ภาวะตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายซึมลงจากแรงขายทำกำไร เพราะราคาหุ้นหลายตัวขึ้นสูง โดยยังไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับที่ชัดเจน นอกจากนี้ มาตรการสกัดเก็งกำไรหุ้นปั่น ก็เป็นข่าวที่ทำให้รายย่อยเทขายออกมามากในวันนี้ ส่วนมาตรการกันสำรอง 30% มองว่า รมว.คลังคงจะไม่กล้าพอที่จะสั่งยกเลิกในระยะนี้ พร้อมให้กรอบแกว่งพรุ่งนี้ไว้ที่ 820-848 จุด
ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันนี้(14 ก.พ.) ดัชนีปิดตลาดช่วงบ่ายที่ระดับ 832.11 จุด เพิ่มขึ้น 2.70 จุด เปลี่ยนแปลง +0.33% มูลค่าการซื้อขาย 29,646.35 ล้านบาท สำหรับบรรยากาศในการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีสามารถยืนในแดนบวกได้ตลอดทั้งวัน โดยดัชนีขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 844.83 จุด ส่วนจุดต่ำสุดอยู่ที่ 829.52 จุด
หลักทรัพย์เปลี่ยนแปลง วันนี้ เพิ่มขึ้น 148 หลักทรัพย์ ลดลง 158 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 137 หลักทรัพย์ ด้านสัดส่วนการลงทุน นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,115.96 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 77.50 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 2,193.46 ล้านบาท
นักวิเคราะห์ ชี้ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ได้พุ่งขึ้นกว่า 10 จุด เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค ซึ่งรับปัจจัยบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯปรับตัวค่อนข้างดี แต่ในช่วงบ่ายเริ่มมีแรงขายทำกำไรเข้ามา ส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทยอ่อนตัวลงจากช่วงเช้า แต่ยังสามารถยืนอยู่ในแดนบวกได้
ทั้งนี้ คงเป็นผลจากกระแสข่าวที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ประชุมร่วมกับสมาคมบริษัทหลักทรัพย์(โบรกเกอร์) และมีการประกาศกฎระเบียบคุมเข้มการซื้อขายหุ้น เพื่อสกัดการสร้างราคาและการปั่นหุ้น นอกจากนี้ ยังมีแรงเทขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มแบงก์ และอาจจะส่งผลให้ตลาดเกิดการพักตัวในวันพรุ่งนี้ อย่างไรก็ตามคงจะต้องรอดูสถานการณ์อีกที ซึ่งช่วงนี้เชื่อว่าตลาดน่าจะผันผวน
สำหรับปัจจัยภายในประเทศขณะนี้ ประเมินว่า การยกเลิกมาตรการสำรอง 30% คงจะไม่ง่ายนักที่ยกเลิกในเร็ววันนี้ เพราะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคงไม่ผลีผลามตัดสินใจ ตามที่เคยประกาศหาเสียงเอาไว้
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับ ได้แก่ PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,047.49 ล้านบาท ปิดที่ 332.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท , PTTAR มูลค่าการซื้อขาย 2,104.87 ล้านบาท ปิดที่ 39.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท , TTA มูลค่าการซื้อขาย 1,938.53 ล้านบาท ปิดที่ 47.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท , PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,466.25 ล้านบาท ปิดที่ 153.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท , TOP มูลค่าการซื้อขาย 1,394.75 ล้านบาท ปิดที่ 77.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันนี้(14 ก.พ.) ดัชนีปิดตลาดช่วงบ่ายที่ระดับ 832.11 จุด เพิ่มขึ้น 2.70 จุด เปลี่ยนแปลง +0.33% มูลค่าการซื้อขาย 29,646.35 ล้านบาท สำหรับบรรยากาศในการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีสามารถยืนในแดนบวกได้ตลอดทั้งวัน โดยดัชนีขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 844.83 จุด ส่วนจุดต่ำสุดอยู่ที่ 829.52 จุด
หลักทรัพย์เปลี่ยนแปลง วันนี้ เพิ่มขึ้น 148 หลักทรัพย์ ลดลง 158 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 137 หลักทรัพย์ ด้านสัดส่วนการลงทุน นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,115.96 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 77.50 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 2,193.46 ล้านบาท
นักวิเคราะห์ ชี้ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ได้พุ่งขึ้นกว่า 10 จุด เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค ซึ่งรับปัจจัยบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯปรับตัวค่อนข้างดี แต่ในช่วงบ่ายเริ่มมีแรงขายทำกำไรเข้ามา ส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทยอ่อนตัวลงจากช่วงเช้า แต่ยังสามารถยืนอยู่ในแดนบวกได้
ทั้งนี้ คงเป็นผลจากกระแสข่าวที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ประชุมร่วมกับสมาคมบริษัทหลักทรัพย์(โบรกเกอร์) และมีการประกาศกฎระเบียบคุมเข้มการซื้อขายหุ้น เพื่อสกัดการสร้างราคาและการปั่นหุ้น นอกจากนี้ ยังมีแรงเทขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มแบงก์ และอาจจะส่งผลให้ตลาดเกิดการพักตัวในวันพรุ่งนี้ อย่างไรก็ตามคงจะต้องรอดูสถานการณ์อีกที ซึ่งช่วงนี้เชื่อว่าตลาดน่าจะผันผวน
สำหรับปัจจัยภายในประเทศขณะนี้ ประเมินว่า การยกเลิกมาตรการสำรอง 30% คงจะไม่ง่ายนักที่ยกเลิกในเร็ววันนี้ เพราะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคงไม่ผลีผลามตัดสินใจ ตามที่เคยประกาศหาเสียงเอาไว้
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับ ได้แก่ PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,047.49 ล้านบาท ปิดที่ 332.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท , PTTAR มูลค่าการซื้อขาย 2,104.87 ล้านบาท ปิดที่ 39.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท , TTA มูลค่าการซื้อขาย 1,938.53 ล้านบาท ปิดที่ 47.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท , PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,466.25 ล้านบาท ปิดที่ 153.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท , TOP มูลค่าการซื้อขาย 1,394.75 ล้านบาท ปิดที่ 77.50 บาท ลดลง 0.50 บาท