ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ...”พิชิตสมองเสื่อมด้วยยาแก้ไอ” / พลโทนายแพทย์ สมศักดิ์ เถกิงเกียรติ

คอลัมน์ “Golf Healing” โดย “พลโทนายแพทย์ สมศักดิ์ เถกิงเกียรติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกประจำโรงพยาบาลพระมงกุฎ และ โรงพยาบาลรามคำแหง มีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยมากกว่า 30 ปี somsak_doctor@hotmail.com”

“หมอๆ เห็น “หมอดื้อ” บอกว่าเดี๋ยวนี้เค้าเอายาแก้ไอมาใช้กับโรคสมองเสื่อมได้ผลดี จริงไหม?” “แหม!เฮียนี่ทันสมัยนะ อาจารย์ธีระวัฒน์ ท่านเพิ่งโพสต์ข่าวดีนี้เมื่อเช้าเอง” พี่หมอตอบข้อสงสัยเฮีย “แสดงว่าเรื่องจริงใช่ไหมครับ ไม่ใช่ข่าวมั่วนะพี่หมอ” เจ้าเก่งแสดงความตื่นเต้นกับข่าวนี้ “พอดีผมใช้ยาแก้ไอบ่อยๆ สมองคงเสื่อมช้าใช่ไหมครับ?” “ยาคนละตัวกันโว๊ยไอ้เก่ง อย่าเพิ่งดีใจ” “อ้าว!มิน่า ผมกินแล้วมึนหัว ง่วงนอนตลอด”

เผยข่าว(โคตร)ดี สถาบันประสาทวิทยาอังกฤษ (University College of London) ประกาศความสำเร็จในการใช้ยาแก้ไอ Ambroxol รักษาโรคสมองเสื่อม

เรื่องนี้เปิดเผยโดย นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมองโรงพยาบาลจุฬาฯ โพสต์เฟสบุ๊คหัวข้อ “พิชิตสมองเสื่อมด้วยยาแก้ไอ” ดังต่อไปนี้

-พิชิตสมองเสื่อมด้วยยาแก้ไอ เป็นเรื่องจริงไม่อิงนิยาย ถือว่าเป็นข่าวดีในปี 2023 นี้ และยังมีอีกหลายเรื่องในการพิชิตสมองเสื่อม ซึ่งเป็นข่าวดีที่จะเรียนให้ทราบในอันดับต่อๆไป ทั้งนี้ต้องรู้เร็วตั้งแต่ยังไม่มีอาการ หรืออาการเพียงน้อยนิด ก็สามารถป้องกันชะลอและรักษาให้กลับมาปกติหรือเกือบปกติได้

ปัจจุบันเราสามารถตรวจหาโรคสมองเสื่อม รวมทั้งโรคพาร์กินสันหรืออัลไซเมอร์ ซึ่งเกิดจากโปรตีนพิษบิดเกลียว(misfolded protein) ได้จากการตรวจเลือดได้แล้ว โดยไม่จำเป็นต้องเจาะน้ำไขสันหลังหรือทำMRI ร่วมกับการตรวจทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์เพ็ทสแกน

ส่วนวิธีป้องกันไม่ให้เกิดอาการสมองเสื่อมได้แก่ การควบคุมอาหารเข้าใกล้มังสวิรัติ งดแป้ง งดเนื้อสัตว์บกยกเว้นปลาและโปรตีนเพิ่มจากถั่ว และบริหารสมองโยเน้นกิจกรรมที่มีการใช้ความคิดมีการวางแผน เช่น เล่นไพ่กินเงิน เต้นรำกับคู่เต้น ร้องเพลงใหม่ให้ไม่คร่อมจังหวะและเสียงไม่หลง ส่วนการออกกำลังกายต้องทำอย่างสม่ำเสมอ ไม่นั่งเนือยนิ่งเฉยๆ รวมทั้งการตากแดดซึ่งดีกว่ากินvitD

การปฏิบัติตนเหล่านี้ ทำได้โดยไม่เสียเงิน และต่อจากนี้ก็สามารถควบคู่ไปกับการใช้ยาพื้นๆที่ใช้กันมานานในจุดประสงค์อื่น เช่น ยาAmbroxol ซึ่งเป็นยาละลายเสมหะแก้ไอ

ทั้งนี้ยา Ambroxol สามารถที่จะซึมผ่านเข้าสมองไปช่วยให้เซลล์มีการกำจัดขยะโปรตีนทั้งหลายออกไปซึ่งในกรณีของโรคพาร์กินสันก็คือการกำจัดโปรตีน Alpha Synuclein ออกไป โดยยาแก้ไอดังกล่าวแพทย์จะเป็นผู้กำหนดขนาดของยาและวิธีการกิน

กล่าวโดยสรุป ขณะนี้การพิชิตโรคสมองเสื่อมไม่ใช่เป็นเรื่องไกลเกินเอื้อม และที่ต้องไม่ลืมก็คือ การที่ต้องกำจัดหรือระงับการอักเสบที่เกิดขึ้นในร่างกาย ทั้งจากการกินอาหารเนื้อไม่กินผักผลไม้ กากใยที่มีการปนเปื้อนสารเคมี และมลพิษต่างๆ รวมทั้งPM2.5 ซึ่งจะเข้าไปกระทบสมอง ไปจุดชนวนให้การอักเสบลุกลามในสมอง รวมทั้งกระพือการเพิ่มการสร้างของโปรตีนที่ผิดปกติ และขัดขวางการกำจัดขยะพิษเหล่านี้