตรประเทศนิวซีแลนด์ จนครบอายุตราสารซึ่งมีระยะเวลาเพียง 3 เดือน ทำให้ความเสี่ยงของการผิดนัดชำระหนี้มีไม่มาก”นายเพิ่มพลกล่าว
นายเพิ่มพล กล่าวอีกว่า การลงทุนของกองทุนนี้ไม่สามารถใช้อัตราแลกเปลี่ยนโดยตรงจากเงินบาทเป็นดอลาร์นิวซีแลนด์ได้ เนื่องจากพันธบัตรที่บริษัทจะเข้าไปลงทุนจะตั้งราคาซื้อ-ขายเป็นดอลาร์สหรัฐ ทำให้ต้องมีเงินดอลลาร์สหรัฐในการเป็นตัวกลางก่อนการเข้าลงทุน และหลังจากได้รับผลตอบแทนกลับมา ซึ่งจะทำให้นักลงทุนยังคงต้องเผชิญความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
อย่างไรก็ตาม บริษัทจะป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของสกุลเงินบาท เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ด้วยการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า แต่จะมีการเปิดช่องความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินนิวซีแลนด์ดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาเอาไว้ เนื่องจากเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยที่มีผลต่อผลตอบแทนของนักลงทุนหลังจากที่แปลงผลตอบแทนจากสกุลเงินนิวซีแลนด์เป็นสกุลเงินบาทได้
“เราบอกนักลงทุนว่าจะมีความเสี่ยงเรื่องนี้ แต่เราจะป้องกันเอาไว้ในส่วนของเงินบาทกับดอลลาร์เท่านั้น แต่ในส่วนที่เป็นดอลลาร์นิวซีแลนด์ มาเป็นดอลลาร์สหรัฐเราจะไม่ทำ เนื่องจากเราคาดว่าในช่วง 3 เดือนนี้ค่าเงินทั้ง 2 สกุลนี้คงไม่แกว่งมากนัก และแนวโน้มฝั่งนิวซีแลนด์น่าจะแข็งกว่า ในส่วนของขานี้คงจะเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุน”นายเพิ่มพลกล่าว
นายเพิ่มพล กล่าวอีกว่า สาเหตุที่เปิดช่องความเสี่ยงในส่วนของดอลลาร์สหรัฐ และนิวซีแลนด์เอาไว้ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงของสหรัฐที่อยู่ประมาณ 2.25%ม25% ต่อปี ซึ่งต่ำกว่าดอกเบี้ยอ้างอิงของประเทศนิวซีแลนด์ซึ่งอยู่ที่ประมาณอัตรา 8.25% ต่อปี จะส่งผลให้เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุนเข้าไปแสวงหาผลตอบแทนที่สูงของประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งโดยปกติแล้วจะทำให้ค่าเงินนิวซีแลนด์เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น
สำหรับตัวเลขสถิติของเงินสกุลนิวซีแลน์เมื่อเทียบกับเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐอเมริกาพบว่าโดยเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปีเงินสกุลนิวซีแลนดืแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีแต่เพียงปี 2548 ที่เงินสกุลนิวซีแลนด์มีค่าอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐอเมริกา 4%
ทั้งนี้ เชื่อว่ากองทุนดังกล่าวเหมาะจะเป็นก้าวเริ่มต้นที่ดีของนักลงทุนที่คุ้นเคยกับการลงทุนต่างประเทศอยู่แล้ว และนักลงทุนที่สนใจจะเข้ามาลงทุนในกองทุนต่างประเทศ เพราะอาจจะคงเพียงความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินนิวซีแลนด์เทียบเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาเท่านั้น
นายเพิ่มพล กล่าวอีกว่า การออกกองทุนของบริษัทในช่วงไตรมาส 2 ต่อจากนี้คงจะเป็นในลักษณะเดียวกับกองนี้ แต่จะต้องดูผลตอบรับจากลูกค้าในกองนี้ก่อนว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งนอกจากประเทศนิวซีแลนด์แล้วบริษัทจะพิจารณาประเทศอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย โดยเชื่อว่ากองนี้น่าจะได้รับความสนใจ เนื่องจากการลงทุนระยะสั้นจะมีความเสี่ยงต่ำ นอกจากนี้กองทุนต่างประเทศในรูปแบบอื่นบริษัทได้นำออกเสนอต่อลูกค้าเป็นจำนวนมากแล้ว และกองความเสี่ยงต่ำแบบนี้น่าจะทางเลือกให้นักลงทุนได้
สำหรับกองทุนต่างประเทศของบริษัทส่วนใหญ่ที่เคยออกนั้น จะเป็นกองเปิดทำให้สินทรัพย์รวมภายใต้การบริหารไม่ได้รับผลกระทบจากการปิดกองในปีนี้
