บทเรียนต่อเนื่องในเทศกาล "วันครอบครัว" สืบเนื่องจากเรื่อง "พ่อจ๋า...อย่าร้องไห้" ซึ่งให้บทเรียนสำหรับลูกๆ ที่น่าจะมีต่อพ่อแม่ มาสู่ "The Family Man" ซึ่งเป็นบทเรียนสำหรับสามีต่อภรรยาและครอบครัว มาถึง "Evan Almighty" ซึ่งเป็นบทเรียนสำหรับภรรยาและลูกๆ ต่อสามี (หรือกลับกัน)
***อีแวน ออลไมตี้ เป็นเรื่องต่อเนื่องจาก บรูซ ออลไมตี้ ซึ่งนักอ่านข่าวรูปหล่อน่ารัก อีแวน แบกซเตอร์ ได้ตัดสินใจเข้าสู่เส้นทางนักการเมือง เขาอธิษฐานพระเจ้าอยากมีส่วนในการเปลี่ยนแปลงโลกนี้ แล้วพระเจ้าก็ประทานให้เป็นจริง***
ตอนเย็นวันหนึ่ง เขากลับบ้าน ทั้งๆที่ได้เคยรับปากกับลูกๆว่า จะออกไปเดินภูเขากัน เขากลับหอบงานกลับบ้านหลายเล่ม จนสูงเทียมหัว ภรรยาและลูกๆก็ต้องผิดหวัง ภรรยาอธิษฐานต่อพระเจ้าว่า ขอให้ครอบครัวมีโอกาสที่จะอยู่ด้วยกัน อย่างอบอุ่น
เช้าวันหนึ่ง เขาได้รับกล่องพัสดุกล่องใหญ่ จ่าหน้าถึงเขา ข้างในมี ค้อนโบราณ ลิ่มโบราณ และมีสาส์นให้เขาเตรียมต่อเรือ ซึ่งเขายังตีความไม่ออกว่าหมายถึงอะไร
วันต่อมามีรถบรรทุกขนาดใหญ่มาหลายคัน ขนไม้มาวางไว้กองเบ้อเริ่ม เขาตกใจมาก แล้วเขาก็ได้พบกับพระเจ้า เขาก็คิดว่าเป็นพวกลวงโลก แต่พระเจ้ากลับบอกชื่อเขา นามสกุลเขา ความสูง น้ำหนัก อาชีพ แม้กระทั่งเหตุการณ์สมัยเด็กๆที่เขาไม่คิดว่าจะมีคนอื่นรู้ได้เลย ทำให้เขาเริ่มเชื่อว่าอาจเป็นพระเจ้าจริง
***จุดนี้เป็นไปตามหลักการว่า "พระเจ้าทรงรักเราทุกคน แม้เส้นผม พระองค์ยังทรงนับไว้แล้วทุกเส้น" เราแต่ละคนเลือกความเชื่อของเราได้ ถ้าเราเชื่อว่า "พระเจ้ารักเรา" ชีวิตที่เราได้รับดีอยู่แล้ว ดีเหลือเกิน ขอบคุณพระเจ้าได้เสมอ ชีวิตก็มีแต่ความสุข สันติสุข และพอเพียง แต่ถ้าเราจะเชื่อว่า "พระเจ้าไม่รักเรา" "ทำไมเราไม่ได้อย่างนี้ อย่างนั้น" เราก็จะเป็นทุกข์***
เหมือนที่ลีนา มาเรียได้พูดไว้ เธอพิการ เกิดมาไม่มีแขน มีขาข้างหนึ่งสั้นครึ่งหนึ่งของอีกข้างหนึ่ง เธอบอกว่า "เธอเลือกที่จะขอบคุณพระเจ้าในสิ่งที่เธอได้รับมากมายในชีวิต มากกว่าที่จะน้อยใจพระเจ้าในสิ่งที่เธอไม่ได้รับ (แขน 2 ข้าง และขาข้างหนึ่งที่สั้นกว่าปกติ) เธอจึงมีความสุขมากมายกว่าคนจำนวนมากในโลก สะท้อนเป็นพลังชีวิตที่เข้มแข็ง แสดงคอนเสิร์ตทั่วโลก เสียงเพลง และแววตาแห่งความสุข เธอได้ช่วยเป็นกำลังใจให้คนพิการและคนปกติมากมายทั่วโลก ผมเชื่อว่าชีวิตของเธอมีคุณค่าและมีความหมายมากกว่าคนมากมายในโลก
ในตอนต่อมา มีสัตว์มากมายเป็นคู่ๆ เดินเคียงข้างกัน บินเคียงข้างกัน เลื้อยเคียงข้างกัน มาหาอีวาน จนเขาตระหนักว่า เป็นน้ำพระทัยพระเจ้าต่อเขาจริงๆ เขาก็ตั้งใจทำตามพระทัยพระเจ้าเบื้องบนด้วยการต่อเรือที่สนามหลังบ้านเขา เพื่อช่วยคนและสัตว์มากมายจากน้ำท่วมใหญ่
ภรรยาเห็นสามีตั้งใจเช่นนั้น ก็รู้สึกท้อแท้ สับสน จึงพาลูกจากสามีเขาไป ปล่อยให้สามีต่อเรืออยู่คนเดียว และภรรยาก็ได้มีโอกาสพบพระเจ้า ผู้ทรงถามไถ่เธอด้วยความห่วงใย เธอก็เล่าความหนักใจของเธอว่า สามีเธอเพี้ยนไป กลายเป็นโนอาห์แห่งนิวยอร์คไปแล้ว แต่พระเจ้าตรัสว่า เรื่องของโนอาห์ เป็นเรื่องราวแห่งความรักที่น่าประทับใจ สัตว์ทุกชนิดขึ้นเรือเป็นคู่ "เคียงข้าง" กัน
"เวลาที่เราขอความอดทน คิดว่าพระเจ้าจะประทานความอดทน หรือพระเจ้าจะประทานโอกาสให้อดทน"
"เวลาที่เราขอความกล้าหาญ พระเจ้าจะประทานความกล้าหาญ หรือพระเจ้าจะประทานโอกาสให้กล้าหาญ"
***"เวลาที่เราขอให้ครอบครัวอยู่ร่วมกันด้วยความรักอย่างอบอุ่น พระเจ้าจะประทานให้รักกัน หรือพระเจ้าจะประทานโอกาสให้ครอบครัวได้แสดงความรักแท้ต่อกัน อยู่เคียงข้างกัน"***
แล้วภรรยาก็พบทางสว่าง ในเมื่อเธออธิษฐานขอพระเจ้าให้ครอบครัวได้รักกันอย่างอบอุ่น เวลาเช่นนี้มิใช่หรือที่สามีต้องการการสนับสนุนเช่นนี้ ที่ครอบครัวจะได้อยู่เคียงข้างกัน แล้วเธอก็กลับมาหาเขา นาทีที่ภรรยากลับมา และลูกๆกลับมาบอกว่า พร้อมที่จะอยู่เคียงข้างกัน ต่อเรือร่วมกัน เป็นนาทีแห่งความซาบซึ้งจริงๆ
ขณะที่เขากำลังต่อเรือ ทีมงานผู้ช่วย ส.ส. ของเขาก็มาบอกว่า เขารู้แผนชั่วของ นาย ลอง นักการเมืองอาวุโส ที่กำลังใช้สภาแก้กฎหมาย เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจของตัว แล้วทุกคนก็เห็นว่า การต่อเรือใหญ่นั้น ไม่ได้ช่วยเหลือคนในบริเวณนั้น แต่เป็นเพราะโครงการของนาย ลอง ทำให้เขื่อนกั้นน้ำต้องพังทลายลง แต่ทุกคนในบริเวณ รวมถึงสัตว์ต่างๆ ก็รอดมาได้ด้วยเรือโนอาห์ที่เขาได้ต่อไว้ แล้วเรือก็แล่นเข้าไปชนอาคารที่ประชุมสภาเบาๆ จนทำให้ต้องเลิกประชุม นาย ลอง โกรธมากออกมาจะเอาเรื่องอีแวน แต่ก็เห็นสัตว์ต่างๆรวมทั้งเสือ สิงห์ กระทิง หมาป่าที่อยู่ข้างๆอีแวน ก็บอกให้อีแวนระวังสัตว์เหล่านี้ให้ดี อีแวนจึงบอกว่า เขารู้แผนชั่วแล้ว ที่จะให้อำนาจแก้กฎหมายเพียงเพื่อประโยชน์ของตนเอง ให้เลิกความตั้งใจนั้นเสีย การใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ก็เป็นการสะสมปัญหา รอวันระเบิดเช่นเขื่อนแตก และไม่ต้องเตือนเขาให้ระวังสัตว์รอบตัวเขา ขอให้เขา ระวังนักการเมืองประเภท เสือ สิงห์ กระทิง หมาป่า ที่หิวโหยที่อยู่รอบตัวให้ดีก็แล้วกัน
***ผมหวังว่า บทเรียนความกล้ากระทำในสิ่งดีเพื่อเปลี่ยนแปลงโลก การสนับสนุนกันในครอบครัว และการต่อต้านการใช้อำนาจเพียงเพื่อเอื้อประโยชน์ส่วนตัว จะเป็นสิ่งดีๆต่อสังคมไทย และนำไปสู่ความสันติสุขและเจริญรุ่งเรืองของเศรษฐกิจและตลาดทุนต่อไปครับ***
มนตรี ศรไพศาล
(montree4life@yahoo.com)