xs
xsm
sm
md
lg

คาดบาทแข็งโป๊ก จับตาส่งออกเทขาย-ธปท.แทรกแซงตลาดฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินเงินบาทสัปดาห์นี้แข็งค่าต่อเนื่องในกรอบ 33.20-33.50 บาทต่อดอลล์ ระบุปัจจัยที่ต้องจับตาผู้ส่งออกเทขาย การแทรกแซงจากแบงก์ชาติ และความคืบหน้าทางการเมือง ขณะที่ทิศทางดอลล์ยังอ่อนและขึ้นอยู่กับตัวเลขเศรษฐกิจที่จะทยอยออก

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดแนวโน้มเงินบาทในประเทศสัปดาห์นี้อาจมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 33.20-33.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยปัจจัยที่ควรจับตาได้แก่ แรงขายเงินดอลลาร์สหรัฐของผู้ส่งออก การเคลื่อนไหวของเงินทุนต่างชาติ สัญญาณการเข้าแทรกแซงตลาดของธปท. และความคืบหน้าทางการเมือง ตลอดจนทิศทางของเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะขึ้นกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่สำคัญ ประกอบด้วยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ ข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่ง เดือนพฤศจิกายน และดัชนีราคานำเข้าและส่งออก เดือนธันวาคม

สำหรับในสัปดาห์ที่ผ่านมาเงินบาทในประเทศ (Onshore) แข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยได้รับแรงหนุนอย่างต่อเนื่องจากแรงขายเงินดอลลาร์สหรัฐของผู้ส่งออก และมุมมองเชิงบวกที่ว่าการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่จะนำไปสู่การใช้นโยบายที่เอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ การแข็งค่าของเงินบาทยังเป็นไปตามทิศทางการแข็งค่าของสกุลเงินในภูมิภาค โดยเงินดอลลาร์สิงคโปร์ และเงินริงกิตแข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี ในขณะที่ เงินดอลลาร์สหรัฐ อ่อนแอลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอีกด้วย สำหรับในวันศุกร์ที่ผ่านมาเงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 33.43 (ตลาดเอเชีย) เทียบกับระดับ 33.68 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า

ส่วนการเคลื่อนไหวของเงินเยนและเงินยูโรสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินเยนแข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยเงินเยนได้รับแรงหนุนจากการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของนักลงทุน ขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐถูกกดดันจากกระแสการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดหลังจากดัชนีภาคการผลิตจัดทำโดยสถาบันจัดการอุปทาน (ISM) ประจำเดือนธันวาคม 2550 ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งแสดงถึงการหดตัวลงของภาคการผลิต ทำให้ยิ่งเพิ่มความวิตกต่อภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวของสหรัฐฯ นอกจากนี้ เงินดอลลาร์สหรัฐยังเผชิญแรงเทขายท่ามกลางการทะยานขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของราคาน้ำมันในตลาดโลกอีกด้วย โดยวันศุกร์ที่ผ่านเงินเยนปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 109.47 (ตลาดยุโรป) หลังจากทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ที่ระดับ 108.22 ในวันพฤหัสบดี เทียบกับระดับ 112.55 เยนต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า ขณะที่นักลงทุนกำลังรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมของสหรัฐฯ ที่จะประกาศออกมาในช่วงตลาดนิวยอร์ก

และเงินยูโรแข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 1 เดือนเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐโดยเงินยูโรอ่อนค่าลงในช่วงต้นสัปดาห์โดยถูกกดดันจากแรงขายทำกำไรในช่วงสิ้นปี 2550 อย่างไรก็ตาม เงินยูโรฟื้นตัวขึ้นในช่วงต่อมา และแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 เดือน เนื่องจากเงินดอลลาร์ฯ เผชิญแรงเทขายอย่างหนักท่ามกลางกระแสการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในช่วงปลายเดือนมกราคม 2551 หลังจากตัวเลขภาคการผลิตที่อ่อนแอได้ตอกย้ำความกังวลต่อภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม เงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับเงินเยนตามการปิดสถานะการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงของนักลงทุน สำหรับในวันศุกร์ เงินยูโรปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 1.4707 (ตลาดยุโรป) เทียบกับระดับ 1.4715 ดอลลาร์ฯ ต่อยูโร ในวันศุกร์ก่อนหน้า ขณะที่นักลงทุนรอการประกาศตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ในช่วงตลาดนิวยอร์ก
กำลังโหลดความคิดเห็น