รมว.คลัง เตรียมเสนอมาตรการภาษีกระตุ้นเศรษฐกิจให้ ครม.ตัดสินพรุ่งนี้ พร้อมเร่งเมกะโปรเจกต์ 1.5 ล้านล้านบาท ภายใน 6 เดือน หวังกระตุ้นเอกชนลงทุนตาม พร้อมจูงใจด้านภาษีและสิทธิประโยชน์ ส่วนภาคการบริโภรเตรียมใช้มาตรการภาษีเพิ่มกำลังซื้อให้รากหญ้า
วันนี้ (3 มี.ค.) นพ.สุรพงษ์ สืบวงค์ลี รองนายกรัฐมนาตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “แนวทางชัดๆ รัฐบาลใหม่กับการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ” งานครบรอบ 1 ปี สภาปนาวิทยาลัย U-MDC มหาวิทยาลัยทักษิณ ณ โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ โดยระบุว่ารัฐบาลจะเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการสร้างความเชื่อมั่น มีการลงทุนให้ได้ภายใน 6 เดือน ซึ่งการที่รัฐบาลประกาศเริ่มลงทุนโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ มูลค่า 1.5 ล้านล้านบาท เป็นการส่งสัญญาณเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ภาคเอกชนขยายการลงทุนตาม โดยยอมรับว่า เม็ดเงินอัดฉีดในโครงการเมกะโปรเจกต์จะเข้าสู่ระบบ ในสิ้นปีนี้หรือต้นปีหน้า
“รัฐบาลประกาศให้ปี 2551 เป็นปีของการลงทุน โดยจะสนับสนุนมาตรการทางภาษีให้เอกชนที่ลงทุนในปีนี้ ซึ่งเอกชนจะได้ประโยชน์มากที่สุด โดยจะนำเข้าที่ประชุม ครม.ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้”
แม้ข้อมูลเศรษฐกิจจะชี้ว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยยังเติบโตได้ดี แต่ประชาชนกลับรู้สึกว่าฝืดเคือง เพราะมีการบิดเบี้ยวของโครงสร้างเศรษฐกิจที่พึ่งพิงการส่งออกมากเกินไป ขณะที่การลงทุนภาครัฐ เอกชน และการบริโภคติดขัดมาโดยตลอด เพราะปัญหาทางการเมือง ดังนั้น หากจะฟื้นเศรษฐกิจในระยะสั้นต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่น ซึ่งรัฐบาลจะส่งเสริมมาตรการภาษีให้เอกชนลงทุนตามรัฐบาล
นพ.สุรพงษ์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลจะส่งเสริมความเชื่อมั่นในการใช้จ่ายของประชาชน ด้วยการใช้มาตรการภาษี ด้วยการเพิ่มค่าลดหย่อนทางภาษี โดยเฉพาะกับประชาชนในระดับฐานราก เพื่อให้มีเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวันมากขึ้น และจะส่งผลให้รัฐบาลสามารถเก็บภาษีจากการใช้จ่าย เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อชดเชยกับรายได้ที่ลดลงไปจากการลดหย่อนภาษีให้ประชาชน และจะมีการเพิ่มงบประมาณในโครงการเงินกู้เอสเอ็มแอล และสินค้าโอทอปเพื่อเพิ่มรายได้ประชาชนในระดับรากหญ้า