นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงค์ลี รองนายกรัฐมนาตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ แนวทางชัดๆ รัฐบาลใหม่กับการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ งานครบรอบ 1 ปี สถาปนาวิทยาลัย U-MDC มหาวิทยาลัยทักษิณ ณ โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ โดยระบุว่า รัฐบาลจะเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการสร้างความเชื่อมั่น มีการลงทุนให้ได้ภายใน 6 เดือน ซึ่งการที่รัฐบาลประกาศเริ่มลงทุนโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ มูลค่า 1.5 ล้านล้านบาท เป็นการส่งสัญญาณเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ภาคเอกชนขยายการลงทุนตาม โดยยอมรับว่า เม็ดเงินอัดฉีดในโครงการเมกะโปรเจกต์จะเข้าสู่ระบบ ในสิ้นปีนี้หรือต้นปีหน้า
นอกจากนี้ รัฐบาลประกาศให้ปี 2551 เป็นปีของการลงทุน โดยจะสนับสนุนมาตรการทางภาษีให้เอกชนที่ลงทุนในปีนี้ ซึ่งเอกชนจะได้ประโยชน์มากที่สุด โดยจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แม้ข้อมูลเศรษฐกิจจะชี้ว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยยังเติบโตได้ดี แต่ประชาชนกลับรู้สึกว่าฝืดเคือง เพราะมีการบิดเบี้ยวของโครงสร้างเศรษฐกิจที่พึ่งพิงการส่งออกมากเกินไป ขณะที่การลงทุนภาครัฐ เอกชน และการบริโภคติดขัดมาโดยตลอด เพราะปัญหาทางการเมือง ดังนั้น หากจะฟื้นเศรษฐกิจในระยะสั้น ต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่น ซึ่งรัฐบาลจะส่งเสริมมาตรการภาษีให้เอกชนลงทุนตามรัฐบาล
นายแพทย์สุรพงษ์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลจะส่งเสริมความเชื่อมั่นในการใช้จ่ายของประชาชน ด้วยการใช้มาตรการภาษี ด้วยการเพิ่มค่าลดหย่อนทางภาษี โดยเฉพาะกับประชาชนในระดับฐานราก เพื่อให้มีเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวันมากขึ้น และจะส่งผลให้รัฐบาลสามารถเก็บภาษีจากการใช้จ่าย เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อชดเชยกับรายได้ที่ลดลงไปจากการลดหย่อนภาษีให้ประชาชน และจะมีการเพิ่มงบประมาณในโครงการเงินกู้เอสเอ็มแอล และสินค้าโอท็อปเพื่อเพิ่มรายได้ประชาชนในระดับรากหญ้า
นอกจากนี้ รัฐบาลประกาศให้ปี 2551 เป็นปีของการลงทุน โดยจะสนับสนุนมาตรการทางภาษีให้เอกชนที่ลงทุนในปีนี้ ซึ่งเอกชนจะได้ประโยชน์มากที่สุด โดยจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แม้ข้อมูลเศรษฐกิจจะชี้ว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยยังเติบโตได้ดี แต่ประชาชนกลับรู้สึกว่าฝืดเคือง เพราะมีการบิดเบี้ยวของโครงสร้างเศรษฐกิจที่พึ่งพิงการส่งออกมากเกินไป ขณะที่การลงทุนภาครัฐ เอกชน และการบริโภคติดขัดมาโดยตลอด เพราะปัญหาทางการเมือง ดังนั้น หากจะฟื้นเศรษฐกิจในระยะสั้น ต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่น ซึ่งรัฐบาลจะส่งเสริมมาตรการภาษีให้เอกชนลงทุนตามรัฐบาล
นายแพทย์สุรพงษ์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลจะส่งเสริมความเชื่อมั่นในการใช้จ่ายของประชาชน ด้วยการใช้มาตรการภาษี ด้วยการเพิ่มค่าลดหย่อนทางภาษี โดยเฉพาะกับประชาชนในระดับฐานราก เพื่อให้มีเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวันมากขึ้น และจะส่งผลให้รัฐบาลสามารถเก็บภาษีจากการใช้จ่าย เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อชดเชยกับรายได้ที่ลดลงไปจากการลดหย่อนภาษีให้ประชาชน และจะมีการเพิ่มงบประมาณในโครงการเงินกู้เอสเอ็มแอล และสินค้าโอท็อปเพื่อเพิ่มรายได้ประชาชนในระดับรากหญ้า