ผบ.ตร.สั่งการกองปรามปราบเคลียร์คดีคนร้ายบุกตลาดหลักทรัพย์ ทำร้ายมือปราบปั่นหุ้น “สุภกิจ จิระประดิษฐกุล” ด้าน “ปกรณ์” เชื่อ มีความเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่หลังในช่วงที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ออกมาตรการสกัดหุ้นปั่นเพียบ ขณะที่รองผู้บังคับการกองปราบ ระบุ จะตรวจสอบเฉพาะคคีทำร้ายร่างกายเท่านั้น ส่วน “ก้องเกียรติ” ย้ำตลาดทุนไม่ใช่บ่อนการพนัน ขณะที่ขาใหญ่ ชี้ มีคนเสียประโยชน์จากมาตรการห้ามเน็ตฯ-มาร์จินเพียบ
นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงกรณีที่ นายสุภกิจ จิระประดิษฐกุล ผู้ช่วยผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ สายงานกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์ถูกทำร้าย เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2550 ที่ผ่านมา ว่า เรื่องดังกล่าวเชื่อว่ามีความเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา ตลท.มีการเข้ามาดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งมีการสั่งห้ามซื้อขายในลักษณะหักกลบราคาค่าซื้อกับราคาค่าขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกัน (Net Settlement) และห้ามสมาชิกให้ลูกค้ากู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Margin Trading) ของหลักทรัพย์หลายบริษัท
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างความสบายใจให้กับพนักงานของตลาดหลักทรัพย์ ได้มีการคำสั่งให้มีการเพิ่มระบบความรักษาความปลอดภัย โดยอยากให้พนักงานของ ตลท.ทุกคนยึดมั่นในหน้าที่ และปฏิบัติหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบให้ดี ไม่ว่าอะไรจะเกิดปราบปรามจะร่วมสอบสวนสืบสวนในกรณีที่เกี่ยวข้องกับการทำร้ายร่างกายเท่านั้น
ขณะที่ เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.สมยศ พรหมนิ่ม รองผู้บังคับการปราบปราม ได้เดินทางมายังตลาดหลักทรัพย์ เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมในกรณีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของตลาดหลักทรัพย์ถูกทำร้าย ซึ่งได้มีการแจ้งความเพื่อให้มีการดำเนินคดีในเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยกองปราบปรามจะเข้ามาตรวจสอบเพิ่มเติมในดคีที่เกี่ยวข้องกับการทำร้ายร่างกายเท่านั้น
ทั้งนี้ ในส่วนของประเด็นเรื่องการตรวจสอบการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ผิดปกติ ถือว่าไม่ใช้หน้าที่ของกองปราบปราม จึงไม่สามารถให้รายละเอียดในเรื่องดังกล่าวได้ โดยหลังจากวันนี้จะมีการเดินทางกลับมาเพื่อสอบสวนเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าว พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีการคำสั่งให้กองปราบปรามเข้ามาดูแลในเรื่องดังกล่าว
“ในฐานะของตำรวจกองปราบปราม เราจะเข้ามาดูแลในเรื่องการถูกทำร้ายเท่านั้น ซึ่งในเบื้องต้นข้อมูลจากกล้องวงจรปิด ไม่สามารถให้รายละเอียดได้ทำให้ไม่เห็นหน้าคนร้าย ส่วนการตรวจสอบในเรื่องคดีทางเศรษฐกิจ รวมถึงการตรวจสอบการซื้อขายที่ผิดปกติ ถือว่ากองปราบปรามไม่มีหน้าที่” พ.ต.อ.สมยศ กล่าว
นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า เรื่องการตรวจสอบการซื้อขายหลักทรัพย์ ถือว่าเป็นการทำงานของทีมงานตรวจสอบ ไม่ใช่เป็นการทำงานเพียงบุคคลคนเดียว ขณะที่การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์อยากให้มองว่าเป็นการลงทุนไม่ใช่เป็นบ่อนการพนันอย่างที่หลายคนคิด
แหล่งข่าวจากนักลงทุนรายใหญ่ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นผลสืบเนื่องมาจากกรณีคำสั่งห้ามเน็ตเซทเทิลเมนต์ และมาร์จิน เทรดดิ้ง ของตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากมาตรการดังกล่าวถือว่าส่งผลกระทบต่อนักลงทุนรายใหญ่หลายรายที่มีพฤติกรรมชอบลงทุนในหุ้นเก็งกำไร โดยในช่วงที่ผ่านมาหุ้นที่ถือว่าถูกจำตามองเป็นพิเศษ คือ หุ้น บมจ.ทราฟฟิกคอร์นเนอร์ โฮลดิ้งส์ หรือ TRAF เนื่องจากมีการสร้างราคาจนผิดปกติค่อนข้างมาก โดยราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 1 บาท กว่าไปอยู่ที่ 20 บาทกว่า
ทั้งนี้ นักลงทุนรายใหญ่ที่มีกระแสข่าวลือว่ามีการเข้าไปลงทุนในช่วงที่ผ่านมา คือ นายสอง วัชรศรีโรจน์ หรือที่ในวงการเรียกว่า “เสี่ยสอง” ขณะเดียวกัน มีกระแสข่าวว่า หลังจาก ตลท.ใช้มาตรการดังกล่าวนักลงทุนรายใหญ่บางรายเปลี่ยนมารับคำสั่งซื้อขายหุ้นนอกตลาดแทน โดยบางรายมีการการันตีราคาขั้นต่ำ เพื่อนำเงินไปลงทุนในการปั่นหุ้นบริษัทอื่นแทน
นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงกรณีที่ นายสุภกิจ จิระประดิษฐกุล ผู้ช่วยผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ สายงานกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์ถูกทำร้าย เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2550 ที่ผ่านมา ว่า เรื่องดังกล่าวเชื่อว่ามีความเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา ตลท.มีการเข้ามาดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งมีการสั่งห้ามซื้อขายในลักษณะหักกลบราคาค่าซื้อกับราคาค่าขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกัน (Net Settlement) และห้ามสมาชิกให้ลูกค้ากู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Margin Trading) ของหลักทรัพย์หลายบริษัท
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างความสบายใจให้กับพนักงานของตลาดหลักทรัพย์ ได้มีการคำสั่งให้มีการเพิ่มระบบความรักษาความปลอดภัย โดยอยากให้พนักงานของ ตลท.ทุกคนยึดมั่นในหน้าที่ และปฏิบัติหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบให้ดี ไม่ว่าอะไรจะเกิดปราบปรามจะร่วมสอบสวนสืบสวนในกรณีที่เกี่ยวข้องกับการทำร้ายร่างกายเท่านั้น
ขณะที่ เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.สมยศ พรหมนิ่ม รองผู้บังคับการปราบปราม ได้เดินทางมายังตลาดหลักทรัพย์ เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมในกรณีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของตลาดหลักทรัพย์ถูกทำร้าย ซึ่งได้มีการแจ้งความเพื่อให้มีการดำเนินคดีในเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยกองปราบปรามจะเข้ามาตรวจสอบเพิ่มเติมในดคีที่เกี่ยวข้องกับการทำร้ายร่างกายเท่านั้น
ทั้งนี้ ในส่วนของประเด็นเรื่องการตรวจสอบการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ผิดปกติ ถือว่าไม่ใช้หน้าที่ของกองปราบปราม จึงไม่สามารถให้รายละเอียดในเรื่องดังกล่าวได้ โดยหลังจากวันนี้จะมีการเดินทางกลับมาเพื่อสอบสวนเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าว พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีการคำสั่งให้กองปราบปรามเข้ามาดูแลในเรื่องดังกล่าว
“ในฐานะของตำรวจกองปราบปราม เราจะเข้ามาดูแลในเรื่องการถูกทำร้ายเท่านั้น ซึ่งในเบื้องต้นข้อมูลจากกล้องวงจรปิด ไม่สามารถให้รายละเอียดได้ทำให้ไม่เห็นหน้าคนร้าย ส่วนการตรวจสอบในเรื่องคดีทางเศรษฐกิจ รวมถึงการตรวจสอบการซื้อขายที่ผิดปกติ ถือว่ากองปราบปรามไม่มีหน้าที่” พ.ต.อ.สมยศ กล่าว
นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า เรื่องการตรวจสอบการซื้อขายหลักทรัพย์ ถือว่าเป็นการทำงานของทีมงานตรวจสอบ ไม่ใช่เป็นการทำงานเพียงบุคคลคนเดียว ขณะที่การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์อยากให้มองว่าเป็นการลงทุนไม่ใช่เป็นบ่อนการพนันอย่างที่หลายคนคิด
แหล่งข่าวจากนักลงทุนรายใหญ่ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นผลสืบเนื่องมาจากกรณีคำสั่งห้ามเน็ตเซทเทิลเมนต์ และมาร์จิน เทรดดิ้ง ของตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากมาตรการดังกล่าวถือว่าส่งผลกระทบต่อนักลงทุนรายใหญ่หลายรายที่มีพฤติกรรมชอบลงทุนในหุ้นเก็งกำไร โดยในช่วงที่ผ่านมาหุ้นที่ถือว่าถูกจำตามองเป็นพิเศษ คือ หุ้น บมจ.ทราฟฟิกคอร์นเนอร์ โฮลดิ้งส์ หรือ TRAF เนื่องจากมีการสร้างราคาจนผิดปกติค่อนข้างมาก โดยราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 1 บาท กว่าไปอยู่ที่ 20 บาทกว่า
ทั้งนี้ นักลงทุนรายใหญ่ที่มีกระแสข่าวลือว่ามีการเข้าไปลงทุนในช่วงที่ผ่านมา คือ นายสอง วัชรศรีโรจน์ หรือที่ในวงการเรียกว่า “เสี่ยสอง” ขณะเดียวกัน มีกระแสข่าวว่า หลังจาก ตลท.ใช้มาตรการดังกล่าวนักลงทุนรายใหญ่บางรายเปลี่ยนมารับคำสั่งซื้อขายหุ้นนอกตลาดแทน โดยบางรายมีการการันตีราคาขั้นต่ำ เพื่อนำเงินไปลงทุนในการปั่นหุ้นบริษัทอื่นแทน