คอลัมน์ “Golf Healing” โดย “พลโทนายแพทย์ สมศักดิ์ เถกิงเกียรติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกประจำโรงพยาบาลพระมงกุฎ และ โรงพยาบาลรามคำแหง มีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยมากกว่า 30 ปี somsak_doctor@hotmail.com”
วันนี้เจ้าเก่งมีท่าทีแปลกๆ เข้ามากระซิบกระซาบกับพี่หมอ "พี่หมอครับ" อะไรวะรำคาญจริงไอ้อ้วน
"ก็ไอ้อ้อยแคดดี้คนสวยของเฮียมันขายผักไฮโดรโปนิกส์เฮียเลยอุดหนุนซื้อไปฝากซ้อถุงเบ้อเร่อเลย แต่เขาว่ากินแล้วจะเป็นมะเร็งเต้านมจริงไหมฮะ"
"ไม่จริง" พี่หมอยืนยัน
นพ.พูลลาภ อินทวิจิตรวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่าการที่มีการส่งต่อข้อความผ่านสื่อโซเชียลมีเดียในลักษณะที่ว่าบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์แล้วเสี่ยงเป็นมะเร็ง โดยงานวิจัยเมื่อ 3 ปีที่แล้วโรงพยาบาลใหญ่ 5 แห่งในกรุงเทพฯ วิจัยสาเหตุมะเร็งเพิ่มขึ้น 300 เปอร์เซนต์เกิดจากการกินผักไฮโดรโปนิกส์ เพราะมีฟอสฟอรัสมากเกินขนาดเป็นสาเหตุของมะเร็งเต้านม ซึ่งอย.ได้ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวแล้วพบว่า ข้อมูลที่ถูกส่งต่อนั้นมีการส่งต่อและวนกลับมาเป็นระยะ ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด โดยผักไฮโดรโปนิกส์ไม่ใช่ผักออร์แกนิก ดังนั้นจึงสามารถใชช้สารเคมีในการเพาะปลูกได้ แต่ต้องปฎิบัติตามหลักทางการเกษตรและมีปริมาณสารพิษตกค้างรวมทั้งสารปนเปื้อนไม่เกินปริมาณตามที่ประกาศของกระทรวงสาธารณสุขกำหนด
ปัจจุบันยังไม่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์หรือมีงานวิจัยทั้งในประเทศและระดับนานาชาติยืนยันว่าฟอสฟอรัสเชื่อมโยงกับการเกิดมะเร็งเต้านมรวมถึงยังไม่มีการยืนยันว่าสารไนเตรตที่พบอยู่ตามธรรมชาติในอาหาร ซึ่งถูกเปลี่ยนเป็นไนเตรตในระบบย่อยอาหาร ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งสำหรับความกังวลเรื่องปริมาณสารไนเตรตในผักไฮโดรโปนิกส์ปริมาณสูงเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งนั้น ความเป็นจริงไนเตรตเป็นสารที่พบได้ทั้งผักที่ปลูกในดินและผักไฮโดรโปนิกส์ ถ้าพืชมีการเจริญเติบโตและสังเคราะห์แสงที่ปกติโอกาสที่จะเกิดการสะสมไนเตรตจนถึงระดับที่ไม่ปลอดภัยต่อการบริโภคจึงมีน้อยมาก นอกจากนี้ทางอย.ยังไม่เคยพิจารณาในประเด็นดังกล่าว เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลที่บ่งชี้ที่แน่ชัด
รองเลขาธิการจึงขอเตือนผู้บริโภคอย่าหลงเชื่อข้อความที่ส่งต่อกัน เนื่องจากยังไม่มีการยืนยันว่าบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์แล้วเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง ทั้งนี้หากกังวลเรื่องปริมาณไนเตรตอาจใช้วิธีนึ่งหรือต้มผักเป็นเวลา 10 นาที หรือนำผักแช่ในน้ำสารละลายด่างทับทิมและน้ำเกลือจะช่วยลดปริมาณไนเตรตได้และไม่ควรกินผักหรือผลไม้ชนิดใดชนิดหนึ่งเป็นประจำควรกินให้หลากหลายหมุนเวียนกันไปหรือบริโภคผักผลไม้ตามฤดูกาลและบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมหรือลดการรับพิษสะสมรวมถึงการเลือกซื้อผักที่ได้รับตรารับรองคุณภาพ GAP หรือ GMP หรือตรารับรองเกษตรอินทรีย์เพื่อความปลอดภัยในการบริโภค