xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรฯ ปล่อยกู้ซื้อเครื่องจักร หนุนธุรกิจปรับตัวรับต้นทุนพุ่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กสิกรไทยยันสินเชื่อไตรมาส 2 ยังขยับเพิ่มได้ มั่นใจยอดทั้งปีเพิ่มได้เป้า 10-15% แต่ยังห่วงราคาน้ำมันที่สูงอย่างต่อเนื่องส่งผลกระทบต่อต้นทุนลูกค้า แนะต้องปรับตัวเพื่อลดต้นทุน พร้อมออกสินเชื่อใหม่ K-SME Machine Credit ปล่อยกู้ให้เอสเอ็มอีนำไปพัฒนา-ปรับปรุงเครื่องจักรเดิมหรือการติดตั้งเครื่องจักรใหม่ ตั้งเป้าปล่อยกู้ 5 พันล้านบาท

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยว่า แนวโน้มการปล่อยสินเชื่อไตรมาส 2 ปีนี้ ของธนาคารยังขยายตัวต่อไปได้ และคาดว่าถึงสิ้นปีสินเชื่อจะขยายตัวตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10-15% ซึ่งมองว่าปีนี้หากไม่รวมอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น จีดีพีก็น่าจะขยายตัวได้ 5% และธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ก็น่าจะยังขยายตัวได้ โดยในส่วนของธนาคารกสิกรไทยก็น่าจะเติบโตได้มากกว่าค่าเฉลี่ยของระบบ

ขณะที่สัดส่วนของสินเชื่อต่อเงินฝากของธนาคาร ในไตรมาส 2 เริ่มมีสัญญาณเพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกที่ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 90% เนื่องจากในไตรมาสแรกมีเงินฝากก้อนใหญ่เข้ามา

อย่างไรก็ตาม จากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นได้ส่งผลกระทบให้ต้นทุนการผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นตาม และส่งผลให้กำไรของผู้ประกอบการลดลง เนื่องจากบางธุรกิจไม่สามารถผลักภาระไปยังราคาสินค้าได้จากการแข่งขันในธุรกิจที่มีมาก ซึ่งปัจจัยนี้ถือว่ามีความน่าเป็นห่วงในระยะยาว และลูกค้าจะต้องมีการปรับปรุงประสิทธิภาพในการลดต้นทุน โดยอาจจะต้องมีการเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มากขึ้น

"แม้ว่าธุรกิจต่างๆจะได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น แต่ปัจจุบันธนาคารยังไม่พบว่ามีลูกค้าที่เริ่มมีปัญหา และมาขอเจรจาในการชำระหนี้มากขึ้น แต่ภาวะต้นทุนที่เพิ่มขึ้นก็ยังจะเป็นปัจจัยเสี่ยงทางธุรกิจของลูกค้าอยู่"นายประสารกล่าว

สำหรับแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยนั้น ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในครั้งต่อไปนั้น กนง.คงจะตัดสินใจได้ลำบากขึ้น เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ทำให้ไม่สามารถลดอัตราดอกเบี้ยลงได้ แต่หากมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยก็จะเป็นการเพิ่มภาระให้กับผู้ประกอบการในช่วงนี้ ซึ่งจะต้องติดตามดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

"มองว่าในปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยจะไม่ปรับลดลงอีกแล้ว ส่วนธนาคารพาณิชย์นั้นจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ก็ต้องดูความสามารถในการชำระดอกเบี้ยของลูกค้าว่าจะได้รับผลกระทบหรือไม่ เพราะถ้าหากลูกค้าไม่สามารถรับได้ก็จะส่งผลให้ มีหนี้เอ็นพีแอลเพิ่มขึ้น"นายประสารกล่าว

อย่างไรก็ดี ในปีนี้แม้ภาพรวมของลูกค้าธนาคารจะมีการแข่งขันธุรกิจภายใต้ต้นทุนที่สูงขึ้นแต่ธนาคารเชื่อว่าจะสามารถรักษาส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ให้อยู่ระดับประมาณ 4% ได้ โดยทางสายธุรกิจของธนาคารจะไม่ใช้วิธีการตัดราคาแข่งกับธนาคารอื่นรวมถึงเงินฝากก็จะไม่มีการแข่งขันในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากนัก นอกจากนี้ สัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากของธนาคารในไตรมาส 2 ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 จึงเชื่อว่าจะยังไม่มีผลกระทบกับธนาคาร

นอกจากนี้ ล่าสุดธนาคารและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) ได้ร่วมให้ความช่วยเหลือแก่เอสเอ็มอีในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยได้เปิดโครงการสินเชื่อเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตกสิกรไทย (K-SME Machine Credit) เพื่อให้การสนับสนุนด้านการเงินแก่เอสเอ็มอีนำไปพัฒนาเครื่องจักร การปรับปรุงเครื่องจักรเดิมหรือการติดตั้งเครื่องจักร

โครงการดังกล่าว จะให้การสนับสนุนสินเชื่อสำหรับเอสเอ็มอีรายละ 5-50 ล้านบาท อัตรา ดอกเบี้ยต่ำระหว่าง MLR-2.25% ถึง MLR+1% โดยสามารถกู้ได้สูงสุด 100% ของราคาประเมิน สำหรับการขอสินเชื่อที่มีระยะเวลาการผ่อนชำระไม่เกิน 3 ปี และกู้ได้สูงสุด 80% ของราคาประเมิน สำหรับสินเชื่อที่มีระยะเวลาการผ่อนชำระมากกว่า 3 ปี แต่ไม่เกิน 5 ปี โดยสามารถนำเครื่องจักรที่ตั้งอยู่บนที่ดินและ สิ่งปลูกสร้างที่เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้กู้มาใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้

สำหรับเอสเอ็มอีที่จะขอสินเชื่อเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตกสิกรไทย จะต้องเป็นผู้ประกอบการขนาดกลางที่มียอดขายไม่ต่ำกว่า 50ล้านบาทต่อปี หรือเป็นธุรกิจที่มีสินทรัพย์ถาวรสุทธิไม่เกิน 200 ล้านบาท หรือมีแรงงานไม่เกิน 200 คน โดยธนาคารคาดว่าจะสามารถปล่อยกู้ให้ผู้ประกอบการที่สนใจได้ประมาณ 5,000 ล้านบาท คาดว่าจะมีผู้ประกอบการได้รับการสนับสนับสนุนทางการเงินจากโครงการนี้ประมาณ 220-250 ราย
กำลังโหลดความคิดเห็น