“โจ ณัฐวุฒิ” นักชกอินดี้ วัย 34 ปี จากเมืองย่าโมโคราช พร้อมคืนสังเวียนมวยไทยในรอบ 1 ปี 5 เดือน ปะทะ “ลุค ลิสซีย์” นักมวยวัย 27 ปี ดีกรีตัวท็อปของสหรัฐอเมริกา ที่จะมาเปิดตัวครั้งแรกบนสังเวียนระดับโลก โดยจะสู้กันภายใต้กติกามวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) ในศึก ONE Fight Night 17 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในช่วงเวลาไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับเวลา 08.00 น. ของวันเสาร์ที่ 9 ธ.ค.66
ชื่อของ “โจ ณัฐวุฒิ” กลับมาถูกพูดถึงอย่างหนาหูทั้งจากหน้าสื่อและคอกีฬาการต่อสู้ทั่วประเทศอีกครั้ง หลังระเบิดฟอร์มยืนแลกอาวุธกับ “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ได้อย่างน่าทึ่งในกติกาคิกบ็อกซิ่ง ศึก ONE Fight Night 15 เมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา จนได้รับเสียงชื่นชมจากแฟน ๆ อย่างล้นหลาม ซึ่งเจ้าตัวก็แฮปปี้มีความสุขทั้งกับผลงานและบรรยากาศของสนามในวันนั้นเช่นกัน
“ไฟต์ล่าสุดกับ ตะวันฉาย เป็นการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมและสนุกมากครับ เวลาเราออกอาวุธ คนก็จะเชียร์เรา เวลาน้อง ตะวันฉาย ออกอาวุธ คนก็จะเชียร์น้องด้วยเช่นกัน แฟน ๆ ในสนามต่างเชียร์เราทั้งคู่มันมาก แม้ผมจะรู้ตัวล่วงหน้าในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แต่ผมก็สามารถทำผลงานได้ดีกว่าที่คาดเอาไว้ เราทั้งคู่ใส่กันเต็มร้อยบนสังเวียน จนทำให้ผลลัพธ์มันออกมาน่าทึ่งและทำให้ทุกคนชื่นชอบไฟต์นี้มาก”
หลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในไฟต์ดังกล่าว ทำให้ “โจ” ได้รับโอกาสขึ้นสังเวียนไฟต์ต่อไปอย่างรวดเร็ว แต่ครั้งนี้จะกลับมาโชว์ฝีมือในกติกามวยไทยเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี 5 เดือน โดยต้องพบกับนักชกชื่อดังชาวอเมริกัน อย่าง “ลุค ลิสชีย์” ที่เข้ามาเสียบแทนคู่ชกเดิมอย่าง "นิคลาส ลาร์เซน" ซึ่งขอถอนตัวไป แต่สำหรับ “โจ” แล้ว การเปลี่ยนคู่ชกดูเหมือนจะไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด
“การเปลี่ยนคู่ชก ไม่ทำให้มีปัญหาตอนซ้อมนะครับ เพราะทั้งผมและ ลุค ต่างยังพอมีเวลาเก็บตัวซ้อมแบบเต็มที่เหมือนกัน ส่วน ลุค เท่าที่ผมดูมา เขาเป็นนักมวยที่เก่งและโด่งดังมากที่อเมริกา มีชั้นเชิง มีความเจ้าเล่ห์ หลอกล่อเก่ง แต่ก็ต้องรอดูแล้วกันว่า เขาจะหลอกล่อผมได้หรือเปล่า”
การกลับมาโชว์ฝีไม้ลายมือในกติกามวยไทย ครั้งนี้ “โจ” รับประกันแฟนมวยจะได้เห็นศาสตร์แห่งอาวุธทั้งแปดอย่างครบเครื่องจากตนอย่างแน่นอน โดยขอมุ่งมั่นตั้งใจทำหน้าที่บนสังเวียนให้ออกมาดีที่สุด เพื่อมอบความสนุกตื่นเต้นเร้าใจสู่สายตาแฟนกีฬาการต่อสู้ทั่วโลกที่เฝ้ารอดูอยู่
“สำหรับไฟต์นี้ที่เป็นกติกามวยไทย แน่นอนว่าผมเตรียมอาวุธมาเต็มที่ นอกจากจะเน้นเตะเยอะ ต่อยเยอะ ตามสไตล์แล้ว ก็จะเพิ่มเติมอาวุธศอกและแทงเข่าเข้ามาด้วยครับ ผมจะขึ้นไปทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ทำให้มันเต็มร้อย ส่วนผลแพ้ชนะก็ค่อยมาว่ากันอีกที และที่แน่ ๆ ไฟต์นี้ผมพร้อมจะมอบความสนุกให้ทุกคนเหมือนเดิมครับ รอชมกันได้เลย”
แฟนกีฬาสามารถจองบัตรเข้าชมศึก ONE Fight Night 17 ในสนามผ่านทางTHAI TICKET MAJOR และติดตามข่าวสารอัปเดตของศึกนี้ได้ที่เฟซบุ๊กONE Championship Thailand เว็บไซต์ONEFC.com และอินสตาแกรมONEChampTh
