เลขฯ ก.ล.ต.หารือสมาคมโบรกเกอร์ พร้อมกำหนด 3 มาตรการเข้มงวด การสกัดการสร้างราคา และการปั่นหุ้น เน้นเก็บเอกสาร-หลักฐานละเอียดยิบ หวังลดความเสี่ยงและพสร้างภาพพจน์ที่ดีขึ้น
วันนี้ (14 ก.พ.) นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต.ได้ประชุมรายไตรมาสร่วมกับสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ และหารือเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การกำกับดูแลการประกอบธุรกิจ เพื่อให้มาตรการในการป้องปรามการปั่นหุ้นหรือสร้างราคาหลักทรัพย์มีประสิทธิผลมากขึ้น
นายธีระชัย กล่าวว่า การดำเนินการเพื่อป้องปรามการปั่นหุ้นจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะมอบภาระนี้ให้หน่วยงานกำกับดูแลแต่เพียงฝ่ายเดียว คงไม่สำเร็จอย่างรวดเร็ว ในการประชุมร่วมกับสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ ในวันนี้จึงได้มีการหารือถึงมาตรการที่สมาคมและบริษัทหลักทรัพย์จะสามารถดำเนินการเพื่อช่วยหยุดความร้อนแรงของหุ้นบางตัวที่ราคา และสภาพการซื้อขายผิดปกติ โดยไม่มีปัจจัยหรือเหตุผลอันสมควร
“บริษัทหลักทรัพย์ต้องแสดงจุดยืนที่ชัดเจน เตือนลูกค้าของตนที่เข้าไปซื้อขายหุ้นดังกล่าว เพราะหากมีผู้ลงทุนกระจุกตัวซื้อขายหุ้นใดหุ้นหนึ่งจนผิดปกติที่บริษัทหลักทรัพย์ใด บริษัทนั้นก็อาจจะมีความเสี่ยงไปด้วย ดังนั้น มาตรการที่ร่วมกันกำหนดในวันนี้จึงจะทำให้การป้องปรามการสร้างราคาเห็นผลชัดเจนขึ้น”
ต่อไปนี้ ก.ล.ต.จะเข้มงวดในการตรวจสอบ เพื่อให้ บล.ต้องจัดเก็บเอกสารหลักฐานการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ของลูกค้าอย่างครบถ้วน เช่น ใบคำสั่งซื้อขายจะต้องมีการลงเวลาและลายมือชื่อลูกค้า ซึ่งต้องเก็บใบคำสั่งซื้อขาย หรือ โทรสาร ไว้อย่างน้อย 5 ปี หากเป็นการสั่งซื้อขายหรือให้คำแนะนำลูกค้าผ่านทางโทรศัพท์ต้องบันทึกเทปการสนทนา และเก็บรักษาเทปเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 1 เดือน และถ้ามีเรื่องร้องเรียน บล.ต้องเก็บเทปที่มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องไว้จนกว่าจะดำเนินการเรื่องร้องเรียนเสร็จสิ้น
ส่วนกรณีที่ บล.ใดมีลูกค้าที่ซื้อขายกระจุกตัวอยู่ในหุ้นที่มีอัตราการซื้อขายหมุนเวียนต่อสัปดาห์สูงเกินระดับหนึ่ง (หุ้นที่มีชื่ออยู่ใน Turnover list ซึ่ง ก.ล.ต.มีการเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ทุกสัปดาห์) จะกำหนดให้ บล.นั้นต้องดำเนินการดังต่อไปนี้
(1) บล.ต้องรายงานภาวะการซื้อขายหุ้นดังกล่าวของลูกค้าต่อคณะกรรมการบริษัท รวมทั้งเสนอแผนการบริหารความเสี่ยงด้านต่างๆ ที่อาจเกิดจากการทำธุรกรรมปริมาณมากในหุ้นดังกล่าว ซึ่งได้แก่ ความเสี่ยงด้านความสามารถในการชำระราคาของลูกค้า และความเสี่ยงต่อชื่อเสียงของบริษัท เป็นต้น
(2) กรณีที่ บล.มิได้ทำการวิเคราะห์เกี่ยวกับฐานะและการดำเนินงานของหุ้นดังกล่าว บล.ต้องจัดทำเอกสารเผยแพร่ที่แสดงถึงจุดยืนของ บล.ที่เตือนให้ลูกค้าระมัดระวังในการเข้าไปซื้อขายหุ้นนั้น โดยให้สมาคมกำหนดรูปแบบและข้อความของเอกสารดังกล่าว
(3) บล.ต้องตรวจตราการทำงานของเจ้าหน้าที่การตลาดอย่างเข้มงวด รวมถึงกำชับเจ้าหน้าที่การตลาดในการให้คำแนะนำแก่ลูกค้าเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นนั้น
ด้าน นายกัมปนาท โลหเจริญวนิช นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า สมาคมเห็นด้วยที่บริษัทหลักทรัพย์ต้องมีส่วนร่วมในการสกัดกั้นการซื้อขายที่เป็นการสร้างราคาหรือการปั่นหุ้นเพื่อช่วยกันรักษาภาพพจน์ที่ดีของตลาดทุนไทย