TUNTEX เผยบีคอนลงบันทึกแสดงเจตจำนงจะเข้าลงทุนในบริษัท หลังลดทุนและปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่โดยให้เจ้าหนี้รายใหญ่แปลงหนี้เป็นทุนอีกส่วน เพื่อลดภาระหนี้ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและเพิ่มความแข็งแกร่งทางการเงิน พร้อมเปลี่ยนการผลิตใหม่ด้วยเงินทุนประมาณ 650 ล้านบาท ให้สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีตลาดรองรับในรูปแบบของการรับจ้างผลิต ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการพิจารณาซึ่งศาลฯ นัดฟังคำสั่ง 5 มิ.ย.51 นี้
นายหลิน จุง สง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทุนเท็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ( TUNTEX ) ในฐานะผู้บริหารแผนของTUNTEX แจ้งความคืบหน้าการฟื้นฟูกิจการ ช่วง 1 ม.ค.51 ถึง 31 มี.ค.51 โดย ตามแผนฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ข้อ 5.2.1 (ฌ) ในวันทำการสุดท้ายของแต่ละเดือน บริษัทฯ ต้องชำระดอกเบี้ยให้แก่เจ้าหนี้กลุ่ม 1 เป็นรายเดือน 7.5% ต่อปี และชำระคืนเงินต้นรายหกเดือนตามสัดส่วนที่ระบุไว้ในแผนฯ โดยเริ่มชำระงวดแรกในวันทำการสุดท้ายของเดือนมิ.ย.50
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ไม่สามารถชำระดอกเบี้ยเงินกู้และต้นเงินกู้ดังกล่าวภายในเวลาที่กำหนด ดังนั้น ธนาคารจึงได้คิดดอกเบี้ยในอัตราดอกเบี้ยผิดนัด 15% ทำให้บริษัทฯ มีภาระคงค้างชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยแก่ธนาคาร ณ 31 มี.ค. 51 ดังนี้
1.ยอดเงินต้นที่ถึงกำหนดชำระในวันทำการสุดท้ายของเดือน มิย.50 และเดือนธ.ค.50 เป็นงวด ๆ ละ 214,021,560 บาท รวมเงินต้นสองงวดที่ค้างชำระเป็นเงิน 428,043,120 บาท
2.ยอดดอกเบี้ยค้างชำระในอัตราปกติ 7.50 % ต่อปี ตั้งแต่ช่วง 31 มี.ค.50 ถึง 30 เม.ย.50 เป็นเงิน 22,721,466.99 บาท และดอกเบี้ยผิดนัดชำระ 15% ต่อปี ตั้งแต่ช่วง 1 พ.ค.50 ถึง 31 มี.ค.51 เป็นเงิน 494,008,669.31 บาท รวมดอกเบี้ยคงค้างทั้งสิ้น 516,730,136.30 บาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้ขอผ่อนผันต่อเจ้าหนี้กลุ่ม 1 เพื่อขอเลื่อนกำหนดการชำระหนี้ดอกเบี้ยทั้งจำนวนและเงินต้นทั้งสองงวดที่ถึงกำหนดเวลาชำระออกไปจนถึง 30 มิ.ย.51 ซึ่งเจ้าหนี้กลุ่ม 1 กำลังพิจารณาคำขอของบริษัทฯ อยู่
สำหรับ ความคืบหน้าของผู้ลงทุนใหม่ บริษัทฯ ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับบริษัท บีคอน โกลบอล จำกัด (บีคอน) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือกลุ่มอินโดรามา เมื่อ 20 ธ.ค.50 ในบันทึกความเข้าใจบีคอนได้แสดงเจตจำนงจะเข้าลงทุนใน TUNTEX หลังจากที่มีการลดทุนและปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่โดยให้เจ้าหนี้รายใหญ่แปลงหนี้เป็นทุนอีกส่วนหนึ่งเพื่อลดภาระหนี้ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและเพิ่มความแข็งแกร่งทางการเงินให้แก่ทุนเท็กซ์
นอกจากนี้บีคอนได้เสนอขอเปลี่ยนโครงสร้างการผลิตใหม่ด้วยเงินทุน 650 ล้านบาท เพื่อให้ สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีตลาดรองรับในรูปแบบของการรับจ้างผลิตโดยผู้ว่าจ้างมีหน้าที่จัดหาวัตถุดิบหลักให้ อันจะทำให้มีรายได้ที่แน่นอนและลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาวัตถุดิบราคาน้ำมัน ซึ่งTUNTEX ต้องปรับโครงสร้างหนี้ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเพื่อสามารถดำรงธุรกิจต่อไปได้ในอนาคต
โดย บริษัทฯ ได้ร่วมกับที่ปรึกษาทางการเงินและทางกฎหมายได้ร่วมกันเสนอแผนฟื้นฟูกิจการฉบับแก้ไข และบริษัทฯ ได้ยื่นคำร้องขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางสำนักฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ และแผนที่เสนอแก้ไขได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมเจ้าหนี้เมื่อ 18 มี.ค.51 โดยมีเจ้าหนี้ให้การสนับสนุนด้วยคะแนนเสียง 97 %ขณะนี้อยู่ในระหว่างรอการพิจารณาซึ่งศาลฯ นัดฟังคำสั่ง 5 มิ.ย.51 นี้
นายหลิน จุง สง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทุนเท็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ( TUNTEX ) ในฐานะผู้บริหารแผนของTUNTEX แจ้งความคืบหน้าการฟื้นฟูกิจการ ช่วง 1 ม.ค.51 ถึง 31 มี.ค.51 โดย ตามแผนฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ข้อ 5.2.1 (ฌ) ในวันทำการสุดท้ายของแต่ละเดือน บริษัทฯ ต้องชำระดอกเบี้ยให้แก่เจ้าหนี้กลุ่ม 1 เป็นรายเดือน 7.5% ต่อปี และชำระคืนเงินต้นรายหกเดือนตามสัดส่วนที่ระบุไว้ในแผนฯ โดยเริ่มชำระงวดแรกในวันทำการสุดท้ายของเดือนมิ.ย.50
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ไม่สามารถชำระดอกเบี้ยเงินกู้และต้นเงินกู้ดังกล่าวภายในเวลาที่กำหนด ดังนั้น ธนาคารจึงได้คิดดอกเบี้ยในอัตราดอกเบี้ยผิดนัด 15% ทำให้บริษัทฯ มีภาระคงค้างชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยแก่ธนาคาร ณ 31 มี.ค. 51 ดังนี้
1.ยอดเงินต้นที่ถึงกำหนดชำระในวันทำการสุดท้ายของเดือน มิย.50 และเดือนธ.ค.50 เป็นงวด ๆ ละ 214,021,560 บาท รวมเงินต้นสองงวดที่ค้างชำระเป็นเงิน 428,043,120 บาท
2.ยอดดอกเบี้ยค้างชำระในอัตราปกติ 7.50 % ต่อปี ตั้งแต่ช่วง 31 มี.ค.50 ถึง 30 เม.ย.50 เป็นเงิน 22,721,466.99 บาท และดอกเบี้ยผิดนัดชำระ 15% ต่อปี ตั้งแต่ช่วง 1 พ.ค.50 ถึง 31 มี.ค.51 เป็นเงิน 494,008,669.31 บาท รวมดอกเบี้ยคงค้างทั้งสิ้น 516,730,136.30 บาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้ขอผ่อนผันต่อเจ้าหนี้กลุ่ม 1 เพื่อขอเลื่อนกำหนดการชำระหนี้ดอกเบี้ยทั้งจำนวนและเงินต้นทั้งสองงวดที่ถึงกำหนดเวลาชำระออกไปจนถึง 30 มิ.ย.51 ซึ่งเจ้าหนี้กลุ่ม 1 กำลังพิจารณาคำขอของบริษัทฯ อยู่
สำหรับ ความคืบหน้าของผู้ลงทุนใหม่ บริษัทฯ ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับบริษัท บีคอน โกลบอล จำกัด (บีคอน) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือกลุ่มอินโดรามา เมื่อ 20 ธ.ค.50 ในบันทึกความเข้าใจบีคอนได้แสดงเจตจำนงจะเข้าลงทุนใน TUNTEX หลังจากที่มีการลดทุนและปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่โดยให้เจ้าหนี้รายใหญ่แปลงหนี้เป็นทุนอีกส่วนหนึ่งเพื่อลดภาระหนี้ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและเพิ่มความแข็งแกร่งทางการเงินให้แก่ทุนเท็กซ์
นอกจากนี้บีคอนได้เสนอขอเปลี่ยนโครงสร้างการผลิตใหม่ด้วยเงินทุน 650 ล้านบาท เพื่อให้ สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีตลาดรองรับในรูปแบบของการรับจ้างผลิตโดยผู้ว่าจ้างมีหน้าที่จัดหาวัตถุดิบหลักให้ อันจะทำให้มีรายได้ที่แน่นอนและลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาวัตถุดิบราคาน้ำมัน ซึ่งTUNTEX ต้องปรับโครงสร้างหนี้ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเพื่อสามารถดำรงธุรกิจต่อไปได้ในอนาคต
โดย บริษัทฯ ได้ร่วมกับที่ปรึกษาทางการเงินและทางกฎหมายได้ร่วมกันเสนอแผนฟื้นฟูกิจการฉบับแก้ไข และบริษัทฯ ได้ยื่นคำร้องขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางสำนักฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ และแผนที่เสนอแก้ไขได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมเจ้าหนี้เมื่อ 18 มี.ค.51 โดยมีเจ้าหนี้ให้การสนับสนุนด้วยคะแนนเสียง 97 %ขณะนี้อยู่ในระหว่างรอการพิจารณาซึ่งศาลฯ นัดฟังคำสั่ง 5 มิ.ย.51 นี้
