xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรไทยชี้ตลาดหุ้น-ค่าบาทสัปดาห์หน้าลุ้นผลประชุม กนง.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเผยหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมาพุ่งสูงสุดในรอบ 6 เดือน ส่วนค่าเงินบาทกลับอ่อนค่าสุดรอบเกือบ 3 เดือน มองว่าผลการประชุม กนง.ยังเป็นปัจจัยหลักต่อหุ้นไทยและค่าเงินบาท

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 870.33 จุด พุ่งขึ้น 2.79%จาก 846.71 จุดในสัปดาห์ก่อน และ 1.43% จากสิ้นปี 2550 ขณะที่มูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสัปดาห์เพิ่มขึ้น 12.91% จาก 91,285.71 ล้านบาทในสัปดาห์ก่อนหน้ามาอยู่ที่ 103,079.62 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่ลดจาก 22,821.43 ล้านบาทในสัปดาห์ก่อนมาอยู่ที่ 20,615.92 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ปิดที่ 286.30 จุด ขยับลง 2.3% จาก 293.12 จุดในสัปดาห์ก่อน แต่เพิ่มขึ้น 5.1% จากสิ้นปีก่อน

โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 2,513.59 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันขายสุทธิที่ 2,219.92 ล้านบาท และ 293.58 ตามลำดับ

สำหรับแนวโน้มในสัปดาห์หน้า (20-23 พ.ค.) ตลาดหุ้นไทยจะปิดทำการในวันจันทร์ โดยบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยและบริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ดัชนีมีแนวโน้มแกว่งขึ้นได้ต่อแต่กรอบการปรับตัวอาจจะชะลอลงจากสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ นักลงทุนคงจับตามองการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทยในวันพุธ (21 พ.ค.) และการประกาศตัวเลขดุลการค้าเดือน เม.ย.ของกระทรวงพาณิชย์
ส่วนปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญในสัปดาห์หน้า ได้แก่ ทิศทางของราคาน้ำมันในตลาดโลกซึ่งราคาน้ำมันในระดับสูง และแนวโน้มที่ราคาสินค้าต่างๆ อาจจะปรับขึ้นได้ต่อในระยะต่อไป จะเป็นการสร้างแรงกดดันต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค ขณะที่การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือน เม.ย.ในวันอังคาร รายงานการประชุมของเฟดเมื่อเดือน เม.ย.และสตอกน้ำมันรายสัปดาห์ในวันพุธ ตลอดจน ตัวเลขยอดขายบ้านมือสองประจำเดือนเม.ย.ในวันศุกร์ เป็นต้น ทางบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยคาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 857 จุด และแนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 881 และ 918 จุด ตามลำดับ

ขณะที่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (12-16 พ.ค.) เงินบาทในประเทศ (Onshore) อ่อนค่าหลุดแนวรับสำคัญทางจิตวิทยาที่ระดับ 32.00 และ 32.30 ลงแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 3 เดือนใกล้ 32.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ โดยถูกกดดันจากแรงซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐ ของผู้นำเข้า (โดยเฉพาะผู้นำเข้าน้ำมัน) และนักลงทุนในตลาด offshore นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทในระหว่างสัปดาห์ยังเป็นไปตามทิศทางการอ่อนค่าลงของสกุลเงินในภูมิภาค อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม เงินบาทสามารถดีดตัวกลับมาแข็งค่าขึ้นได้ในช่วงปลายสัปดาห์ โดยได้รับแรงหนุนจากแรงขายเงินดอลลาร์สหรัฐ เพื่อทำกำไรของนักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนในตลาด Offshore สำหรับในวันศุกร์ เงินบาทแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องมายืนที่ระดับประมาณ 32.26 (ตลาดเอเชีย) เทียบกับระดับ 31.94 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (9 พ.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยทางเทคนิคและการฟื้นตัวของสกุลเงินในภูมิภาค

ในสัปดาห์นี้ (20-23 พ.ค.) ธนาคารพาณิชย์จะมีการปิดสำรองสภาพคล่องรายปักษ์ในวันอังคารและเข้าสู่ปักษ์ใหม่ในวันพุธ ขณะที่ตลาดคงจะจับตาการประชุมนโยบายอัตราดอกเบี้ยของทางการไทยในวันที่ 21 พ.ค.นี้ ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) น่าจะมีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม ดังนั้น อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในตลาดเงินจึงน่าจะยังทรงตัวต่อเนื่อง

ส่วนเงินบาทในประเทศอาจมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 32.10 - 32.35 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ โดยปัจจัยที่ควรจับตา ได้แก่ แรงซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐของผู้นำเข้า และแรงขายเงินดอลลาร์สหรัฐของผู้ส่งออก ตลอดจนความต่อเนื่องของการฟื้นตัวขึ้นของเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะขึ้นกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญประกอบด้วย ยอดขายบ้านมือสอง ดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจจัดทำโดย Conference Board เดือน เม.ย. ตลอดจนรายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดเมื่อวันที่ 29-30 เม.ย.
กำลังโหลดความคิดเห็น