เตรียมเสนอยืดเวลาลดภาษีบริษัทจดทะเบียนที่ 25% ออกไปอีก 3 ปี เพิ่มลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดา พร้อมคงภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ออกไปอีก 2 ปี หมอเลี้ยบ บุก ธ.ก.ส.สานต่อโครงการพักหนี้เกษตรกร
แหล่งข่าวกระทรวงการคลัง ระบุว่า เตรียมเสนอมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตัดสินใจขั้นตอนสุดท้ายอีกครั้ง หลังจากได้มีการหารือร่วมกันมาแล้วในเบื้องต้น ซึ่งครอบคลุมการคงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่ 7% ออกไปอีก 2 ปีงบประมาณ
โดยมีการเสนอให้ยืดการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาด หลักทรัพย์ที่มีกำไรสุทธิไม่เกิน 300 ล้านบาทแรก เหลือ 25% จาก 30% ไปอีก 3 ปี และสนับสนุนให้บริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ โดยได้สิทธิ์ลดภาษีเหลือ 25%
“มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนของกระทรวงการคลัง ที่จะเสนอต่อ รมว.คลัง หลังจากที่ได้มีการหารือร่วมกับ รมว.คลัง ไปแล้ว มีทั้งหมด 10 มาตรการ ส่วนใหญ่ เป็นมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย และลดภาระให้กับผู้ประกอบการ รวมทั้งสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากเป็นหลัก” แหล่งข่าวกล่าว
ขณะที่ วานนี้ นพ.สุรพงษ์ เดินทางไปตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่พนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส.ซึ่ง นายสำราญ ภูอนันตานนท์ ที่ปรึกษา รมว.คลัง กล่าวว่า จะมอบหมายให้ ธ.ก.ส.สานต่อโครงการพักหนี้เกษตรกรรายย่อย เนื่องจากที่แถลงต่อสภา กระทรวงการคลัง มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งการช่วยเหลือเกษตรกรในการฟื้นฟูอาชีพ กองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมือง เพื่อให้เป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนในการลงทุน และยกระดับเป็นธนาคารหมู่บ้าน โครงการธนาคารประชาชน เพื่อกระจายโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้แก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อย สร้างทางเลือกและลดการพึ่งพาเงินกู้นอกระบบ เพื่อสร้างรายได้ให้ตนเอง การทำประกันความเสี่ยงสินค้าเกษตร เพื่อลดความเสี่ยงอันเนื่องมากจากสาเหตุผลกระทบจากความเสียหายจากภัยธรรมชาติ และสร้างกลไกเสถียรภาพสินค้าเกษตรที่เป็นธรรมและหาแนวทางยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยการสร้างรายได้ที่มั่นคงในอนาคตด้วย
ก่อนหน้านี้ นายธีรพงษ์ ตั้งธีระสุนันท์ ผู้จัดการ ธ.ก.ส.ได้เข้าหารือกับ รมว.คลัง และได้รับมอบหน้าที่ให้ไปศึกษารูปแบบและแนวทางการปล่อยสินเชื่อให้กับหมู่บ้านในโครงการดังกล่าวแล้ว ซึ่งคาดว่าจะได้มีการหารือร่วมกันอีกครั้งในวันนี้ รวมถึงการพักชำระหนี้เกษตรกรทั้งระบบนาน 3 ปี
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังโดย รมว.คลัง คนล่าสุด ต้องการใช้ ธ.ก.ส.เป็นกำลังสำคัญช่วยเหลือภาครัฐในการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศโดยการสนองนโยบายประชานิยมของรัฐบาล ที่ต้องการอัดฉีดเม็ดเงินเพิ่มเติมเข้าสู่ชนบท ผ่านโครงการกองทุนหมู่บ้าน 80,000 ล้านบาท
แหล่งข่าวกระทรวงการคลัง ระบุว่า เตรียมเสนอมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตัดสินใจขั้นตอนสุดท้ายอีกครั้ง หลังจากได้มีการหารือร่วมกันมาแล้วในเบื้องต้น ซึ่งครอบคลุมการคงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่ 7% ออกไปอีก 2 ปีงบประมาณ
โดยมีการเสนอให้ยืดการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาด หลักทรัพย์ที่มีกำไรสุทธิไม่เกิน 300 ล้านบาทแรก เหลือ 25% จาก 30% ไปอีก 3 ปี และสนับสนุนให้บริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ โดยได้สิทธิ์ลดภาษีเหลือ 25%
“มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนของกระทรวงการคลัง ที่จะเสนอต่อ รมว.คลัง หลังจากที่ได้มีการหารือร่วมกับ รมว.คลัง ไปแล้ว มีทั้งหมด 10 มาตรการ ส่วนใหญ่ เป็นมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย และลดภาระให้กับผู้ประกอบการ รวมทั้งสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากเป็นหลัก” แหล่งข่าวกล่าว
ขณะที่ วานนี้ นพ.สุรพงษ์ เดินทางไปตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่พนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส.ซึ่ง นายสำราญ ภูอนันตานนท์ ที่ปรึกษา รมว.คลัง กล่าวว่า จะมอบหมายให้ ธ.ก.ส.สานต่อโครงการพักหนี้เกษตรกรรายย่อย เนื่องจากที่แถลงต่อสภา กระทรวงการคลัง มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งการช่วยเหลือเกษตรกรในการฟื้นฟูอาชีพ กองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมือง เพื่อให้เป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนในการลงทุน และยกระดับเป็นธนาคารหมู่บ้าน โครงการธนาคารประชาชน เพื่อกระจายโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้แก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อย สร้างทางเลือกและลดการพึ่งพาเงินกู้นอกระบบ เพื่อสร้างรายได้ให้ตนเอง การทำประกันความเสี่ยงสินค้าเกษตร เพื่อลดความเสี่ยงอันเนื่องมากจากสาเหตุผลกระทบจากความเสียหายจากภัยธรรมชาติ และสร้างกลไกเสถียรภาพสินค้าเกษตรที่เป็นธรรมและหาแนวทางยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยการสร้างรายได้ที่มั่นคงในอนาคตด้วย
ก่อนหน้านี้ นายธีรพงษ์ ตั้งธีระสุนันท์ ผู้จัดการ ธ.ก.ส.ได้เข้าหารือกับ รมว.คลัง และได้รับมอบหน้าที่ให้ไปศึกษารูปแบบและแนวทางการปล่อยสินเชื่อให้กับหมู่บ้านในโครงการดังกล่าวแล้ว ซึ่งคาดว่าจะได้มีการหารือร่วมกันอีกครั้งในวันนี้ รวมถึงการพักชำระหนี้เกษตรกรทั้งระบบนาน 3 ปี
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังโดย รมว.คลัง คนล่าสุด ต้องการใช้ ธ.ก.ส.เป็นกำลังสำคัญช่วยเหลือภาครัฐในการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศโดยการสนองนโยบายประชานิยมของรัฐบาล ที่ต้องการอัดฉีดเม็ดเงินเพิ่มเติมเข้าสู่ชนบท ผ่านโครงการกองทุนหมู่บ้าน 80,000 ล้านบาท