ปตท.-บางจาก ประสานเสียง ยันจะไม่มีการปรับลดราคาน้ำมันใน 1-2 วันนี้ ตามที่กระทรวงพลังงานส่งสัญญาณ โดยไม่มีการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนแล้ว ผู้บริหารอ้างราคาในโลกตลาดยังผันผวน ขณะที่ราคาในตลาดโลกปรับลงต่อเนื่อง ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 88 ดอลลาร์/บาร์เรล
วันนี้ (6 ก.พ.) นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่การตลาดขายปลีก กลุ่มธุรกิจน้ำมันบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า ปตท.จะยังไม่พิจารณาปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันลงในระยะ 1-2 วันนี้ เนื่องจากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังมีความผันผวนสูง โดยเมื่อคืนนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก ทำให้ค่าการตลาดที่ผู้ค้าน้ำมันได้รับกลับมาอยู่ในระดับที่เหมาะสม
ด้าน นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยว่า ปั๊มบางจากทั่วประเทศ ก็จะยังไม่มีแผนที่จะปรับราคาน้ำมันขายปลีกในสัปดาห์นี้เช่นกัน ซึ่งการพิจารณาปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศนั้น เราจะต้องดูสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกและตลาดสิงคโปร์ โดยขณะนี้เห็นว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกยังมีความผันผวน
สำหรับภาวะราคาน้ำมันในตลาดโลก วันนี้ ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 1.61 ดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ หลังจากสหรัฐฯเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตที่ลดลงเกินความคาดหมายในเดือน ม.ค.ซึ่งนักลงทุนมองว่าข้อมูลดังกล่าวสะท้อนถึงเศรษฐกิจสหรัฐฯที่กำลังชะลอตัวลงอย่างมาก และอาจทำความต้องการพลังงานลดลงด้วย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือน มี.ค.ปิดร่วงลง 1.61 ดอลลาร์ แตะระดับ 88.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือน มี.ค.ปิดลดลง 3.68 เซนต์ แตะระดับ 2.4465 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือน มี.ค.ปิดรูดลง 4.7 เซนต์ แตะระดับ 2.2647 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือน มี.ค.ปิดร่วงลง 1.65 ดอลลาร์ แตะระดับ 88.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ไอเอสเอ็ม) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของกิจกรรมเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐฯ ในเดือน ม.ค.ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 50 จุด และเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน มี.ค.2546 อีกทั้งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น
ด้านราคาน้ำมันในตลาดสิงคโปร์ เช้าวันนี้ ปรับตัวลดลงหลังจากข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐฯและยุโรปได้จุดกระแสความวิตกกังวลว่าอุปสงค์พลังงานจะชะลอตัวลง
สำนักต่างประเทศ รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน มี.ค.ซึ่งได้มีการซื้อขายที่ตลาดสิงคโปร์ร่วงลง 25 เซนต์สู่ระดับ 88.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากที่ร่วงลง 1.61 ดอลลาร์ปิดที่ 88.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อวานนี้ หลังจากที่ผลสำรวจส่วนใหญ่ระบุว่า ภาคการบริการของสหรัฐในเดือน ม.ค.ชะลอตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 5 ปี
ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) มีมติในการประชุมให้คงกำลังการผลิตเท่าเดิมที่ระดับ 29.67 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยรัฐมนตรีน้ำมันของลิเบียและกาตาร์กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ว่า โอเปกต้องติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นก่อนที่จะทำการตัดสินใจใดๆ ในการประชุมเดือน มี.ค.นี้
ด้านสำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) ได้ออกมาวิจารณ์กลุ่มโอเปกที่ไม่ยอมปรับขึ้นเพดานการผลิตว่า เป็นการเพิ่มแรงกดดันให้กับเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในภาวะเปราะบางอยู่แล้ว ในขณะที่อุปทานน้ำมันดิบยังคงอยู่ในระดับที่ตึงตัวมาก
ก่อนหน้านี้ นายวีระพล จีรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ผู้ประกอบการค้าน้ำมันจะตัดสินใจลดราคาน้ำมันทุกประเภทลงลิตรละ 40 สตางค์ ภายใน 1-2 วันนี้ หากราคาน้ำมันในตลาดสิงคโปร์ทรงตัว และไม่ปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบตลาดโดย เนื่องจากปัจจุบันค่าการตลาดน้ำมันในส่วนน้ำมันดีเซลอยู่ในระดับลิตรละ 1.5 บาท กลุ่มน้ำมันเบนซินลิตรละ 2 บาท
นอกจากนี้ กระทรวงพลังงาน ยังไม่มีแผนเก็บเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากระดับที่จัดเก็บขณะนี้เป็นอัตราที่เหมาะสม และมีเงินไหลเข้ากองทุนประมาณเดือนละ 1,000 ล้านบาท คาดว่าจะทำให้เงินกองทุนน้ำมันฯ อยู่ในระดับที่ตั้งเป้าหมายไว้ 10,000-13,000 ล้านบาท ภายในเดือน ต.ค.นี้