xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรฯ คาดครึ่งปีหลัง ดบ.ขาลง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แบงก์กสิกรไทยคาด กนง.คงอัตราดอกเบี้ย ให้น้ำหนักดูแลเงินเฟ้อเป็นหลัก ส่วนทั้งปีคาดจะลดลงประมาณ 0.50-0.75% ทำให้ดอกเบี้ยแบงก์ครึ่งปีหลังเป็นขาลง มองตลาดตราสารหนี้ไทยยังขยายตัวต่อเนื่อง ตั้งเป้าครองแชมป์อันดับ 1 ในการทำหน้าที่เป็นผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้ พร้อมเดินหน้ารุกสินเชื่อบ้านออกดอกเบี้ยใหม่คิด 1% ใน 3 เดือนแรก หลังจากนั้นมีให้เลือก 6 แบบ เผยกดดอกเบี้ยต่ำกว่าเดิม 0.50-0.99% หวังลดภาระการผ่อนชำระของลูกค้า คาดทั้งปีปล่อยกู้ทะลุเป้า 30,000 ล้านบาท หลัง 2 เดือนปล่อยไปแล้ว 4,500 ล้าน

นายธิติ ตันติกุลานันท์ ผู้บริหารธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในวันที่ 9 เม.ย. นี้น่าจะพิจารณาคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิม เนื่องจากมองว่า ธปท. น่าจะให้น้ำหนักในเรื่องของอัตราเงินเฟ้อซึ่งมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น ส่วนทั้งปีคาดว่า ธปท.อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงประมาณ 0.50-0.75% ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ลดลงด้วยในช่วงครึ่งปีหลัง

ทั้งนี้ จากการยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% นั้นได้ส่งผลให้มีการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติกลับมา โดยเห็นได้จากการเพิ่มขึ้นของตราสารหนี้ไทยที่ถือครองโดยผู้ไม่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณ 34% หรือจาก 50,748 ล้านบาท ในวันที่ 22 ก.พ. 2551 เป็น 67,987 ล้านบาท ในวันที่ 21 มี.ค. 2551 โดยเป็นการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นเป็นส่วนใหญ่

สำหรับภาพรวมของตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนไทยนั้นได้มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา โดยมูลค่าคงค้างของหุ้นกู้ภาคเอกชนและตราสารหนี้ระยะสั้นภาคเอกชน ขยายตัวจาก 1.88 แสนล้านบาท ในปี 2540 เป็น 1.07 ล้านล้านบาท ในปี 2550 ทั้งนี้คาดว่าในปีนี้จะมียอดการออกหุ้นกู้จากภาคเอกชนอยู่ที่ 1.7 แสนล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 1.89 ล้านบาท ส่วนการออกพันธบัตรรัฐบาลนั้นในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 2.6-3 แสนล้านบาท ขึ้นอยู่กับการตั้งงบประมาณขาดดุล ส่วนในปีหน้าเป็นที่จะต้องติดตามในการออกพันธบัตรรัฐบาลนั้นคือการตั้งงบประมาณขาดดุลว่าจะเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ธนาคารตั้งเป้าหมายว่าจะรักษาส่วนแบ่งทางการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ในการรับเป็นจัดจำหน่ายหุ้นกู้อันดับ 1 ต่อไป โดยปัจจุบันมีมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 18.56% และปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 17-20% โดยเป็นมูลค่าหุ้นกู้ประมาณ 33,000-38,000 ล้านบาท

**หั่นดอกเบี้ยกู้บ้าน0.50-0.99%**

ด้านนายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารได้ลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านกสิกรไทยลงเพื่อลดภาระในการผ่อนชำระของลูกค้าที่กู้ตั้งแต่เดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป โดยจะคิดอัตราดอกเบี้ย 1% ใน 3 เดือนแรก หลังจากนั้นลูกค้าสามารถเลือกอัตราดอกเบี้ยคงที่และลอยตัวได้ 6 รูปแบบใหม่ คือ

แบบที่ 1 เดือนที่ 4-12 คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.50% แบบที่ 2 เดือนที่ 4-24 คิดอัตราดอกเบี้ย คงที่ 5.25% แบบที่ 3 เดือนที่ 4-36 คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.75% แบบที่ 4 เดือนที่ 4-12 คิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัว MLR ลบ 3.25% แบบที่ 5 เดือนที่ 4-24 คิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัว MLR ลบ 1.25% และแบบที่ 6 เดือนที่ 4-36 คิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัว MLR ลบ 1.0%

ทั้งนี้ หลังจากระยะเวลาที่กำหนดจะคิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัวที่ MLR จนครบสัญญา ซึ่งปัจจุบัน MLR ของธนาคารเท่ากับ 6.85% โดยลูกค้าสามารถผ่อนชำระได้นานที่สุด 30 ปี วงเงินกู้สูงสุด 80% ของราคาซื้อขาย แต่ไม่เกิน 80% ของราคาประเมินหลักประกัน

"ปัจจุบันค่าครองชีพของประชาชนสูงขึ้น ทั้งจากราคาสินค้า ราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น ในขณะที่ราคาที่อยู่อาศัยก็ปรับตัวตามต้นทุนค่าก่อสร้างที่สูงขึ้นด้วย ดังนั้น ธนาคารกสิกรไทยจึงลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านกสิกรไทยลง 0.50-0.99% เพื่อช่วยลดภาระการผ่อนชำระของลูกค้าที่ขอกู้ตั้งแต่เดือนเมษายนนี้ลงทันที"นายชาติชายกล่าว

นอกจากนั้น การที่รัฐบาลมีนโยบายด้านภาษี ทั้งเพิ่มค่าลดหย่อนภาษีเงินได้สำหรับผู้ผ่อนชำระที่อยู่อาศัยจาก 50,000 บาท เป็น 100,000 บาท ลดค่าจดทะเบียนการโอนและค่าจดทะเบียนจำนองอสังหาริมทรัพย์เหลือ 0.01% และลดภาษีธุรกิจเฉพาะเหลือ 0.11% น่าจะช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์และการขยายตัวของสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยได้ ซึ่งทำให้ธนาคารสามารถปล่อยกู้สินเชื่อบ้านกสิกรไทย ได้ตามเป้าหมายทั้งปีที่ 30,000 ล้านบาท หลังจากช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ธนาคารสามารถปล่อยกู้ไปได้แล้ว 4,500 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น