“ทักษิณ” โผล่หน้าเรียกคะแนนนิยมภาคเศรษฐกิจ แนะแบงก์ชาติปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อฟื้นเศรษฐกิจในประเทศ หลังประกาศยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% พร้อมเสนอแนะให้รัฐบาลมีมาตรการทางเศรษฐกิจอื่น
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เสนอแนะให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในตลาดซื้อคืนพันธบัตร (อาร์/พี) ระยะสั้น 1 วัน ซึ่งถือเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง หลังจากที่ได้มีการยกเลิกมาตรการกันสำรองเงินทุนนำเข้าระยะสั้น 30% ไปแล้ว รวมทั้งยังเห็นว่า รัฐบาลจะต้องมีมาตรการทางเศรษฐกิจอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวอ้างว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า ตนเองได้มีการพูดคุยทางโทรศัพท์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อสอบถาม และปรึกษาถึงแนวทางการแก้ปัญหาโดยทั่วไป เพราะเห็นว่า การทำงานในส่วนของกระทรวงการคลัง จะต้องฟังความคิดเห็นจากผู้คนให้รอบด้าน
นอกจากนี้ ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาให้สัมภาษณ์ภายหลังจากที่แบงก์ชาติ ส่งสัญญาณที่จะปรับลดดอกเบี้ยอยู่แล้ว โดนวานนี้ นายอัศวิน อาฮูยา เศรษฐกร สายนโยบายการเงิน ธปท.กล่าวในการสัมมนา “การบริหารนโยบายเศรษฐกิจมหภาค ภายใต้เศรษฐกิจโลกปัจจุบัน” โดยระบุว่า การดำเนินนโยบายการเงินของ ธปท.ในขณะนี้เป็นไป ค่อนข้างยาก จากการสำรวจความเห็นนักธุรกิจ พบว่า มีความเป็นห่วงว่าเงินเฟ้อจะสูงถึง 46%
อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงเสถียรภาพด้านราคาน่าจะเป็นภาวะชั่วคราว หากเศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอตัวลง เศรษฐกิจโลกชะลอตัวตามไปด้วย เงินเฟ้อทั้งโลกน่าจะลดตาม โดยเงินเฟ้อน่าจะอยู่ที่ 2.8-4% ตามกรอบที่วางไว้ ดังนั้นนโยบายการเงินน่าจะเอื้อต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ขณะเดียวกัน ธปท.จะต้องดูแลอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งมีสัญญาณที่ดีขึ้น หากความเชื่อมั่นของภาคเอกชนปรับตัวดี ขึ้นอย่างต่อเนื่อง นโยบายด้านอัตราดอกเบี้ยก็ต้องสนับสนุนด้วย
นายอัศวิน กล่าวว่า หากพิจารณาอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่แท้จริง พบว่า ดอกเบี้ยนโยบายของไทยต่ำสุดในภูมิภาค แต่ก็ยังมีช่องว่างที่จะลดดอกเบี้ยได้อีก ซึ่งขณะนี้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 2 เดือน ติดลบมานานพอสมควร ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ก็ลดลงต่อเนื่อง
สำหรับการลงทุนรัฐต้องเพิ่มการลงทุนในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะที่ผ่านมาการลงทุนไม่ขยายตัว