xs
xsm
sm
md
lg

บ้านปูเพิ่มรายได้ปีนี้โต 25% เล็งลงทุนขยายธุรกิจในจีน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บ้านปูปรับเป้ารายได้ปีนี้โต 25% หลังราคาถ่านหินพุ่งไม่หยุด โดยมีปริมาณถ่านหินที่ยังไม่ได้ทำสัญญาขายอยู่ 30% ของปริมาณการขายทั้งหมด 20 ล้านตัน คาดว่าปีนี้ราคาเฉลี่ยขายถ่านหินอยู่ที่ 60 เหรียญสหรัฐ/ตัน ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปีนี้สูงถึง 40% เผยกลยุทธ์ปีนี้จะเร่งหาโอกาสการลงทุนทั้งเหมืองถ่านหินและโรงไฟฟ้าในจีนเพิ่มเติม

นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด(มหาชน) เปิดเผย บริษัทปรับเป้าหมายรายได้ของปี 2551 เพิ่มขึ้นประมาณ 25% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 32,442 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทคาดว่าจะปรับเพิ่มราคาขายเฉลี่ยถ่านหินอยู่ที่ประมาณ 60 เหรียญสหรัฐต่อตันเป็นอย่างน้อย โดยปัจจุบันบริษัทมีการขายถ่านหินล่วงหน้าไปแล้ว 70% ของกำลังการผลิต 20 ล้านตัน ในราคาเฉลี่ย 53 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน คงเหลืออีก 30%ที่อยู่ระหว่างการรอทำสัญญาซื้อขายอยู่

จากราคาถ่านหินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นนี้ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทในปีนี้ไม่น่าจะต่ำกว่า 40% จากปีที่แล้วอยู่ที่ระดับ 35% (คำนวณอัตราแลกเปลี่ยน 31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ) หลังจากปีที่แล้วบริษัทได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งค่า ส่งผลให้บริษัทมีรายได้รวมลดลง 3%

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในปีนี้ ยังเน้นการขยายการลงทุนในธูรกิจถ่านหินและไฟฟ้าในอินโดนีเซียและจีนเป็นส่วนใหญ่ บนพื้นฐานของการปรับปรุงพัฒนาธุรกิจที่เกิดขึ้นในปีที่แล้ว เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มของสินทรัพย์ที่มีอยู่และแสวงหาโอกาสการลงทุนใหม่ โดยจะรุกธุรกิจในจีนมากขึ้น โดยมีเป้าหมายที่จะให้ธุรกิจในจีนมีสัดส่วนไล่เลี่ยกับไทยและอินโดนีเซียภายในสิ้นปีนี้

ส่วนอินโดนีเซียบ้านปูยังให้ความสำคัญต่อการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง เช่นสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกำลังการผลิต14 เมกะวัตต์ที่ท่าเรือบอนตังสำหรับใช้ภายในเหมืองและท่าเรือเพื่อทดแทนต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิง คาดว่าจะแล้วเสร็จในครึ่งปีหลังนี้ รวมทั้งปรับปรุงและขยายประสิทธิภาพท่าเรือบอนตังรองรับการขนถ่ายถ่านหินเพิ่มขึ้นจาก12.5 ล้านตันเป็น 18 ล้านตันให้แล้วเสร็จในปีนี้

สำหรับแผนการลงทุนในปีนี้จะใช้เงินลงทุน 333 ล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งเป็นการลงทุนท่าเรือบอนตัง 66ล้านเหรียญสหรัฐ พัฒนาเหมืองบารินโตะ 45 ล้านเหรียญสหรัฐ โรงไฟฟ้าที่บอนตัง 22 ล้านเหรียญสหรัฐ และสำรองเงินลงทุนในเหมืองอินโดนีเซียและจีนทั้งเหมืองถ่านหิน โรงไฟฟ้าอีก 230 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งบริษัทจะให้ความสำคัญการหาโอกาสลงทุนเพิ่มเติมในเหมืองถ่านหินที่จีนมากกว่าโรงไฟฟ้า

สำหรับแหล่งเงินทุนจะมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน กำไรจากการขายหุ้นITM ที่อินโดนีเซียช่วงเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมทั้งก่อหนี้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ปัจจุบันบริษัทมีอัตราหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 0.14 เท่า ทำให้ศัยกภาพที่จะสร้างหนี้ได้เพิ่มขึ้นอีกหากมีโอกาสการลงทุนเพิ่มเติม

ความคืบหน้าโครงการหงสาที่ลาวนั้น คาดว่าจะลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้ในกลางปีนี้ ส่วนแผนการจัดหาเงินจะกู้เงินจากสถาบันการเงินไทยเป็นส่วนใหญ่70%ในปลายปีนี้ โดยเมื่อปลายปีที่แล้ว บริษัทฯได้มีการตกลงซื้อเครื่องจักรจากจีน รวมทั้งอาจจะดึงพันธมิตรจากจีนเข้ามาร่วมถือหุ้น โดยบ้านปูและบมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้งจะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงฝ่ายละ 10%จากเดิมบ้านปูและราชบุรีถือหุ้นอยู่ฝ่ายละ 40%
กำลังโหลดความคิดเห็น