xs
xsm
sm
md
lg

โกลว์เดินหน้าโรงไฟฟ้า SPP-IPP ปี 50 กำไรสุทธิรวมเฉียด 4.8 พันล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โกลว์ เตรียมเซ็นสัญญาผู้ดำเนินโครงการผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) เพิ่มอีก 74 เมกะวัตต์ พร้อมเดินหน้าก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 660 เมกะวัตต์กลางปีนี้ มูลค่า 1.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ผลงานปี 50 กำไรสุทธิรวมเกือบ 4.8 พันล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 15%

นายศิโรตม์ วิชยาภัย ผู้อำนวยการผ่ายการเงิน บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือ GLOW แจ้งผลการดำเนินงานประจำปี สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 ว่า บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 4,783 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 3.27 บาท เทียบกับปีก่อนกำไรสุทธิ 5,596 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 3.83 บาท กำไรสุทธิลดลง 813 ล้านบาท คิดเป็น 14.53%

ทั้งนี้ บริษัทมีรายได้รวม 33,011 ล้านบาท กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายภาษีเงินได้และค่าเสื่อม (EBITDA) 8,605 ล้านบาท ลดลง 4.9% และกำไรสุทธิก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้ (NNP) จำนวน 4,314 ล้านบาท ลดลง 6.3%

"ปี 50 บริษัทมียอดจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นกว่า 8% ขณะที่ยอดจำหน่ายไอน้ำเพิ่มขึ้นเกือบ 4% ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แม้ว่าจะลดลงจากปีก่อนเล็กน้อย เพราะต้องเผชิญกับค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นกว่า 8% และการลดลงของอัตราค่าไฟฟ้าของ กฟภ. ขณะที่ต้นทุนเชื้อเพลิงค่อนข้างคงที่ โดยการแข็งค่าของเงินบาทเพียงอย่างเดียวส่งผลต่อกำไรสุทธิก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้ลดลงกว่า 360 ล้านบาท"

สำหรับแผนการดำเนินงานงานในปี 2551 นี้ บริษัทได้รับการคัดเลือกจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ให้เป็นผู้ดำเนินโครงการผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) เพิ่มขึ้นอีก 74 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าจะมีการทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภายในไตรมาสที่ 2 ปี 2551 และเริ่มเปิดดำเนินการปลายปี 2554

พร้อมกันนี้ เมื่อเดือนธันวาคม 2550 บริษัท เก็คโค่-วัน จำกัด (กลุ่มโกลว์ถือหุ้น 65% และบริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) 35%) ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะการประมูลโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกำลังการผลิต 660 เมกะวัตต์ (สุทธิ) ภายใต้โครงการประมูลโรงไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP) รอบใหม่ มูลค่าก่อสร้างโครงการประมาณ 1,150 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งคาดจะเริ่มการก่อสร้างได้ภายในกลางปีนี้ และเริ่มเปิดดำเนินการปลายปี 2554

"ธุรกิจผลิตไฟฟ้าและไอน้ำร่วมกันของโกลว์ยังคงเติบโตต่อไป โดยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้บริษัทมีแผนที่จะทำสัญญากับลูกค้าอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อีกประมาณ 250 - 350 เมกะวัตต์เทียบเท่า ทำให้บริษัทอาจจำเป็นต้องเพิ่มกำลังการผลิตสำหรับโรงผลิตไฟฟ้าและไอน้ำร่วมกันถึง 380 เมกะวัตต์ มูลค่าการลงทุนสูงสุดประมาณ 450 ล้านเหรียญสหรัฐ"

จากโครงการขยายโรงไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP) และโครงการขยายโรงผลิตไฟฟ้าและไอน้ำร่วมกัน (Cogeneration) ที่จะเริ่มเปิดดำเนินการประมาณกลางปี 2554 จะทำให้กำลังการผลิตของกลุ่มบริษัทเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 50%

สำหรับแหล่งเงินทุนสำหรับโครงการดังกล่าว บริษัทจะนำมาจากกระแสเงินสดและกู้จากสถาบันการเงิน ซึ่งปัจจุบันมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนค่อนข้างต่ำแค่ 0.5 เท่า (31 ธ.ค.) ต่ำกว่าเป้าหมายระยะยาวที่ตั้งไว้ที่ 1.0 เท่า
กำลังโหลดความคิดเห็น