ก.ล.ต.ตื่นงัดมาตรการสกัดหุ้นปั่นเพิ่มเติม เรียกสมาคมบล.หารือด่วนหลังหุ้นร้อนยังไม่สะทกสะท้านมาตรการที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน สั่งโบรกเกอร์เก็บหลักฐานซื้อขายหุ้นอย่างน้อย 5 ปี พร้อมกำชับให้เตือนลูกค้าที่ชอบลงทุนหุ้นที่ติดอันดับการซื้อขายกระจุกตัว "กัมปนาท" ตอบรับหวังสร้างภาพตลาดหุ้นไทยไร้หุ้นปั่น ขณะที่ขาใหญ่ติงอย่าเลือกปฏิบัติ
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ก.ล.ต. ร่วมกับสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ได้กำหนดมาตรการเพิ่มเติมเพื่อป้องปรามการปั่นหุ้น สร้างราคาหลักทรัพย์ โดยก.ล.ต.จะมีการประชุมร่วมสมาคมบล.เป็นรายไตรมาสเพื่อหารือเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การกำกับดูแลการประกอบธุรกิจ เพื่อให้มาตรการในการป้องปรามการปั่นหุ้นหรือสร้างราคาหลักทรัพย์มีประสิทธิผลมากขึ้น
ทั้งนี้ ได้มีการกำหนดแนวทางในการปฏิบัติประกอบด้วย 1. ก.ล.ต. จะเข้มงวดในการตรวจสอบ เพื่อให้ บล.ต้องจัดเก็บเอกสารหลักฐานการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ของลูกค้าอย่างครบถ้วน เช่น ใบคำสั่งซื้อขายจะต้องมีการลงเวลาและลายมือชื่อลูกค้า ซึ่งต้องเก็บใบคำสั่งซื้อขาย หรือโทรสาร ไว้อย่างน้อย 5 ปี
ขณะเดียวกัน หากเป็นการสั่งซื้อขายหรือให้คำแนะนำลูกค้าผ่านทางโทรศัพท์ต้องบันทึกเทปการสนทนาและเก็บรักษาเทปเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 1 เดือน และถ้ามีเรื่องร้องเรียน บล. ต้องเก็บเทปที่มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องไว้จนกว่าจะดำเนินการเรื่องร้องเรียนเสร็จสิ้น
2. กรณีที่ บล. ใดมีลูกค้าที่ซื้อขายกระจุกตัวอยู่ในหุ้นที่มีอัตราการซื้อขายหมุนเวียนต่อสัปดาห์สูงเกินระดับหนึ่ง (หุ้นที่มีชื่ออยู่ใน Turnover list ซึ่ง ก.ล.ต. มีการเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ทุกสัปดาห์) กำหนดให้บล. นั้นต้องรายงานภาวะการซื้อขายหุ้นดังกล่าวของลูกค้าต่อคณะกรรมการบริษัท รวมทั้งเสนอแผนการบริหารความเสี่ยงด้านต่าง ๆ ที่อาจเกิดจากการทำธุรกรรมปริมาณมากในหุ้นดังกล่าว ซึ่งได้แก่ ความเสี่ยงด้านความสามารถในการชำระราคาของลูกค้า และความเสี่ยงต่อชื่อเสียงของบริษัท เป็นต้น
ส่วนกรณีที่บล. มิได้ทำการวิเคราะห์เกี่ยวกับฐานะและการดำเนินงานของหุ้นดังกล่าว บล. ต้องจัดทำเอกสารเผยแพร่ที่แสดงถึงจุดยืนของ บล. ที่เตือนให้ลูกค้าระมัดระวังในการเข้าไปซื้อขายหุ้นนั้น โดยให้สมาคมกำหนดรูปแบบและข้อความของเอกสารดังกล่าว รวมทั้งต้องตรวจตราการทำงานของเจ้าหน้าที่การตลาดอย่างเข้มงวด รวมถึงกำชับเจ้าหน้าที่การตลาดในการให้คำแนะนำแก่ลูกค้าเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นนั้น
"การดำเนินการเพื่อป้องปรามการปั่นหุ้นจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะมอบภาระนี้ให้หน่วยงานกำกับดูแลแต่เพียงฝ่ายเดียวคงไม่สำเร็จอย่างรวดเร็ว การประชุมร่วมกับสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ในวันนี้จึงได้มีการหารือถึงมาตรการที่สมาคมและบริษัทหลักทรัพย์จะสามารถดำเนินการ เพื่อช่วยหยุดความร้อนแรงของหุ้นบางตัวที่ราคาและสภาพการซื้อขายผิดปกติ โดยไม่มีปัจจัยหรือเหตุผลอันสมควร" นายธีระชัยกล่าว
อย่างไรก็ตาม การแสดงจุดยืนของบริษัทหลักทรัพย์โดยเฉพาะการเตือนลูกค้าที่เข้าไปลงทุนในหุ้นที่มีความปกติถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากมีผู้ลงทุนกระจุกตัวซื้อขายหุ้นใดหุ้นหนึ่งจนผิดปกติที่บริษัทหลักทรัพย์ใด บริษัทนั้นก็อาจจะมีความเสี่ยงไปด้วย ดังนั้นมาตรการที่ร่วมกันกำหนดจึงจะทำให้การป้องปรามการสร้างราคาเห็นผลชัดเจนขึ้น
นายกัมปนาท โลหเจริญวนิช นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า สมาคมเห็นด้วยที่บริษัทหลักทรัพย์ต้องมีส่วนร่วมในการสกัดกั้นการซื้อขายที่เป็นการสร้างราคาหรือการปั่นหุ้น เพื่อช่วยกันรักษาภาพพจน์ที่ดีของตลาดทุนไทย สมาคมจึงจะขอให้สมาชิกทุกรายให้ความร่วมมือดำเนินมาตรการที่เป็นผลจากการประชุมครั้งนี้
SECCยันพร้อมร่วมมือตลท.
นายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ ประธานกรรมการ บมจ.เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส หรือ SECC หนึ่งในบริษัทที่ถูกตลาดหลักทรัพย์สั่งห้ามซื้อขายหุ้นในลักษณะหักกลบราคาค่าซื้อกับราคาค่าขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกัน (Net Settlement) และห้ามสมาชิกให้ลูกค้ากู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Margin Trading) เนื่องจากพบความผิดปกติจากการเคลื่นอไหวของราคาหุ้น กล่าวว่า การสั่งห้ามเน็ตเซ็ทเทิ้ลเมนต์และมาร์จิ้นเทรดดิ้งถือว่าเป็นดุลพินิจของผู้ดูแล ผู้บริหารบริษัทยืนยันได้เพียงว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับราคาหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ทั้งนี้ บริษัทยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตามแผนการดำเนินงานเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ซึ่งหากราคาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเปรียบเทียบกับราคาสูงสุดที่เคยทำไว้ก็ถือว่าราคาไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินกว่าราคาสูงสุดเดิมมากนัก ขณะที่การขายหุ้นออกมาของผู้บริหารในช่วงที่ผ่านมาก็เป็นเพียงการขายทำกำไรหลังจากราคาเพิ่มขึ้นมาเท่านั้น
"การโอนหุ้นส่วนตัวในช่วงที่ผ่านมาจำนวน 7 ล้านหุ้น เป็นการโอนให้กับคนที่เคารพรวมทั้งญาติไม่ได้มีนัยสำคัญ ส่วนการปรับตัวเพิ่มขึ้นก็ได้มีการสอบถามหาสาเหตุแล้วก็ไม่ได้มีเหตุผลอะไรที่สนับสนุน" นายสมพงษ์กล่าว
ขาใหญ่ติงอย่าเลือกปฎิบัติ
นายชนะชัย ลีนะบรรจง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อีเอ็มซี จำกัด (มหาชน) หรือ EMC กล่าวว่า ยังไม่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ใหม่ของก.ล.ต. แต่เชื่อว่าหากจะต้องมีการลงลายมือชื่อทุกครั้งที่ส่งคำสั่งซื้อขายนั้น ในทางปฎิบัติอาจจะเป็นเรื่องที่ถือว่าทำได้ยากและคงเป็นเรื่องที่ไม่สะดวกกับการซื้อขายเนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่มีธุรกิจส่วนตัวจึงไม่น่าจะสะดวกที่จะต้องลงลายมือแม้ว่าจะผ่านเครื่องโทรสารก็ตาม
ทั้งนี้ การออกกฎระเบียบมาบังคับนั้น ก.ล.ต.ควรจะมีการประกาศให้ชัดเจน เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปในมาตรฐานเดียวกัน ไม่ทำให้นักลงทุนรู้สึกว่ามีการเลือกปฎิบัติ
อนึ่งก่อนหน้านี้ ตลาดหลักทรัพย์ได้เชิญผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ 8 รายซึ่งประกอบด้วยผู้บริหารจากบริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ ZMICO, บล.โกลเบล็ก, บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย), บล.ฟาร์อีสท์, บล.แอ๊ดคินซัน, บล.บัวหลวง, บล.ธนชาต และ บล.เคทีบี ร่วมหารือเพื่อหาวิธีการรวมถึงมาตรการที่ควรถูกนำมาใช้เพื่อสกัดกั้นการเข้ามาใช้ตลาดหุ้นเป็นช่องทางการในการหาผลประโยชน์
ทั้งนี้ มาตรการที่มักจะถูกนำมาดับร้อนในกรณีที่หุ้นใดหุ้นหนึ่งมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลงผิดไปจากสภาวะทางที่เป็นจริงคือ การสั่งห้ามซื้อขายเน็ตเซ็ทเทิ้ลเมนต์และมาร์จิ้นเทรดดิ้ง โดยหลายครั้งแม้ว่าตลาดหลักทรัพย์จะนำมาตรการดังกล่าวมาใช้ไม่ว่าจะเป็น 30 วันทำการหรือ 60 วันทำการก็ไม่สามารถหยุดความร้อนแรงของหุ้นนั้นๆได้
สำหรับหุ้นที่เคยรวมถึงยังโดนห้ามการซื้อขายในลักษณะดังกล่าว เช่น หุ้นบริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) หรือ BLIS, ใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญบมจ.บลิส-เทล หรือ BLISS-W1, หุ้นบมจ. อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง หรือ IEC, หุ้นบมจ. ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น หรือ LIVE, หุ้นบมจ. ทราฟฟิกคอร์นเนอร์โฮลดิ้งส์ หรือ TRAF,หรือหุ้นบมจ. แนเชอรัล พาร์ค หรือ N-PARK เป็นต้น
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ก.ล.ต. ร่วมกับสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ได้กำหนดมาตรการเพิ่มเติมเพื่อป้องปรามการปั่นหุ้น สร้างราคาหลักทรัพย์ โดยก.ล.ต.จะมีการประชุมร่วมสมาคมบล.เป็นรายไตรมาสเพื่อหารือเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การกำกับดูแลการประกอบธุรกิจ เพื่อให้มาตรการในการป้องปรามการปั่นหุ้นหรือสร้างราคาหลักทรัพย์มีประสิทธิผลมากขึ้น
ทั้งนี้ ได้มีการกำหนดแนวทางในการปฏิบัติประกอบด้วย 1. ก.ล.ต. จะเข้มงวดในการตรวจสอบ เพื่อให้ บล.ต้องจัดเก็บเอกสารหลักฐานการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ของลูกค้าอย่างครบถ้วน เช่น ใบคำสั่งซื้อขายจะต้องมีการลงเวลาและลายมือชื่อลูกค้า ซึ่งต้องเก็บใบคำสั่งซื้อขาย หรือโทรสาร ไว้อย่างน้อย 5 ปี
ขณะเดียวกัน หากเป็นการสั่งซื้อขายหรือให้คำแนะนำลูกค้าผ่านทางโทรศัพท์ต้องบันทึกเทปการสนทนาและเก็บรักษาเทปเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 1 เดือน และถ้ามีเรื่องร้องเรียน บล. ต้องเก็บเทปที่มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องไว้จนกว่าจะดำเนินการเรื่องร้องเรียนเสร็จสิ้น
2. กรณีที่ บล. ใดมีลูกค้าที่ซื้อขายกระจุกตัวอยู่ในหุ้นที่มีอัตราการซื้อขายหมุนเวียนต่อสัปดาห์สูงเกินระดับหนึ่ง (หุ้นที่มีชื่ออยู่ใน Turnover list ซึ่ง ก.ล.ต. มีการเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ทุกสัปดาห์) กำหนดให้บล. นั้นต้องรายงานภาวะการซื้อขายหุ้นดังกล่าวของลูกค้าต่อคณะกรรมการบริษัท รวมทั้งเสนอแผนการบริหารความเสี่ยงด้านต่าง ๆ ที่อาจเกิดจากการทำธุรกรรมปริมาณมากในหุ้นดังกล่าว ซึ่งได้แก่ ความเสี่ยงด้านความสามารถในการชำระราคาของลูกค้า และความเสี่ยงต่อชื่อเสียงของบริษัท เป็นต้น
ส่วนกรณีที่บล. มิได้ทำการวิเคราะห์เกี่ยวกับฐานะและการดำเนินงานของหุ้นดังกล่าว บล. ต้องจัดทำเอกสารเผยแพร่ที่แสดงถึงจุดยืนของ บล. ที่เตือนให้ลูกค้าระมัดระวังในการเข้าไปซื้อขายหุ้นนั้น โดยให้สมาคมกำหนดรูปแบบและข้อความของเอกสารดังกล่าว รวมทั้งต้องตรวจตราการทำงานของเจ้าหน้าที่การตลาดอย่างเข้มงวด รวมถึงกำชับเจ้าหน้าที่การตลาดในการให้คำแนะนำแก่ลูกค้าเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นนั้น
"การดำเนินการเพื่อป้องปรามการปั่นหุ้นจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะมอบภาระนี้ให้หน่วยงานกำกับดูแลแต่เพียงฝ่ายเดียวคงไม่สำเร็จอย่างรวดเร็ว การประชุมร่วมกับสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ในวันนี้จึงได้มีการหารือถึงมาตรการที่สมาคมและบริษัทหลักทรัพย์จะสามารถดำเนินการ เพื่อช่วยหยุดความร้อนแรงของหุ้นบางตัวที่ราคาและสภาพการซื้อขายผิดปกติ โดยไม่มีปัจจัยหรือเหตุผลอันสมควร" นายธีระชัยกล่าว
อย่างไรก็ตาม การแสดงจุดยืนของบริษัทหลักทรัพย์โดยเฉพาะการเตือนลูกค้าที่เข้าไปลงทุนในหุ้นที่มีความปกติถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากมีผู้ลงทุนกระจุกตัวซื้อขายหุ้นใดหุ้นหนึ่งจนผิดปกติที่บริษัทหลักทรัพย์ใด บริษัทนั้นก็อาจจะมีความเสี่ยงไปด้วย ดังนั้นมาตรการที่ร่วมกันกำหนดจึงจะทำให้การป้องปรามการสร้างราคาเห็นผลชัดเจนขึ้น
นายกัมปนาท โลหเจริญวนิช นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า สมาคมเห็นด้วยที่บริษัทหลักทรัพย์ต้องมีส่วนร่วมในการสกัดกั้นการซื้อขายที่เป็นการสร้างราคาหรือการปั่นหุ้น เพื่อช่วยกันรักษาภาพพจน์ที่ดีของตลาดทุนไทย สมาคมจึงจะขอให้สมาชิกทุกรายให้ความร่วมมือดำเนินมาตรการที่เป็นผลจากการประชุมครั้งนี้
SECCยันพร้อมร่วมมือตลท.
นายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ ประธานกรรมการ บมจ.เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส หรือ SECC หนึ่งในบริษัทที่ถูกตลาดหลักทรัพย์สั่งห้ามซื้อขายหุ้นในลักษณะหักกลบราคาค่าซื้อกับราคาค่าขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกัน (Net Settlement) และห้ามสมาชิกให้ลูกค้ากู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Margin Trading) เนื่องจากพบความผิดปกติจากการเคลื่นอไหวของราคาหุ้น กล่าวว่า การสั่งห้ามเน็ตเซ็ทเทิ้ลเมนต์และมาร์จิ้นเทรดดิ้งถือว่าเป็นดุลพินิจของผู้ดูแล ผู้บริหารบริษัทยืนยันได้เพียงว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับราคาหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ทั้งนี้ บริษัทยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตามแผนการดำเนินงานเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ซึ่งหากราคาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเปรียบเทียบกับราคาสูงสุดที่เคยทำไว้ก็ถือว่าราคาไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินกว่าราคาสูงสุดเดิมมากนัก ขณะที่การขายหุ้นออกมาของผู้บริหารในช่วงที่ผ่านมาก็เป็นเพียงการขายทำกำไรหลังจากราคาเพิ่มขึ้นมาเท่านั้น
"การโอนหุ้นส่วนตัวในช่วงที่ผ่านมาจำนวน 7 ล้านหุ้น เป็นการโอนให้กับคนที่เคารพรวมทั้งญาติไม่ได้มีนัยสำคัญ ส่วนการปรับตัวเพิ่มขึ้นก็ได้มีการสอบถามหาสาเหตุแล้วก็ไม่ได้มีเหตุผลอะไรที่สนับสนุน" นายสมพงษ์กล่าว
ขาใหญ่ติงอย่าเลือกปฎิบัติ
นายชนะชัย ลีนะบรรจง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อีเอ็มซี จำกัด (มหาชน) หรือ EMC กล่าวว่า ยังไม่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ใหม่ของก.ล.ต. แต่เชื่อว่าหากจะต้องมีการลงลายมือชื่อทุกครั้งที่ส่งคำสั่งซื้อขายนั้น ในทางปฎิบัติอาจจะเป็นเรื่องที่ถือว่าทำได้ยากและคงเป็นเรื่องที่ไม่สะดวกกับการซื้อขายเนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่มีธุรกิจส่วนตัวจึงไม่น่าจะสะดวกที่จะต้องลงลายมือแม้ว่าจะผ่านเครื่องโทรสารก็ตาม
ทั้งนี้ การออกกฎระเบียบมาบังคับนั้น ก.ล.ต.ควรจะมีการประกาศให้ชัดเจน เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปในมาตรฐานเดียวกัน ไม่ทำให้นักลงทุนรู้สึกว่ามีการเลือกปฎิบัติ
อนึ่งก่อนหน้านี้ ตลาดหลักทรัพย์ได้เชิญผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ 8 รายซึ่งประกอบด้วยผู้บริหารจากบริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ ZMICO, บล.โกลเบล็ก, บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย), บล.ฟาร์อีสท์, บล.แอ๊ดคินซัน, บล.บัวหลวง, บล.ธนชาต และ บล.เคทีบี ร่วมหารือเพื่อหาวิธีการรวมถึงมาตรการที่ควรถูกนำมาใช้เพื่อสกัดกั้นการเข้ามาใช้ตลาดหุ้นเป็นช่องทางการในการหาผลประโยชน์
ทั้งนี้ มาตรการที่มักจะถูกนำมาดับร้อนในกรณีที่หุ้นใดหุ้นหนึ่งมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลงผิดไปจากสภาวะทางที่เป็นจริงคือ การสั่งห้ามซื้อขายเน็ตเซ็ทเทิ้ลเมนต์และมาร์จิ้นเทรดดิ้ง โดยหลายครั้งแม้ว่าตลาดหลักทรัพย์จะนำมาตรการดังกล่าวมาใช้ไม่ว่าจะเป็น 30 วันทำการหรือ 60 วันทำการก็ไม่สามารถหยุดความร้อนแรงของหุ้นนั้นๆได้
สำหรับหุ้นที่เคยรวมถึงยังโดนห้ามการซื้อขายในลักษณะดังกล่าว เช่น หุ้นบริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) หรือ BLIS, ใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญบมจ.บลิส-เทล หรือ BLISS-W1, หุ้นบมจ. อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง หรือ IEC, หุ้นบมจ. ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น หรือ LIVE, หุ้นบมจ. ทราฟฟิกคอร์นเนอร์โฮลดิ้งส์ หรือ TRAF,หรือหุ้นบมจ. แนเชอรัล พาร์ค หรือ N-PARK เป็นต้น
