xs
xsm
sm
md
lg

คาดบาทแกว่ง 33.40-33.70 ตลาดเก็ง กนง.ขยับขึ้นอาร์พี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินค่าเงินบาทในประเทศสัปดาห์นี้อาจมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 33.40-33.70 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยปัจจัยที่ควรจับตา ได้แก่ แรงซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐ ของผู้นำเข้าและนักลงทุนต่างชาติ ทิศทางของสกุลเงินในภูมิภาค ตลอดจนสัญญาณการเข้าแทรกแซงตลาดของธปท. เพื่อลดความผันผวนของค่าเงิน และทิศทางเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะขึ้นกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญประกอบด้วย ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) ดุลการค้า สต็อกสินค้าภาคค้าส่ง เดือนพฤษภาคม ดัชนีราคานำเข้าและส่งออกเดือนมิถุนายน และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ

สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทในประเทศ (Onshore) ปรับตัวอย่างผันผวนเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงต้นสัปดาห์ เงินบาทปรับตัวในทิศทางที่แข็งค่าขึ้น แม้ว่านักลงทุนต่างชาติจะยังคงเทขายหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเงินบาทได้รับปัจจัยบวกจากความอ่อนแอของเงินดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลัก แรงขายเงินดอลลาร์สหรัฐของผู้ส่งออก ตลอดจนแรงขายเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าเป็นการเข้าแทรกแซงของธปท.เพื่อชะลอการอ่อนค่าของเงินบาท นอกจากนี้ เงินบาทยังได้รับแรงหนุน หลังจากอัตราเงินเฟ้อในเดือนมิถุนายนออกมาสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาดมาก และได้กระตุ้นให้นักลงทุนคาดการณ์กันมากขึ้นว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อาจต้องทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนนี้

สำหรับในวันศุกร์ เงินบาทอ่อนค่าลงตามทิศทางสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาคมายืนที่ระดับประมาณ 33.49 (ตลาดเอเชีย) เทียบกับระดับ 33.51 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (27 มิถุนายน) ขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐ ดีดตัวกลับมาแข็งค่าขึ้น หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของตลาด

สำหรับแนวโน้มในสัปดาห์นี้บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยและบริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ดัชนีหุ้นไทยจะปรับตัวผันผวน ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาประเด็นทางการเมือง ปัญหาเงินเฟ้อซึ่งถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้ง แรงขายจากนักลงทุนต่างชาติ ส่วนปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ทิศทางของราคาน้ำมันในตลาดโลก ทิศทางของตลาดหุ้นในภูมิภาค และการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ อาทิ ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) เดือน พ.ค. และตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยคาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 737 และ 724 จุด และแนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 770 และ 780 จุด ตามลำดับ

ทั้งนี้ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 743.03 จุด ปรับลดลง 4.22% จาก 775.73 จุดในสัปดาห์ก่อน และร่วงลง 13.41% จากสิ้นปี 2550 ขณะที่มูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสัปดาห์ลดลง 32.59% จาก 76,790.53 ล้านบาทในสัปดาห์ก่อนหน้ามาอยู่ที่ 51,765.61 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่ลดลงจาก 15,358.11 ล้านบาทในสัปดาห์ก่อนมาอยู่ที่ 10,353.12 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 249.64 จุด ขยับลง 2.33% จาก 255.59 จุดในสัปดาห์ก่อน และร่วงลง 8.35% จากสิ้นปีก่อน

โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องที่ 9,173.63 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิที่ 8,514.79 ล้านบาท และ 658.82 ล้านบาท ตามลำดับ โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นจะกระทบต่อเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในอนาคต และแรงเทขายต่อเนื่องของนักลงทุนต่างชาติ
กำลังโหลดความคิดเห็น