บลจ.บีที ปลื้มยอดระดมทุนเอฟไอเอฟตราสารหนี้ออสเตรเลีย 12/1 โต 740 ล้านบาท ผู้บริหารระบุทะลุเป้า พร้อมเตรียมเข็นกอง 2 ตราสารหนี้ 12/2 ออกขายต่อปลายเดือนเมษายน เหตุนักลงทุนเข้าใจในเรื่องค่าเงินออสเตรเลียมากขึ้น ขณะเดียวกันเตรียมออกกองใหม่ ลงทุนในพันธบัตรเกาหลี เปิดขายต้นเดือน เม.ย เช่นกัน
นาย อนุสรณ์ บูรณกานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บีที จำกัด กล่าวว่า หลังจากปิดขายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดบีที เอฟไอเอฟ ตราสารหนี้ 12/1 ไปเมื่อวันที่ 11-21 มีนาคม 2551 ที่ผ่านมาปรากฎว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุนที่เข้ามาซื้อหน่วยลงทุนเป็นจำนวนมาก โดยมีมูลค่าการซื้อกว่า 740 ล้านบาท มากกว่าเป้าที่ตั้งไว้มาก ซึ่งบริษัทพอใจมากกับผลของการขายกองทุนในครั้งนี้ โดยเชื่อว่าสาเดหตุที่สามารถปิดยอดขายได้สูงจะมาจากการที่นักลงทุนมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของอัตราค่าเงินสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียมากขึ้น
สำหรับนักลงทุนที่ซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดบีที เอฟไอเอฟ ตราสารหนี้ 12/1 นั้น ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนของ บลจ. บีทีและลูกค้าในธนบดีธนกิจของธนาคารไทยธนาคารนั่นเอง ขณะที่ ด้านผลตอบแทนของกองทุนนั้นบริษัทจะพยายามทำให้ถึงในระดับ 5.75-6% ตามที่ได้เคยระบุไว้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจทั้งของประเทศไทยและของประเทศออเตรเลียในขณะนั้น ด้วย
นาย อนุสรณ์ กล่าวอีกว่า หลังจากที่กองทุนเปิดบีที เอฟไอเอฟ ตราสาหนี้ 12/1 ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมากทำให้ ดังนั้นบริษํทจึงมีแผนที่จะออกกองทุนเปิดบีที เอฟไอเอฟ ตราสาหนี้ 12/2 เพิ่มเติมขึ้นมาอีกในอนาคต เพื่อตอบรับกับความต้องการของผู้ลงทุน เพราะปัจจุบันนี้ นักลงทุนมีความรู้ในเรื่องเศรษฐกิจของประเทศออสเตรเลียเป็นอย่างดี ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าโครงการประมาณ 500-1,000 ล้านบาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างกำลังดูช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะเปิดขายหน่วยลงทุนของกองทุนใหม่และ คาดว่าน่าจะเป็นช่วงประมาณ ช่วงปลายเดือนเมษายนถึง เดือนพฤษภาคม 2551
ส่วนแนวโน้มการลงทุนของกองทุนเปิดบีที เอฟไอเอฟ ตราสาหนี้ 12/1 และ กองทุนเปิดบีที เอฟไอเอฟ ตราสาหนี้ 12/2 นั้น กรรมการผู้จัดการ บลจ.บีที กล่าวว่า นโยบายต่างๆของรัฐบาลไทยที่ประกาศดำเนินการไปนั้นเช่น โครงการเมกะโปรเจกต์ จะทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง และทำให้ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อการลงทุนผ่านกองทุนดังกล่าว ขณะที่ในด้านผลตอบแทนของกองทุนนั้นจะพยายามทำให้ถึงระดับ 5.75-6% ด้วยเช่นเกัน
ทั้งนี้กองทุนเปิดบีที เอฟไอเอฟ ตราสาหนี้ 12/1 เป็นประเภทกองทุนตราสารหนี้ที่ลงทุนในต่างประเทศ (FIF) ที่มีการกระจายการลงทุนน้อนกว่าเกณฑ์ มีมูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท มีอายุโครการประมาณ 12 เดือนซึ่งมีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ อยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (investment grade) โดยสถาบันจัดอันดับความน่าเชื้อถือที่ได้รับการยอมรับจากสำนักงาน เพื่อเป็นทรัพย์สินของกองทุนรวม มีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้สกุลดอลลาร์ออสเตรเลีย และผู้ออกตราสารหนี้มีอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ตั้งแต่ AA ขึ้นไป อายุ 1 ปี คาดว่าจะสามารถให้ผลตอบแทนประมาณ 5.75 – 6.00%
นอกจากนี้ นาย อนุสรณ์ ได้กล่าวอีกว่า บลจ.บีที เตรียมที่จะออกกองทุนใหม่ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้ และมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยคาดว่าจะมีผลตอบแทนขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณ 3.6% ซึ่งจะทำการเปิดขายหน่วยลงทุนในช่วงต้นเดือนเมษายนที่จะถึงนี้เช่นกัน